ชัยภูมิอ่วมซ้ำ น้ำป่าซัดจมเมืองภูเขียว ย่านเศรษฐกิจการค้าถนนหนทางถูกตัดขาด บิ๊กตู่สั่งแบงก์ เร่งเยียวยา

ร้อยเอ็ดยังไม่พ้นวิกฤติ น้ำทะลัก พนังกั้นแตกขยายวงกว้าง หมู่บ้าน ติดเกาะถูกน้ำล้อมรอบต้องเร่งอพยพชาวบ้านพร้อมเสริมแนวกระสอบทรายหวั่นแตกเพิ่ม ชัยภูมิอ่วมซ้ำน้ำป่าซัดจมเมืองภูเขียว ย่านเศรษฐกิจการค้าถนนหนทางถูกตัดขาด ปราจีนยังหนัก แควหนุมานเอ่อล้นตลาดกบินทร์จมบาดาลรอบ 4 นายกฯสั่งธนาคาร และสถาบันการเงินของรัฐบาลจัดมาตรการเยียวยาผู้ประสบภัย พักชำระหนี้และสนับสนุนสินเชื่อเพิ่ม อุตุฯแจ้งเตือนภาคเหนือตอนล่าง กลาง และอีสาน ยังโดนฝนถล่มหนัก

วิกฤติน้ำท่วมหนักยังอยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำชี มวลน้ำก้อนใหญ่อยู่ที่ จ.ร้อยเอ็ด เกิดเหตุพนังกั้นน้ำแตก 2 จุดใน ต.ดงสิงห์ อ.จังหาร ทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรนาข้าวเป็นบริเวณกว้าง ขณะที่ประเทศไทยยังมีร่องมรสุมพาดผ่านทำให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่

น้ำทะลักพนังแตกขยายวงกว้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วม จ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 16 ต.ค. หลังจากพนังกั้นลำน้ำชีแตก 2 จุด ที่บ้านดินแดง หมู่ 3 และที่บ้านเปลือยตาล หมู่ 5 ต.ดงสิงห์ อ.จังหาร น้ำจากแม่น้ำชีไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร ขยายวงกว้างจาก 3 หมู่บ้านออกไปเป็น 6 หมู่บ้าน พื้นที่นาข้าวเสียหายกว่า 2 พันไร่ มีชาวบ้านที่อยู่ริมทุ่งท้ายหมู่บ้านดินแดงและบ้านเปลือยตาลถูกน้ำท่วมไปแล้วนับ 20 หลัง สร้างความกังวลให้กับชาวบ้านในหมู่บ้านที่ถูกมวลน้ำล้อมรอบไว้ ต่อมานายทวีสิทธิ์ มนตรีชน นายกเทศมนตรี ตำบลดงสิงห์ นำกำลังฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ ปภ. ทหาร มทบ.27 สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ DRAT กู้ภัยสว่างจรรยาธรรม ลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง พร้อมนำเรือท้องแบนออกตรวจสอบพนังกั้นน้ำที่เปราะบางวางเสริมแนวกระสอบทรายไม่ให้แตกเพิ่มอีก ส่วนจุดที่พนังแตก 2 จุด ยังซ่อมแซมไม่ได้เนื่องจากไม่สามารถนำเครื่องจักรหนักเข้าพื้นที่ได้

ทหารช่วยชาวบ้านขนของ

นายบุญโสม สิทธิเสนา อายุ 68 ปี ชาวบ้านเปลือยตาล ที่ถูกน้ำท่วมบ้านสูงประมาณ 70 ซม.เล่าว่า น้ำเริ่มไหลเข้าบ้านตั้งแต่ 6 โมงเช้าวันนี้ หลังจากพนังขาดเมื่อวันที่ 15 ต.ค. ตนขนย้ายสิ่งของขนาดใหญ่หนีน้ำไม่ไหว ขอให้เจ้าหน้าที่ทหารและกู้ภัยมาช่วยขนย้ายไว้ที่สูง ดีใจมากและขอบคุณผู้บัญชาการ มทบ.27 ที่ส่งกำลังพลมาให้การช่วยเหลือ สำหรับน้ำในปีนี้คาดการณ์ว่าจะขึ้นเร็วกว่าเมื่อปี 2554 เพราะมีมวลน้ำสะสมจำนวนมากไหลมาจากอีสานตอนบน ประกอบกับมีฝนตกสะสมในพื้นที่

