“จีน-พุธิตา” สส.เชียงใหม่ ลั่น!! เพื่อไทยไม่ต้องมาขอขมาก้าวไกล ไปขอขมาประชาชนนู่นค่ะ!!!

นางสาวพุธิตา ชัยอนันต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จ.เชียงใหม่ พรรคก้าวไกล เขต 4 โพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียเมื่อวันพุธ (9 ส.ค.) ว่าพรรคเพื่อไทยไม่จำเป็นมาขอขมาพรรคก้าวไกล เพื่อให้พรรคก้าวไกลออกเสียงสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่ควรไปขอโทษประชาชนจากการที่พรรคเพื่อไทยหันไปจับมือกับพรรคการเมืองต่างๆ ที่เคยร่วมรัฐบาลของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

“ไม่ต้องมาขอขนมาก้าวไกลหรอก ไปขอขมาประชาชนนู่นค่ะ” นางสาวพุธิตา โพสต์

สส. จ.เชียงใหม่ รายนี้โพสต์ต่อไป โดยเรียกร้องให้เลิกลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ของกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลด้วยการเรียกว่า “ด้อมส้ม” หรือด้อมต่างๆ แต่ควรมองว่าคนกลุ่มนี้ว่าเป็นประชาชนที่ทุกพรรคการเมืองต้องให้ความใส่ใจ

“แล้วก็เลิกเรียกประชาชนว่า ‘ด้อมส้ม’ ‘ด้อม’ นู่นนี่ ในเชิงลดทอนคุณค่าพวกเขาได้แล้ว เขาคือ ‘ประชาชน’ ไม่ว่าจะชื่นชอบพรรคไหนก็ตาม ‘พวกเขาคือประชาชนที่พวกคุณต้องแคร์'”

เมื่อช่วงก่อนหน้าของวันเดียวกันนี้ มีการรายงานว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวกับสื่อมวลชนว่า เพื่อให้ได้คะแนนเสียงจากพรรคก้าวไกลในการโหวตนายเศรษฐา ทวีสิน ของพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี จะได้ต้องขอขมาพรรคก้าวไกลเสียก่อน หลังจากที่พรรคเพื่อไทยถอนตัวจากบันทึกความเข้าใจ (เอ็มอูโอ) กับอีก 7 พรรค ไปจับมือกับพรรคภูมิใจไทยเพื่อตั้งรัฐบาลแทน

ไม่ใช่แค่นั้น วันเดียวกันนี้ยังมีภาพปรากฏว่านายภูมิธรรม, นายชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีกคน และแกนนำคนอื่นๆ ของพรรคเพื่อไทย เดินออกจากตึกที่ทำการของพรรคไปยังอาคารไทยซัมมิต ซึ่งเคยเป็นที่ทำการเก่าของพรรคอนาคตใหม่ก่อนถูกยุบพรรคเมื่อปี 2563 เพื่อขอเสียงสนับสนุนจากพรรคก้าวไกลให้นายเศรษฐาด้วย

นางสาวพุธิตาเป็นตัวแทนของประชาชน จ.เชียงใหม่ เฉพาะ อ.สันทราย และ 3 ตำบลของ อ.แม่ริม ได้แก่ ต.ดอนแก้ว, ต.เหมืองแก้ว และ ต.แม่สา เคยเป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยและมีภาพต่อว่าเจ้าหน้าที่รัฐที่มาจับกุมเพื่อนนักศึกษาที่รณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ 2560

ก่อนการเลือกตั้งเมื่อเดือน พ.ค. 2566 นางสาวพุธิตาลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดแห่งหนึ่ง และพบกับขบวนหาเสียงของ พล.อ.ประยุทธ์ จึงวิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ ออกโทรโข่ง จนเป็นที่ถูกพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์

คลิกชมที่นี่

ขอขอบคุณ

ภาพ :Phuthita Chaianun – พุธิตา ชัยอนันต์ / Facebook