“RS” เปิดตัว “Popcoin” เต็มรูปแบบ! ชูเป็นมากกว่าคริปโต ดึง “แบมแบม” เป็น “Platform Partner”

เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 65 นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS กล่าวว่า เราได้พัฒนา โมเดล Entertainmerce ที่ใช้ศักยภาพของคอนเทนต์และบันเทิงมาผนึกกำลังกับคอมเมิร์ซ เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ นำไปต่อยอดในการสร้างช่องทางรายได้ใหม่ๆ และแก้ปัญหาทางการตลาด ผ่านการใช้ Popcoin Platform ซึ่งส่งผลให้แบรนด์สามารถนำข้อมูลบนแพลตฟอร์มไปใช้วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค และนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการและกิจกรรมทางการตลาดได้ตรงกับความต้องการผู้บริโภคมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม หลังจากการ Soft launch ผ่านแคมเปญ Popcoin Airdrop ในช่วง พ.ย.-ธ.ค. 64 เรามีผู้สมัครเป็น Popster กว่า 5 แสนราย และคาดว่าจะพุ่งทะลุ 1 ล้านรายภายในเร็วๆ นี้ ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในวงการสินทรัพย์ดิจิทัลเมืองไทย ที่มีผู้ให้ความสนใจและได้รับการยอมรับอย่างล้นหลามตั้งแต่วันแรกที่มีการประชาสัมพันธ์ออกไป และเป็นก้าวใหม่ของคนทำงานด้านคอนเทนต์และบันเทิง รวมถึงเป็นก้าวสำคัญที่จะพลิกโฉมการทำกลยุทธ์ทางการตลาดไปอีกขั้น

ด้านนายฐณณ ธนกรประภา หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจ บริษัท โฟร์ท แอปเปิ้ล จํากั ในเครือ RS กล่าวว่า เราได้ร่วมมือกับบริษัท ฟิวเจอร์ คอมเพเทเร่ จำกัด ในการสรรค์สร้าง สมาร์ท มาร์เก็ตติ้ง บนแพลตฟอร์ม Popcoin Platform ที่เป็นเครื่องมือเติมเต็มความต้องการ สร้างโอกาสทางการตลาด และผลประโยชน์ให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดใน Popcoin Ecosystem โดยมี แบรนด์ สปอนเซอร์ ผู้สร้างคอนเทนต์ รวมถึงผู้บริโภค

ในขณะที่ อาร์เอส กรุ๊ป เอง จะได้รับประโยชน์ในแง่การนำข้อมูลมาขยายผลิตภัณฑ์และบริการ และสร้างกลยุทธ์การตลาดรูปแบบใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งการเชื่อมโยงของข้อมูลและการสร้างประสบการณ์แบบไร้รอยต่อนี้จะเกิดขึ้นได้เมื่อผ่าน Popcoin โดยการทำงานของ Popcoin มีหลากหลายมิติ

ดังนั้น Popcoin จึงไม่ใช่แค่เหรียญคริปโตเคอร์เรนซีเท่านั้น แต่เป็นคอมมูนิตี้ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงคนแต่ละกลุ่มคนเข้าด้วยกัน ด้วยโมเดลที่เรียกว่า Join to Earn แค่เข้ามามีส่วนร่วมกับเราไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ หรือผู้สร้างคอนเทนต์ Popcoin จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มการมองเห็น ช่วยให้แบรนด์ใกล้ชิดลูกค้ามากกว่าที่เคย เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุดและวัดผลได้จริง

อีกทั้งยังเป็นช่องทางเพิ่มรายได้ หรือหากเป็นผู้บริโภคที่ใช้ Popcoin ก็จะช่วยให้คุณเข้าถึงความสนุกได้หลากหลายและง่ายยิ่งขึ้น ใกล้ชิดกับศิลปินที่ชื่นชอบมากขึ้น แลกสินค้า ของสะสม เข้าถึงคอนเทนต์ เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ในรูปแบบที่พิเศษขึ้น และยังสามารถนำ Popcoin ไปแลกเปลี่ยนใน Exchange Platform กระดานซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อสร้างรายได้เพิ่มได้อีกด้วย

