ผบช.สตม.กำชับเข้มทุกด่าน ช่องทางธรรมชาติ ป้องกันผู้กำกับโจ้หนีออกนอกประเทศ

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2564 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. เปิดเผยถึงกรณี ผู้กำกับโจ้ หรือ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครสวรรค์ เลขที่ จ.187/2564 ลง 25 สิงหาคม 2564 ในข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด, ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจกระทำการใดฯ และร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน หรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย” ว่า ขณะนี้ได้กำชับให้ด่านตรวจเข้าเมืองทั่วประเทศ ช่วยเฝ้าระวัง เนื่องจากปัจจุบันด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศอยู่ระหว่างปิดทำการเนื่องจากมีวิกฤติโรคโควิด-19 และห้ามมีคนเข้าออกประเทศ แต่ยังอนุญาตเฉพาะรถส่งสินค้าจำเป็น พร้อมกำชับให้ด่านตรวจคนเข้าเมืองร่วมบูรณาการกับฝ่ายความมั่นคงในการตรวจสอบด่านธรรมชาติทั่วประเทศ ทั้งทางอากาศ ทางน้ำ ในพื้นที่จังหวัดระนองที่มีทะเลเชื่อมประเทศเพื่อนบ้าน

นอกจากนี้ยังสั่งกำชับให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเฝ้าระวังบุคคลที่ไม่มีหมายจับ แต่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี ตามที่ ผบ.ตร.ระบุถึง 13 นาย โดยถ้าพบตัวให้ล็อกตัวได้ และส่งไปหน่วยงานที่รับผิดชอบ และหากมีปัญหาตัวเองจะเป็นผู้รับผิดชอบในการกระทำของเจ้าหน้าที่ทุกนาย

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ผู้กำกับโจ้ หลบหนีไปเชียงแสนและแม่สอดเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะนี้ยังไม่มีรายงานหรือมีสิ่งบอกเหตุ แต่ยืนยันว่าในพื้นที่ภาค 6 มีรอยต่อกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งแม่สอด อุตรดิตถ์ น่าน ซึ่งเบื้องต้นจากการตรวจสอบฐานข้อมูลกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และระบบไบโอเมตริกส์ ยังไม่พบรายชื่อผู้ต้องหาเข้าสู่ระบบเดินทางเข้าออกประเทศ

พล.ต.ท.สมพงษ์ เปิดเผยอีกว่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้กลุ่มผู้ต้องหาหลบหนีออกนอกประเทศ เนื่องจากเป็นการกระทำที่ทำให้ตำรวจเสียภาพลักษณ์ และตัวเองก็รับไม่ได้ โดยจะมีการตรวจสอบประวัติการเดินทางย้อนหลังของกลุ่มผู้ต้องหาว่ามีความสัมพันธ์กับประเทศใดเป็นพิเศษหรือไม่.