นักลงทุนต่างชาติไม่มั่นใจเศรษฐกิจไทยใน”วันนี้”

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด สำรวจความคิดเห็นนักลงทุนต่างประเทศทั่วโลก ส่วนใหญ่ยังไม่มั่นใจเศรษฐกิจไทย

ดร.ทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) กล่าวว่า จากการระบาดของโควิดระลอกใหม่กระทบกับเศรษฐกิจไทยอย่างรุนแรง ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยระยะสั่นยังน่ากังวล แต่ความมั่นใจในระยะยาวยังดีอยู่

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดได้พบนักลงทุนสถาบันต่างชาติเมื่อไม่นานมานี้ รวมทั้งได้จัดงานสัมมนาออนไลน์อัพเดททิศทางเศรษฐกิจให้กับลูกค้า พบว่านักลงทุนและลูกค้ายังมีความกังวลกับความไม่แน่นอนในภาพรวมเศรษฐกิจไทย

“จากโรดโชว์ของเรา นักลงทุนถามถึงทิศทางของนโยบายการเงินและนโยบายการคลังของไทย และถามว่า ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน เรามองค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐฯอย่างไร เนื่องจากเงินบาทอ่อนค่าที่สุดในภูมิภาคตั้งแต่ต้นปี” ดร.ทิม กล่าว จากงานสัมมนาออนไลน์อัพเดททิศทางเศรษฐกิจของธนาคาร พบว่าผู้เข้าร่วมงานสัมมนาที่เป็นนักลงทุนจากทั่วโลก 150 ท่าน มีถึง 90% มองว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยยังมีความไม่แน่นอนสูง

“ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิถุนายนลดลงต่ำสุดในรอบ 22 ปี และคาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไปจนถึงไตรมาสสุดท้ายของปี หรืออาจจะต่อเนื่องไปถึงต้นปีหน้า” ดร.ทิมกล่าว

แม้ขณะนี้ภาพรวมเศรษฐกิจยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แต่จากบทวิจัยล่าสุดของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดพบว่า บริษัทต่างชาติ รวมถึงบริษัทจากยุโรป มองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจมายังภูมิภาคอาเซียนโดยเฉพาะประเทศไทย เวียดนาม และมาเลเซีย

ทั้งนี้ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ปรับประมาณการเศรษฐกิจปี 2564 มอง จาก 3.1% เหลือ 1.8% ซึ่งสูงกว่าที่อื่นที่มีกาคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยอาจจะขยายตัวได้ไม่ถึง 1% หรือ ไม่ขยายตัวเลย หรือ ขยายตัวติดลบ ซึ่งธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ยังเห็นว่าเป็นเรื่องที่ประเมินได้ยาก เพราะว่ายังไม่รู้ว่าการคุมโควิดได้ดีขนาดไหน การล็อกดาวน์ประเทศจะมากแค่ไหน และนานอีกเท่าไร สำหรับปี 2565 ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดว่าเศรษฐกิจจะโต 3.1%