เลือกตั้งซ่อม! ส.ส.กทม.เขต 9 หลักสี่-จตุจักร ใคร? จะมาเเทน “สิระ”

วัดคะแนนนิยมผ่านสนามเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 9 หลักสี่-จตุจักร

ภายในเดือนมกราคม 2565 พื้นที่เขต 9 กทม. หลักสี่-จตุจักร จะมี ส.ส.คนใหม่ แทน นายสิระ เจนจาคะ ที่ศาลรัฐธรรมนูญาวินิจฉัยว่าขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส.ส่งผลให้สิ้นสมาชิกภาพ ไปเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2564 แม้จะเป็นพื้นที่เพียงเขตเดียวและมีระยะเวลาการหาเสียงไม่มาก แต่หลายพรรคการเมืองตัดสินใจส่งผู้สมัครลงชิงชัย

เริ่มจากพรรคก้าวไกล ส่งนายกรุณพล เทียนสุวรรณ อายุ 45 ปี สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ภาควิชาเศรษฐศาสตร์เกษตรและทรัพยากร เขาเข้าสู่วงการบันเทิง เป็นนักแสดงตั้งแต่ปี 2544 ตัดสินใจเดินเข้าสู่เส้นทางการเมือง ในปี 2563 ประกาศจุดยืนตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล และเรียกร้องรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

“ไม่กังวลจะเป็นใครก็ได้ จะเป็นคุณสิระกลับมาก็ได้ หรือจะเป็นพรรคการเมืองไหนก็ได้ เพราะว่าอย่างไรคือสนามแข่งขันที่เราต้องแข่งขันต่อสู้กัน เหมือนสนามสอบทุกคนอ่านหนังสือทำการบ้าน ทำแบบฝึกหัดมา มาวัดกันวันเลือกตั้งใครจะได้คะแนนมากกว่าใครเป็นที่ไว้วางใจประชาชนมากกว่ากัน” นายกรุณพล กล่าว

พรรคก้าวไกลมั่นใจเช่นกันว่าเราจะปักธงในพื้นที่เขต 9 ในครั้งนี้จะเป็นการล้มพรรคการเมืองทุกพรรค จะทำให้คำว่าเลือกเขาดีกว่าเราไม่เกิดขึ้นอีก เพราะว่าพรรคการเมืองแต่ละพรรคมีนโยบายแตกต่างกันมีการขับเคลื่อนที่แตกต่างกัน พรรคการเมืองไม่สามารถทำงานแทนกันได้ พรรคก้าวไกลขอโอกาสครั้งนี้ที่จะมาผลักดันนโยบายของพรรคให้กับประชาชนในพื้นที่

พรรคไทยภักดี ส่งนายพันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์ อายุ 43 ปี นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง เคยดำรงตำแหน่งซีอีโอบริษัทหลายบริษัท ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เคยเป็นผู้ชานาญการกรรมมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชนและการมีสวนร่วมของ ประชาชน อนุกรรมาธิการพิจารณาการศึกษาการพัฒนาสื่อด้านการพัฒนาการเมืองสาหรับเด็กและ เยาวชน

“สิ่งที่ผมอยากอุทิศชีวิต อยากจะทำงานต่อไปนั่นคืองานการเมือง สิ่งที่ผมจะเลือกเข้ามาต้องมองว่าพรรคการเมืองไหนอยู่ตรงกลางที่ตรงใจ มีท่านหัวพรรคคนไหนที่ยึดหลักคุณธรรมเหมือนที่ครอบครัวสอนมา ทุกครั้งที่ประชุมกับ นพ.วรงค์ ไม่เคยได้ยินพูดเรื่องอื่นนอกจากประชุมนโยบาย ท่านจะถามผมเสมอว่า แล้วประชาชนได้อะไร คนได้อะไร ประเทศชาติได้อะไร เป็นสามคำถามที่จะถามทุกครั้งในการประชุมนโยบายเพื่อให้ประชาชน” นายพันธุ์เทพ กล่าว

