สิ้นตำนาน!! ราชินีร็อกแอนด์โรลล์ “ทีนา-เทอร์เนอร์” เสียชีวิตในวัย 83 ปี

ทีนา เทอร์เนอร์ ศิลปินหญิงชาวอเมริกัน ผู้ได้ชื่อว่าเป็นตำนานราชินีร็อกแอนด์โรลล์ เสียชีวิตเมื่อวันพุธ ด้วยวัย 83 ปี ตามรายงานของรอยเตอร์

ตัวแทนของเทอร์เนอร์ ระบุว่าเธอจากไปอย่างสงบด้วยอาการเจ็บป่วยเรื้อรังที่บ้านของเธอ ในคุชนากท์ ใกล้กับซูริค สวิตเซอร์แลนด์

ทีนา เทอร์เนอร์ หรือ แอนนา เม บุลล็อค เกิดเมื่อ 26 พฤศจิกายน ปี 1939 ในรัฐเทนเนสซี เริ่มต้นเส้นทางสายดนตรีในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1950 ซึ่งเป็นยุคแรกเริ่มของดนตรีแนวร็อกแอนด์โรลล์และปรับตัวตามกระแสในยุคแห่งเอ็มทีวี

ในมิวสิควิดีโอ “What’s Love Got to Do with It” หนึ่งในเพลงดังทะลุชาร์ตแห่งยุคของเธอ เทอร์เนอร์เฉิดฉายในสไตล์ผมบลอนด์ชี้พุ่งอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมเสื้อยีนส์สั้นเอวลอย กระโปรงสั้นกุด และรองเท้าส้นสูง อันเป็นลุคซิคเนเจอร์ที่สร้างการจดจำมาจนปัจจุบัน

เทอร์เนอร์ ซึ่งได้รับการขนานนามว่า ราชินีร็อกแอนด์โรลล์ กวาดรางวัลแกรมมีอวอร์ดมา 8 รางวัล เป็นศิลปินหญิงผิวสีคนแรกที่ขึ้นปกนิตยสาร Rolling Stone และเทอร์เนอร์ยังอยู่ในรายชื่อ top 100 artists of all time

บทเพลงหลายสิบเพลงของเธอฮิตติดชาร์ต อาทิ “Typical Male”, “The Best”, “Private Dancer” และ “Better Be Good to Me” การแสดงคอนเสิร์ตของเธอในปี 1988 ในนครริโอ เดอ จาเนโร ตรึงตาผู้ชม 180,000 คนในยุคนั้น ซึ่งยังคงเป็นหนึ่งในคอนเสิร์ตที่ใหญ่ที่สุดที่มีผู้ชมล้นหลามเรือนแสนที่รอชมศิลปินเพียงคนเดียว

ชีวิตรักของเทอร์เนอร์นั้นไม่ราบเรียบนัก ซูเปอร์สตาร์หญิงชาวอเมริกันรายนี้เผชิญกับการทำร้ายร่างกายโดยสามีมือกีตาร์ ไอค์ เทอร์เนอร์ ผู้ซึ่งพาเธอเข้าสู่วงการดนตรี มาเป็นสิบปี

หลังจากเลิกรากับสามี เธอใช้เวลานานหลายปีเพื่อกลับสู่วงการ ด้วยการออกอัลบัมเดี่ยว ช่วงปี 1984 Private Dancer ในบทเพลงเดี่ยว What’s Love Got to Do With It ซึ่งถือเป็นการคัมแบคอย่างยิ่งใหญ่ของเทอร์เนอร์ ด้วยยอดขายกว่า 200 ล้านอัลบัม

ก่อนที่ในปี 1985 เทอร์เนอร์จะพบกับผู้บริหารค่ายเพลงเยอรมนีเออร์วิน บาคห์ และย้ายไปอังกฤษในปี 1988 และเริ่มต้นทำเพลงในยุโรป 2 อัลบัม รวมทั้งทำเพลงประกอบภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ GoldenEye และจัดคอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์ในปี 2008 และ 2009 ก่อนจะประกาศแขวนไมค์ แต่งงานกับบาคห์ และละทิ้งสัญชาติอเมริกันเพื่อไปเป็นพลเมืองสวิตเซอร์แลนด์

เทอร์เนอร์ เผชิญกับปัญหาสุขภาพรุมเร้าหลังแขวนไมค์ และในปี 2018 เธอสูญเสียลูกชายคนโต เครก ที่ฆ่าตัวตายในนครลอสแอนเจลิสในวัย 59 ปี และรอนนี ลูกชายอีกคนของเธอมาด่วนจากไปเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน

ขอขอบคุณ

ภาพ :Giuseppe CACACE / AFP