นายฐณณ กล่าวอีกว่า Popcoin ยังได้ แบมแบม กันต์พิมุกต์ ภูวกุล เข้ามาร่วมงานในฐานะ Platform Partner โดยจะทำหน้าที่เป็นเสมือนตัวแทนหรือสื่อกลางในการนำเสนอแพลตฟอร์ม Popcoin ให้แก่คนรุ่นใหม่ พร้อมถ่ายทอดไลฟ์สไตล์อันเต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ และการเข้าถึงประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วย Popcoin และในฐานะที่เป็นศิลปินไอดอลชื่อดังระดับโลก แบมแบมจะมีส่วนร่วมกับแพลตฟอร์มด้วย เพื่อให้การเข้าถึงแฟนๆ ของ แบมแบม พิเศษยิ่งขึ้น

ขณะนี้ Content and Brand Collaboration ที่เข้ามาร่วมกับ Popcoin มีหลายรายแล้ว อาทิ ไลฟ์ เนชั่น บีอีซี- เทโร จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทจัดคอนเสิร์ตนานาชาติระดับโลกในประเทศไทย, High Cloud Entertainment ค่ายเพลงของ กอล์ฟ F.HERO, คณะหมอลำเสียงอิสาน, VOM Records ค่ายเพลง Rock น้องใหม่

นอกจากนี้ยังมี คานิวัล แบรนด์สตรีทแฟชั่นชั้นนำของไทย, UNLOCKMEN พับบลิชเชอร์ออนไลน์อันดับ 1 สำหรับผู้ชาย, Pet Hipster สื่อและนิตยสารออนไลน์สำหรับคนรักสัตว์, Full Sense ผู้ขับเคลื่อนวงการ eSport ในประเทศไทยและทั่วเอเชีย, Female Idol Trade Association (FITA) สมาคมการค้าธุรกิจไอดอลหญิง และ Bhouse Studio โรงเรียนสอนเต้นระดับแนวหน้าของประเทศไทย

ทั้งนี้ Popcoin จะเป็นกลไกสำคัญในการทำตลาด เพิ่มมูลค่าให้กับกิจกรรม และสร้างสิทธิประโยชน์รูปแบบใหม่ๆ ให้กับคอนเทนต์ในอนาคต รวมถึง Business Partner ที่เป็นแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ ที่จะนำเหรียญไปใช้ในกิจกรรมส่งเสริมการตลาด และเป็นอีกช่องทางสำคัญในการกระจายเหรียญไปยังผู้บริโภค ได้แก่

บริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด, บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), บริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน), บริษัท อินดีม กรุ๊ป จำกัด, บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน), บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน), อาร์เอส มอลล์, คามู ซี, เวล ยู, ไลฟ์เมต, ไวตาเนเจอร์พลัส, สถานีโทรทัศน์ช่อง 8, คูลลิซึ่ม, อาร์เอส มิวสิค และจะมีอีกหลายแบรนด์ชั้นนำตามมา

อย่างไรก็ตาม ในอนาคตวงการสื่อและบันเทิงสามารถประยุกต์ใช้ประโยชน์จากดิจิทัลโทเคนได้สูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ในกิจกรรมร่วมกันระหว่างแฟนคลับกับศิลปินดาราที่ชื่นชอบ และมีสิทธิ์ที่จะได้ร่วมกิจกรรมพิเศษหรือแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่เงินก็ซื้อไม่ได้

นอกจากนี้ แล้วกระแสของเมตาเวิร์สหรือโลกเสมือนจริงกำลังมา และบล็อกเชนก็มีประโยชน์ในการเป็นเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังมูลค่าของสิ่งต่างๆ ที่อยู่ใน เมตาเวิร์ส ในส่วนนี้ ดิจิทัลโทเคนจะมีมูลค่าในโลกเสมือน แน่นอนว่าผู้พัฒนาย่อมต้องมีความคิดสร้างสรรค์ที่หลากหลายในการสร้างการใช้งาน เช่น อาจมีป้ายโฆษณา คอนเสิร์ต หรือรูปภาพ NFT เรียกได้ว่าจะเป็นอีกมิติใหม่ของอุตสาหกรรมบันเทิง ที่ดิจิทัลโทเคนจะได้เข้ามามีบทบาท