กรมชลฯ ระบุน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา ไหลผ่านพื้นที่ด้านล่างเพียง 1,524 ลบ.ม./วินาที ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด ยันไม่ท่วม “กทม.-นนทบุรี”

กรมชลฯ ระบุน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา ไหลผ่านพื้นที่ด้านล่างเพียง 1,524 ลบ.ม./วินาที ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด ยันไม่ท่วม “กทม.-นนทบุรี” ตามที่มีข้อความแชร์ในโซเชียล

จากกรณีมีผู้โพสต์ผ่านทางสื่อออนไลน์ว่า “เขื่อนเจ้าพระยาเปิดประตูระบายน้ำทุกบานแล้ว อีก 1 สัปดาห์จะถึงเมืองนนท์ คาด กทม.ไม่น่ารอด..เตรียมป้องกันล่วงหน้าด้วย” 

วันที่ 21 ก.ย. นายธีระพล ตั๊งสมบุญ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กรมชลประทาน ชี้แจงว่า ปัจจุบัน เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ได้ควบคุมปริมาณน้ำให้ไหลผ่านลงสู่พื้นที่ด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 1,524 ลบ.ม./วินาที จะไม่ส่งผลกระทบต่อจังหวัดนนทบุรีและกรุงเทพมหานครแต่อย่างใด แต่ยังคงส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณ อ.เสนา อ.บางบาล อ.ผักไห่ และ อ.บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีตลิ่งต่ำและอยู่นอกเขตคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา คาดว่า ในวันพรุ่งนี้ (22 ก.ย.) เวลาประมาณ 06.00 น. ระดับน้ำจะสูงขึ้นจากระดับน้ำปัจจุบัน เพียง 0.25 เมตรเท่านั้น

ทั้งนี้ ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ จะได้รับผลกระทบก็ต่อเมื่อมีปริมาณน้ำไหลผ่านที่สถานี C.29A อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ในอัตรา 2,500 ลบ.ม./วินาที ปัจจุบัน (21 ก.ย. 64) สถานีบางไทรมีปริมาณน้ำไหลผ่านเพียง 1,547 ลบ.ม./วินาที เท่านั้น ในขณะที่ปริมาณน้ำที่ระบายจากเขื่อนเจ้าพระยา ณ วันที่ 21 กันยายน 2564 เวลา 12.00 น. มีเพียง 1,524 ลบ.ม./วินาที ประกอบกับปริมาณน้ำทางตอนบนบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ เวลา 12.00 น. มีน้ำไหลผ่านเพียง 1,956 ลบ.ม./วินาที มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

สำหรับกรุงเทพมหานคร จะเริ่มได้รับผลกระทบเมื่อปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ไหลผ่านที่สถานี C.29A อำเภอบางไทร ในอัตรา 3,500 ลบ.ม./วินาที ขึ้นไป ในส่วนของกรณีที่มีการเปิดบานระบายทุกช่องของเขื่อนเจ้าพระยานั้น เป็นไปตามหลักการด้านชลศาสตร์ในการระบายน้ำ เพื่อป้องกันการกัดเซาะพื้นที่ด้านท้ายของอาคารเขื่อนเจ้าพระยา เป็นการรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงของเขื่อน ซึ่งกรมชลประทานขอยืนยันว่า ปริมาณน้ำระบายลงสู่พื้นที่ด้านล่างอยู่ในเกณฑ์ 1,524 ลบ.ม./วินาที เท่านั้น จึงขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในการบริหารจัดการน้ำของกรมชลฯ และความมั่นคงของเขื่อนเจ้าพระยา ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำฝน น้ำท่าในลุ่มน้ำเจ้าพระยาอย่างใกล้ชิด