คันดินแตกชุมชนโรงอิฐจม 2 เมตร

ชุดกู้ภัยทางน้ำหน่วยกู้ภัยเมตตาธรรม หน่วยกู้ภัยอโสก รับแจ้งเหตุคันดินกั้นน้ำแตก ทำให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมชุมชนโรงอิฐ บ้านดินแดง หมู่ 3 ต.ดงสิงห์ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด เป็นคันดินกั้นน้ำไม่ให้ไหลเข้าชุมชน ถูกน้ำเซาะขาดเป็นช่อง ช่องละ 3-5 เมตร 4-5 ช่อง ระยะทางยาวกว่า 30 เมตร มวลน้ำไหลทะลักเข้าท่วมโรงอิฐแดงกว่า 10 โรง ระดับสูงกว่า 2 เมตร มีชาวบ้านติดอยู่ในโรงอิฐ 10 กว่าหลังรวมกว่า 30 ชีวิต หน่วยกู้ภัยนำเรือท้องแบนติดเครื่องยนต์ 4 ลำ เข้าให้การช่วยเหลืออพยพชาวบ้านและขนย้ายสิ่งของ พบว่ามีหญิงท้องแก่ คนชรา และเด็กติดอยู่ในบ้านด้วย รีบพาลงเรือฝ่ามวลน้ำที่ท่วมสูงออกมาได้อย่างปลอดภัย

น้ำป่าถล่มตัวเมืองภูเขียว

จ.ชัยภูมิ เขื่อนจุฬาภรณ์ อ.คอนสาร ปริมาณน้ำเต็มความจุ 100% ที่ 164 ล้าน ลบ.ม.แล้ว ต้องยกประตูระบายน้ำออกไปลำห้วยกุ่ม ประกอบกับมีฝนตกหนักจนเกิดน้ำป่าไหลหลากมาสมทบ ทำให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอภูเขียว อย่างรวดเร็ว ประชาชนไม่ทันตั้งตัวถูกกระแสน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและร้านค้า โดยเฉพาะบริเวณสี่แยกศาลเจ้าแม่ทับทิมภูเขียว หรือแยก ธ.ก.ส.สาขาภูเขียว มวลน้ำไหลเชี่ยวบนถนนสูง 50-60 ซม. รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ เจ้าหน้าที่เร่งอพยพผู้คนและมีการปิดการจราจรบางเส้นทาง

ไหลเชี่ยวซัดถนนตัดขาด

ชาวบ้านเล่าว่า ช่วง 7 โมงเช้าน้ำเริ่มไหลทะลักผ่านเข้ามายังเส้นทางดังกล่าว ต้องรีบขนย้ายข้าวของหนีน้ำกันจ้าละหวั่น ขอความร่วมมือให้รถที่ขับผ่านชะลอความเร็วเนื่องจากมีน้ำซัดเข้าตัวบ้านอย่างต่อเนื่อง ปริมาณน้ำมากสุดในรอบ 10 ปี หลังจากมีฝนตกหนักทำให้น้ำมาอย่างรวดเร็ว ถนนหลายสายในตัวอำเภอถูกตัดขาดเนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวและค่อนข้างแรง เบื้องต้นมีชาวบ้านกว่า 1 พันครอบครัวได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งต้องปิดเส้นทางการจราจรห้ามรถทุกชนิดเข้าไปยังถนนกลางตัวอำเภอภูเขียวเป็นการชั่วคราวจนกว่าน้ำท่วมถนนจะลดลง

สารคาม 3 อำเภอคลี่คลาย

นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผวจ.มหาสารคาม เผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.กันทรวิชัย และ อ.เมืองมหาสารคาม เริ่มทรงตัว ส่วน อ.โกสุมพิสัย เริ่มลดลงบ้างเล็กน้อย เพราะมวลน้ำส่วนใหญ่ไหลไปถึง จ.ร้อยเอ็ดแล้ว ทั้งนี้ยังคงต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ พร้อมสั่งกำชับนายอำเภอประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำให้ประชาชนรับทราบอย่างต่อเนื่อง พร้อมเตรียมแผนเผชิญเหตุให้พร้อมตลอด 24 ชม.