พรรคกล้า ส่ง นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า อายุ 43 ปี สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาโท นิติศาสตรมหาบัณฑิต สาขากฎหมายการเงินการธนาคาร มหาวิทยาลัยบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เคยรับราชการสังกัดสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง และเมื่อปี 2554 ได้รับเลือกตั้ง เป็น ส.ส.กทม.เขต 9 จตุจักร

“จะมีโอกาสทางการเมืองหรือไม่คนกรุงเทพจะเปิดให้เราหรือไม่ วัดกันครั้งนี้ วัดกันจริงๆ แล้วอย่าไปกลัวแพ้การเมืองมีทั้งแพ้และชนะ พรรคการเมืองอื่น ผมบอกได้เลยครับว่า จะเอาหัวหน้าพรรคเลขาธิการพรรคมาลง แทบจะเป็นไปไม่ได้แต่ละคนอยู่ในระบบบัญชีรายชื่อแต่เที่ยวนี้ผมจำเป็น เราอยู่กันมาเราเข้าใจว่าในเขตจตุจักร หลักสี่ ผมมีความชำนาญตรงนั้น ผมรู้จักทุกตรอกซอกซอย งานที่เราเห็นยังค้างคาอยู่ ทางระบายน้ำสายย่อย คลอง กทม.ทำไว้ค่อนข้างดี แต่คลองสายย่อยไม่ได้รับการพัฒนาเลย” นายอรรถวิชช์ กล่าว

พรรคพลังประชารัฐ ส่ง นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ อายุ 50 ปี ภรรยาคนปัจจุบันของนายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.คนเก่าในเขตนี้ เคยเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง และกรรมการบริษัท และหุ้นส่วนใน หจก.และอีกหลายบริษัท เช่น บริษัท วิภาวดี พาเลซ จำกัด, หจก.ไทยสงวนอีควิปเม้นท์, หจก.ไทย เอส.วี.อิมพอร์ท

ล่าสุด พรรคเพื่อไทย ส่ง นายสุรชาติ เทียนทอง อายุ 42 ปี เป็นบุตรชายคนที่ 3 ของ ป๋าเหนาะ นายเสนาะ เทียนทอง อดีต ส.ส. หลายสมัย และรัฐมนตรีหลายกระทรวง สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีด้านการเงินและการจัดการ และปริญญาโทสาขาผู้นำองค์กร จากมหาวิทยาลัยจอห์นสัน แอนด์ เวลส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ลงสมัคร ส.ส.ครั้งแรกในปี 2550 สังกัดพรรคประชาราช แต่ไม่ได้รับการเลือก ต่อมาลงรับสมัครเลือกตั้งอีกครั้งในปี 2554 และได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย และเมื่อการเลือกตั้งปี 2562 นายสุรชาติแพ้ให้ นายสิระ อันดับที่หนึ่งไป 2,700 คะแนน ครั้งนี้จึงถือเป็นสนามการเลือกตั้งที่สำคัญ

“มีความใฝ่ฝันว่าจะทำอีกหลายสิ่งหลายอย่าง ตลอด 17 ปี ที่ได้ลงพื้นที่ ได้เก็บเกี่ยวเรียนรู้ในทุกแง่มุมของคำว่าประชาชนในทุกกลุ่มทุกอาชีพ ทุกสถานะ ทุกความเดือดร้อน ทุกความต้องการ ความเชื่อทางการเมืองของผมมันง่ายและสั้นมาก การเมืองของผมคือ การเริ่มต้นคือ การให้เกียรติประชาชน การเมืองที่ไม่มีเงื่อนไขกับประชาชน เราไม่ต้องไปทะเลาะกับใครเราไม่ต้องไปฟาดฟันด่าใคร ประชาธิปไตยที่ไม่ต้องไปชี้หน้าด่าใคร ประชาธิปไตยที่ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้ ผมต้องการพิสูจน์ตรงนั้นมาตลอด เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ ถ้าผมได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ผมจะรวบรวมทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งแรงบันดาลใจ ทั้งความทุ่มเท และทุกการเรียนรู้ เพื่อทำในสิ่งที่มันยิ่งใหญ่กว่า” นายสุรชาติ กล่าว

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะส่งตัวผู้สมัครหรือไม่ หากส่งคาดว่าจะเป็น พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขตหลักสี่