ตร.ไซเบอร์ บุกจับแหล่งเก็บ-จำหน่าย “เซ็กซ์ทอย” รายใหญ่ 2 จุดที่สุพรรณบุรี

ตำรวจไซเบอร์ เปิดปฏิบัติการตรวจค้น 2 จุดในพื้นที่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี บุกจับแหล่งเก็บและจำหน่ายเซ็กซ์ทอยรายใหญ่ รวมของกลางกว่า 5,000 ชิ้นมูลค่ากว่าล้านบาท ส่ง สภ.เมืองสุพรรณบุรีดำเนินคดี

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 9 ธ.ค. 2565 ที่ผ่านมา ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ รอง ผบช.ฯ ปฏิบัติราชการ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.สอท.2 บช.สอท. สั่งการให้ พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.กก.2 บก.สอท.2 นำกำลังตำรวจ กก.2 บก.สอท.2 พร้อมหมายศาลจังหวัดสุพรรณบุรี กระจายกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 2 จุด ซึ่งเป็นแหล่งเก็บ และจำหน่ายยาปลุกเซ็กซ์และอุปกรณ์เซ็กซ์ทอยให้กับหนุ่มสาวอารมณ์เปลี่ยว หรือสำหรับผู้ที่ต้องการปลดปล่อยอารมณ์แบบส่วนตัว ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี

ตำรวจไซเบอร์บุกจับแหล่งขาย-สต๊อก เซ็กซ์ทอย รายใหญ่ 2 จุดที่สุพรรณบุรี

ตำรวจไซเบอร์ชุดปฏิบัติการ บก.สอท.2 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า มีเพจเฟซบุ๊กชื่อ Soodseaw ที่อยู่ ได้ลักลอบจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่มีเลขที่จดแจ้งจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (ยาไวอากร้า) และลักลอบจำหน่ายอุปกรณ์เพิ่มความสุขทางเพศ (เซ็กซ์ทอย) ซึ่งประชาชนทั่วไป สามารถเข้าถึงและสั่งซื้อสินค้าได้ จึงวางแผนให้สายลับทำการล่อซื้อยาไวอากร้าจากเพจเฟซบุ๊กดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับยาไวอากร้าแล้วพบว่า เป็นผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่มีเลขที่จดแจ้งจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จึงทำการสืบสวนขยายผลจนทราบว่าที่พัสดุได้ถูกจัดส่งมาจากร้าน 108 Shop แฟลชโฮม พื้นที่ ม.5 ต.ท่าระหัด อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี เป็นสถานที่เก็บสินค้า และมีบ้านหลังหนึ่งใน ม.5 ต.ท่าระหัด อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี เป็นสถานที่โฆษณาสินค้า จึงได้ขออนุมัติศาลจังหวัดสุพรรณบุรีออกจนหมายค้น เพื่อทำการตรวจค้นหาพยานหลักฐานและตรวจยึดสินค้าผิดกฎหมาย จำนวน 2 จุด

จุดแรกเข้าตรวจค้นบ้านหลังแรกในพื้นที่ ม.5 ต.ท่าระหัด อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี พบนายเอก อายุ 37 ปีและ น.ส.อ๊อฟ อายุ 34 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นแฟนสาว ได้แสดงตนเป็นเจ้าของบ้าน นำเจ้าหน้าที่ตรวจค้นภายในบ้าน ผลการตรวจค้นตรวจยึดอุปกรณ์เซ็กซ์ทอย 10 อัน คอมพิวเตอร์ 1 ชุด กระสุนปืน 1 นัดและหลักฐานอื่นๆ รวม 16 รายการ ดำเนินคดี 7 ข้อหา

ตำรวจไซเบอร์บุกจับแหล่งขาย-สต๊อก เซ็กซ์ทอย รายใหญ่ 2 จุดที่สุพรรณบุรี

จากการสอบปากคำนายเอก และ น.ส.อ๊อฟ รับว่าเป็นผู้ร่วมกันจัดให้มีการโฆษณาเผยแพร่และลักลอบจำหน่ายอุปกรณ์เพิ่มความสุขทางเพศ (เซ็กซ์ทอย) ผ่านทางเว็บไซต์ เพจเฟซบุ๊กชื่อ “Soodseaw” เป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าประเภทเซ็กซ์ทอย และได้ใช้บัญชีธนาคารในการรับโอนเงินในการสั่งซื้อสินค้าจากลูกค้า

ตำรวจไซเบอร์บุกจับแหล่งขาย-สต๊อก เซ็กซ์ทอย รายใหญ่ 2 จุดที่สุพรรณบุรี

จุดที่ 2 ร้าน 108 Shop แฟลชโฮม พื้นที่ ม.5 ต.ท่าระหัด อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ชั้นที่ 1 เปิดเป็นที่ทำการรับส่งพัสดุของบริษัทแห่งหนึ่ง บริเวณชั้น 2 พบคอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง อุปกรณ์เซ็กซ์ทอยเพื่อความสุขทางเพศหลายหลายประเภทและชนิด เช่น เซ็กซ์ทอยอวัยวะเพศชายแบบดิลโด้ และอวัยวะเพศหญิงแบบกระป๋อง, ไข่สั่น, ลิ้นปลอม, ห่วงรัด, ปลอกยาง, ครีมเพิ่มขนาดเพศชาย, เจลหล่อลื่น, ถุงยางอนามัย, สเปรย์ชะลอการหลั่ง, เครื่องนวดเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย, ตุ๊กตายางและยาไวอากร้า จำนวนกว่า 5,000 ชิ้น มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดของทั้งหมดไว้เป็นของกลาง โดยทำการตรวจนับและคัดแยกประเภทแต่ละชนิดต้องใช้เวลานานกว่า 6 ชม.

ตำรวจไซเบอร์บุกจับแหล่งขาย-สต๊อก เซ็กซ์ทอย รายใหญ่ 2 จุดที่สุพรรณบุรี

โดยมีคนงาน 5 คน ประกอบด้วย น.ส.ธนพร อายุ 29 ปี น.ส.ชุนิตา อายุ 27 ปี นางชนิตา อายุ 43 ปี น.ส.รพีพรรณ อายุ 45 ปีและนายภูษิณ อายุ 17 ปี ทั้งหมดเป็นชาวจ.สุพรรณบุรี กำลังช่วยกันเร่งแพ็กสินค้าลงกล่อง เพื่อเตรียมส่งทางพัสดุภัณฑ์ตามคำสั่งซื้อทางออนไลน์ โดยรับค่าจ้างวันละ 500 บาท จากนายเอกและน.ส.อ๊อฟ จะเป็นผู้นำออเดอร์รายการสั่งซื้อสินค้าของลูกค้าให้กับทั้ง 5 คน ในการแพ็กสินค้าตามคำสั่งซื้อแต่ละวัน

โดยกล่าวหาว่า 1.นำเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรฯ ตาม พ.ร.บ.ศุลกากรฯ มาตรา 242 2 ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของที่มิได้ผ่านพิธีการศุลกากรฯ ตาม พ.ร.บ.ศุลกากรฯ มาตรา 246 3.กระทำการค้าหรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ ซึ่งแถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพหรือสิ่งอันใดอันลามกอนาจาร ตาม ป.อาญา มาตรา 287 ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.