มอบอาหารสัตว์ช่วยเกษตรกร

น.สพ.สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ มอบหมายให้ น.สพ.บุญญกฤช ปิ่นประสงค์ ผอ.สำนักควบคุม ป้องกัน และบำบัดโรคสัตว์ นายวิวัฒน์ ไชยชะอุ่ม ผอ.กองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดมหาสารคาม ลงพื้นที่มอบอาหารสัตว์ เวชภัณฑ์ยาสัตว์ และหญ้าแห้งน้ำหนักรวม 4,000 กก. ให้เกษตรกรผู้ประสบภัยที่จุดอพยพสัตว์บ้านโนนตูมโขงกุดหวาย ต.เกิ้ง อ.เมืองมหาสารคาม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและสร้างขวัญกำลังใจเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนใน 3 หมู่บ้านรวม 40 ราย มีโค 132 ตัว และกระบือ 57 ตัว

สั่งสร้างพนังกั้นลำน้ำจักราช

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา นำคณะลงเรือท้องแบนเข้าไปมอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบภัย ที่บ้านวังกุ่ม หมู่ 14 ต.ในเมือง อ.พิมาย มีนายเศรษฐี แพรกนัทที ปลัดอาวุโส รักษาราชการแทน นอภ.พิมาย ให้การต้อนรับและรายงานสถานการณ์น้ำของอำเภอพิมาย ยังถูกน้ำท่วมขังอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำอยู่ติดลำน้ำมูลและลำน้ำจักราช โดยเฉพาะที่บ้านวังกุ่มจะถูกน้ำท่วมหนักทุกปี ตอนนี้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้วเหลือประมาณ 50-60 ซม. ด้านนายวิเชียรเผยว่า มีโครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของบ้านวังกุ่มคือจะสร้างพนังกั้นลำน้ำจักราชเป็นระยะทางกว่า 3 กม.เพื่อกั้นไม่ให้เอ่อเข้าท่วมหมู่บ้านและจะต้องมีเครื่องสูบน้ำออกจากหมู่บ้านลงลำน้ำจักราชและลำน้ำมูล คิดว่าถ้ามีการก่อสร้างพนังกั้นน้ำเสร็จจะสามารถป้องกันการเกิดน้ำท่วมในจุดนี้ได้

ตลาดเก่ากบินทร์จมซ้ำรอบ 4

หลังจากนายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ผวจ.ปราจีนบุรี ออกประกาศเตือนฝนตกหนักถึงหนักมากและมีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา อ.นาดี เป็นจำนวนมาก ล่าสุดปริมาณน้ำในอ่าง 306.99 ล้าน ลบ.ม.หรือ 104.06% ของความจุ 295 ล้าน ลบ.ม. จึงมีความจำเป็นต้องระบายน้ำออกจากอ่างเพื่อความปลอดภัยของตัวเขื่อนในอัตราวันละ 10 ล้าน ลบ.ม. ประกอบกับมีฝนตกหนักในพื้นที่ ทำให้ปริมาณน้ำในแควหนุมานเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรที่บริเวณชุมชนตลาดเก่าเทศบาลตำบลกบินทร์ อ.กบินทร์บุรี เป็นครั้งที่ 4 ในรอบปี ระดับน้ำสูงกว่า 45 ซม. ชาวบ้านต้องกลับมาใช้ชีวิตในการเดินทางลุยน้ำและใช้เรือในการเดินทางเข้าออกอีกครั้ง พระสงฆ์จากวัดใหม่ท่าพาณิชย์ ที่เคย ไปรับบาตรจากชาวบ้านในชุมชนตลาดเก่าต้องเดินลุยน้ำไปด้วย

น้ำป่าเขาใหญ่เข้าหลายชุมชน

ส่วนน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรใน อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ปริมาณน้ำเริ่มกระจายขยายวงกว้างขึ้น ทำให้ชุมชนบ้านโง้ง บ้านอินไตย บ้านห้วยขื่อ ต.โพธิ์งาม ระดับน้ำสูงขึ้น ส่วนถนนสุวรรณศรที่น้ำท่วมสูงเกือบ 30 ซม. เจ้าหน้าที่นำรถแบ็กโฮมาเปิดทางระบายน้ำออก ทำให้น้ำลดลงเหลือ 20 ซม. นอกจากนี้น้ำป่าจากเขาใหญ่ยังไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่หมู่ 7 ต.โคกไม้ลาย อ.เมืองปราจีนบุรี มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 20 หลัง บางหลังเก็บของไม่ทันถูกน้ำพัดหายไปกับสายน้ำ นายสืบศักดิ์ นีสกุล ปลัดฝ่ายปกครอง รรท.นอภ.เมืองปราจีนบุรี นำกำลังฝ่ายปกครอง ทหาร และตำรวจ สภ.เมืองปราจีนบุรี ลงพื้นที่ช่วยกันขนย้ายกระสอบทรายเข้าไปทำแนวกั้นน้ำ สอบถามชาวบ้านบอกว่า น้ำท่วมครั้งนี้หนักกว่าเมื่อปี 54 สาเหตุจากฝนตกหนักมากและน้ำในอ่างเก็บน้ำคลองยางเพิ่มสูงขึ้นทำให้ไหลหลากเข้าท่วมหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว

