กมธ. ยกย่องคนวงการมวย มีฐานะเทียบเท่า “ศิลปินแห่งชาติ” เพื่ออนุรักษ์เผยแพร่ศิลปะมวยไทย

ประธานคณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ระบุท่าทีการสนับสนุนจากกระทรวงวัฒนธรรม ต่อการยกย่องให้คนวงการมวย มีฐานะเทียบเท่า” ศิลปินแห่งชาติ” สาขาศิลปะมวยไทย ถือเป็นผลดี ต่องานด้านมวยไทย ทั้งการอนุรักษ์ เผยแพร่ศิลปะ

บุญลือ  ประเสริฐโสภา ประธานคณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า การที่กระทรวงวัฒนธรรม สนองตอบต่อการผลักดันของคณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการผลักดันให้มีการเชิดชูบุคคลในวงการมวย   ให้มีตำแหน่งเป็น“ศิลปินแห่งชาติ ”  สาขาศิลปะมวยไทย  การสนับสนุนเรื่องนี้  จากกระทรวงวัฒนธรรม  จะเป็นขวัญกำลังใจ และสร้างแรงจูงใจ ในการสืบสาน เผยแพร่ศิลปะของชาติผ่านมวยไทย

ทั้งนี้กระทรวงวัฒนธรรม โดยอิทธิพล คุณปลื้ม  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้แจ้งให้คณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ทราบว่า กระทรวงวัฒนธรรม ได้ปฏิบัติตามมติที่ประชุมคณะกรรมาธิการกีฬาฯ  เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2563 โดยการยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลในวงการมวยไทย  ให้เป็น “ศิลปินแห่งชาติ” ตามพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พุทธศักราช 2553 มาตรา 28 (3) และพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พ.ศ. 2559มาตรม 4 (6)

กระบวนการจากนี้คือ  มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยกย่องเชิดชูเกียรติ บุคคลในวงการมวย โดยขอให้ปรับเพิ่มสวัสดิการและประโยชน์ตอบแทนจากกองทุนกีฬา (กองทุนกีฬามวย) เช่นเดียวกับศิลปินแห่งชาติอื่นๆ   สำหรับที่มาในการเชิดชูบุคคลในวงการมวยไทย ให้เป็น  “ศิลปินแห่งชาติ” สาขาศิลปะมวยไทย

 เกิดขึ้นจากมติที่ประชุม ประกอบด้วย คณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร  , ผู้แทนจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ,การกีฬาแห่งประเทศไทย  , สมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ ผู้แทนสมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

”  การดำเนินการที่เกิดขึ้นได้   ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญที่เกิดจากความร่วมมือร่วมใจขององค์กรกีฬา ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร อันจะนำไปสู่การสร้างขวัญและกำลังใจแก่บุคคลในวงการกีฬามวย รวมถึงจะเป็นการสร้างแรงจูงใจให้แก่เยาวชนและประชาชนทั่วไป ในการที่จะก้าวไปสู่ความฝันที่อยากจะเป็น “ศิลปินแห่งชาติ” สาขาศิลปะมวยไทย   ดังเช่นบุคคลที่เป็นตัวอย่างทางด้านการกีฬามวยที่ได้รับการยกย่อง” 


เขา  กล่าวว่า   สำหรับพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พ.ศ. 2559 มาตรา 4 กำหนดว่า มรดกทางภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่ได้รับการส่งเสริมและรักษาตามพระราชบัญญัตินี้ ประกอบด้วย (6) การเล่นพื้นบ้าน กีฬาพื้นบ้าน และศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว ซึ่งมวยไทยได้รับการยอมรับว่าเป็นกิจกรรมการเล่นกีฬาพื้นบ้านและศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวมาตั้งแต่แรก 

ขณะเดียวกันศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว   “มวยไทย”  ยังเป็นกิจกรรมเชิดชูเกียรติของประเทศไทยมาตลอด   มีบทบาททั้งในสงครามป้องกันอาณาจักร และบทบาททางการกีฬาที่มีกติกาชัดเจน สามารถยกฐานะเป็นกีฬาเพื่อท่องเที่ยว เพิ่มพูนมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยชาติ ตลอดทั้งเป็นกิจกรรมการกีฬาแห่งประชาคมโลก ที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ให้การรับรองเป็นชนิดกีฬาในโปรแกรมโอลิมปิกในอนาคต 

กมธ.กีฬาชี้ยกคนมวยเป็น"ศิลปินแห่งชาติ"ผลดีกระตุ้นงานอนุรักษ์มวยไทย