รองโฆษก ตร.เตือนระวัง “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” อ้างเป็นเจ้าหน้าที่หลอกให้ตกใจ สูญเงินในพริบตา

รองโฆษก ตร. เตือนระวังแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นเจ้าหน้าที่หลอกให้ตกใจ สูญเงินในพริบตา โดยขอให้ ปชช.ตั้งสติหากได้รับโทรศัพท์ และสอบถามให้แน่ชัด ตรวจสอบข้อมูลที่เชื่อถือได้ หรือโทรสายด่วน 191 หรือ 1599

วันที่ 28 ต.ค. 64 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น

ที่ผ่านมาพบว่าได้มีกลุ่มบุคคลที่แอบอ้างตนเองเป็นเจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์จากธนาคาร หรือแสดงตนเป็นข้าราชการระดับสูง หรือนายตำรวจระดับสูง โทรศัพท์หาผู้เสียหาย อ้างว่า บัญชีธนาคารถูกอายัด หรือบัญชีธนาคารของผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด เช่น พัวพันกับการจำหน่ายยาเสพติด การค้าของผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์ ฯลฯ จากนั้นจะให้ผู้เสียหายแสดงความบริสุทธิ์ใจโดยโอนเงินในบัญชีธนาคารทั้งหมดมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ โดยข่มขู่ว่าหากไม่โอนเงินมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ จะถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินและความผิดอื่นที่มีอัตราโทษจำคุก ทำให้ผู้เสียหายบางคนตกใจหลงเชื่อและพยายามแสดงความบริสุทธิ์โดยโอนเงินให้กับคนร้าย จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ได้ ทำให้ได้รับความเสียหาย

ซึ่ง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) ได้แถลงข่าวการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ได้กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว โดยได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 8 ราย สามารถจับกุมได้แล้ว 5 ราย ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี ซึ่งกรณีดังกล่าวมีความเสียหายมูลค่ากว่า 14 ล้านบาท

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเรียนกับพี่น้องประชาชนว่า หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่างๆ ไม่มีความจำเป็นใดที่จะต้องให้เจ้าของบัญชีธนาคารโอนเงินมาให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อทำการตรวจสอบ ซึ่งหากเป็นบัญชีธนาคารที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด พนักงานสอบสวนหรือเจ้าหน้าที่อาจใช้อำนาจตามกฎหมายทำการตรวจสอบข้อมูลกับธนาคารหรืออายัดเงินในบัญชีธนาคารดังกล่าว

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวต่อ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน จึงขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนว่า หากได้รับโทรศัพท์แอบอ้างในลักษณะดังกล่าว ควรปฏิบัติดังนี้ 1.ตั้งสติ อย่าตกใจ และอย่าหลงเชื่อ 2.สอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นให้แน่ชัด และสำรวจว่าตนเองมีความเกี่ยวพันกับเรื่องที่คนร้ายโทรมาหลอกลวงหรือไม่ 3.อย่าดำเนินการใดๆ โดยแจ้งว่าจะติดต่อกลับในภายหลัง และรีบวางสายสนทนา
4.ตรวจสอบข้อมูลกับแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น ธนาคาร หรือหน่วยงานที่ถูกแอบอ้าง โดยติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ของหน่วยงานนั้นๆ 5.หากมีผู้ใดโทรมาสอบถามข้อมูลส่วนตัว ให้คิดไว้เสมอว่าอาจจะเป็นพวกมิจฉาชีพ และต้องไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวใดๆ อย่างเด็ดขาด

หากพี่น้องประชาชนพบว่า มีบุคคลอ้างว่าเป็นธนาคาร หรือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ขอให้ท่านโอนเงินไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ กรุณาแจ้งเบาะแสไปยังสายด่วน 191 หรือสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.