ช่วยย้ายแม่เฒ่าป่วยติดเตียง

ศูนย์วิทยุเมืองนครนายกรับแจ้งเหตุน้ำป่าไหลเข้าในบ้านมีหญิงชรานอนติดเตียงอยู่ด้วย ประสานศูนย์วิทยุสว่างอริยะจุดเมืองนครนายก พร้อมสายตรวจรถจักรยานยนต์จุดท่าช้าง ส่งทีมกู้ภัยและตำรวจเข้าไปที่บ้านไม้สองชั้น เลขที่ 14 หมู่ 3 ต.ท่าทราย อ.เมืองนครนายก มีน้ำท่วมไหลเข้าบ้าน พบนายธวัชชัย คงกระพันธ์ อายุ 65 ปี และนางบุญเลี้ยง คงกระพันธ์ อายุ 64 ปี สองสามีภรรยาพาเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยนำตัวนางเหนียง คงกระพันธ์ มารดาวัย 85 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียงนอนอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน ขึ้นเปลสนามเดินลุยน้ำออกมาส่งที่บ้านของลูกชายที่อยู่ใกล้กันซึ่งเป็นพื้นที่สูงได้อย่างปลอดภัย

“ชวน” นำทีม พม.ช่วยชาวสิงห์บุรี

ที่ อบต.น้ำตาล อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมผู้บริหารกระทรวง การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ลงพื้นที่นำถุงยังชีพจาก พม.และสมาคมจิ้นเจียง-ฉวนโจวประมาณ 500 ชุด แจกผู้ประสบอุทกภัย อาทิ หมู่ 4-5 และหมู่ 8 ต.น้ำตาล จากนั้นนั่งเรือท้องแบนเข้าไปเยี่ยมเยียนชาวบ้าน และเดินลุยน้ำ มอบสิ่งของที่หมู่ 7 นายอิสระกล่าวว่า การลงพื้นที่ สิงห์บุรีของนายชวน ไม่นัดหมายกันล่วงหน้าเพราะต้องการลงมาดูความเดือดร้อนที่แท้จริงของชาวบ้าน

ตาคลีฝนถล่มจมหมู่บ้าน

จ.นครสวรรค์ เกิดฝนตกหนักและมีน้ำท่วมขังในหมู่บ้านรจนา (เขาใบไม้) หมู่ 6 ต.ตาคลี อ.ตาคลี โดยเฉพาะท้ายซอยที่น้ำท่วมสูงเนื่องจากเป็นพื้นที่ต่ำและติดกับรางน้ำทางรถไฟทำให้น้ำระบายได้ช้า จ.ส.อ.อานนท์ ดิษฐ์หร่าย ปลัด อบต.ตาคลี นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้าน พร้อมเผยว่า ช่วงนี้ยังมีฝนตกอยู่และมีน้ำท่วมขัง นำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้ง 2 จุดเพื่อช่วยเหลือเบื้องต้น พร้อมเตรียมแผนเผชิญเหตุในการอพยพคนและช่วยเหลือขนสิ่งของ โดยประสานกองบิน 4 นำรถจีเอ็มซีมาขนย้ายผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงก่อน นำไปอยู่ศูนย์พักพิงชั่วคราวที่วัดเขาใบไม้ จัดเตรียมอาหารน้ำดื่มไว้พร้อมหากมีเหตุฉุกเฉิน

ทอ.บินถ่ายภาพเมืองลพบุรี

ส่วนกรณีที่ จ.ลพบุรี ประสานไปยังศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ ขอรับการสนับสนุนภาพถ่ายทางอากาศในจุดเสี่ยงต่างๆของจังหวัดเพื่อนำไปวิเคราะห์สถานการณ์และแนวโน้มการเกิดอุทกภัย ล่าสุด พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผบ.ทอ.สั่งการให้ น.อ.เนาวมรัตน์ ประพัฒน์ทอง ผู้บังคับการกองบิน 4 ตาคลี จ.นครสวรรค์ จัดเครื่องบินตรวจการณ์และฝึกแบบที่ 20 ก (DA42 M-NG) ขึ้นปฏิบัติภารกิจบินลาดตระเวนถ่ายภาพทางอากาศในพิกัดเป้าหมายที่ได้รับการประสาน ได้แก่ พื้นที่จุดเสี่ยงใน อ.บ้านหมี่ อ.ท่าวุ้ง อ.โคกสำโรง และ อ.เมืองลพบุรี จากนั้นนำภาพถ่ายทางอากาศและภาพเคลื่อนไหวส่งต่อให้จังหวัดลพบุรีเพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป ทั้งนี้ ผบ.ทอ.เน้นย้ำให้ทุกหน่วยของกองทัพอากาศสนับ สนุนกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และขีดความสามารถอื่นๆ ช่วยเหลือประชาชาชนอย่างเต็มกำลัง

น.1 สั่งจราจรรับมือน้ำท่วมกรุง

พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาจราจรช่วงฝนตกหนักและน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯว่า มีการตรวจสอบข้อมูลสภาพอากาศทุกวัน รวมทั้งสั่งการให้ตำรวจจราจรมีแผนเคลื่อนย้ายรถเสียออกจากพื้นผิวจราจรโดยเร็วที่สุด ส่วนปริมาณน้ำที่ท่วมขังอยู่บนถนนส่วนใหญ่เป็นน้ำที่ระบายไม่ทัน จึงประสานกับทุกหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทุกวันจันทร์ ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพมหานคร สำนักการระบายน้ำ อธิบายแผนรับมือในส่วนของตำรวจ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. สั่งการให้ตำรวจจราจรและตำรวจทุก สน.ต้องออกช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และปรากฏกายให้เห็นเมื่อมีรถเสียต้องนำออกทันที

แบงก์รัฐจัดมาตรการเยียวยา

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีความห่วงใย สั่งให้ช่วยเหลือประชาชน เกษตรกร ผู้ประกอบการรายย่อย SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยปี 64 ให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย บริษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จัดทำมาตรการพักชำระหนี้และสนับสนุนสินเชื่อเพิ่มเติมเพื่อเป็นการช่วยเหลือ

เงื่อนไข “ออมสิน–ธ.ก.ส.–ธอส.”

แต่ละธนาคารมีเงื่อนไขที่น่าสนใจแตกต่างกัน ได้แก่ 1.ธนาคารออมสิน พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยนาน 3 เดือน ยื่นคำขอเข้าร่วมได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ธ.ค.64/มาตรการสนับสนุนสินเชื่อฉุกเฉิน สินเชื่อสำหรับลูกค้ารายย่อย สินเชื่อเคหะ สินเชื่อสำหรับผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) 2.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พักชำระหนี้ไม่เกิน 12 เดือน และไม่คิดดอกเบี้ยปรับ/สนับสนุนสินเชื่อฉุกเฉิน วงเงินกู้รายละไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี เป็นเวลา 6 เดือน และระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 3 ปี 3.ธนาคาร อาคารสงเคราะห์ ลูกค้าเดิมที่หลักประกันได้รับความเสียหาย สามารถขอรับการลดดอกเบี้ยเหลือ 0% ต่อปี เป็นเวลา 4 เดือน ลูกหนี้เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร หลักประกันเสียหายทั้งหลังไม่สามารถซ่อมแซมได้ สามารถขอรับปลอดหนี้ในส่วนราคาอาคาร และให้ผ่อนชำระต่อเฉพาะในส่วนของที่ดินคงเหลือเท่านั้น เป็นต้น

ลดค่างวดพักชำระหนี้–ดอกเบี้ย

4.ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ลูกค้าที่มีการกู้ยืมแบบมีระยะเวลา (Term Loan) จะได้รับการพักชำระเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 3 เดือน/มาตรการสินเชื่อฉุกเฉิน อัตราดอกเบี้ย 4.99% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา ระยะเวลากู้สูงสุด ไม่เกิน 5 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 1 ปี เป็นต้น 5.ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ช่วยเหลือโดยการพักชำระหนี้เงินต้น ชำระเฉพาะกำไรเป็นระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน และขยายระยะเวลาชำระหนี้ออกไป ไม่เกินระยะเวลาที่พักชำระ และยกเว้นค่าชดเชยผิดนัดชำระ สามารถยื่นคำขอเข้าร่วมได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ต.ค.64 และ 6.บริษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ช่วยเหลือลูกค้าและผู้ประกอบการ SMEs ลดค่างวด โดยผ่อนจ่าย 20% หรือจ่ายขั้นต่ำ 500 บาท สูงสุด 3 เดือน พักชำระหนี้ลูกค้าที่ค้างชำระหนี้ไม่เกิน 3 เดือน และพักดอกเบี้ยเกิดใหม่ ยื่นคำขอตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ต.ค.64 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารแต่ละแห่ง

อุตุฯเตือนฝนหนักแทบทุกภาค

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ส่งผลให้บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ ภาคกลาง มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก พิษณุโลก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม สมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล กับมีฝนตกหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะ 1-2 วันนี้ไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวัง ส่วนเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง