“ทนายเดชา” ดักคอ “ส.ส. เต้” ถ้าโดนแจ้งความหมิ่นประมาท! จะร้องจริยธรรมเพิ่มให้หลุดจาก ส.ส.เร็วขึ้น

“ทนายเดชา” ดักคอ “ส.ส. เต้” จะไปแจ้งหมิ่นประมาท ข่มขู่ และผิดมรรยาททนายความ เป็นการรังแกประชาชน ที่พูดศพต่อไปแค่คำเปรียบเปรย ไม่ใช่ขู่ฆ่า ถ้าโดนแจ้งความจะร้องจริยธรรมเพิ่มให้หลุดจาก ส.ส.เร็วขึ้น ชี้เป็นบุคคลสาธารณะสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้และแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ยืนยันจะตอบโต้จนถึงที่สุด เย้ยคดีฆาตกรรมที่ทำอยู่ไม่คืบหน้า ไม่มีพยานหลักฐานชัดเจน หวั่นมวยล้มต้มคนดู ห่วงแม่แตงโมจะยื่นฟ้องเองข้อหาเจตนาฆ่า ขัดกับอัยการที่จะสั่งฟ้องข้อหาประมาทฯ สุดท้ายไม่เกิดประโยชน์ ด้าน ส.ส.เต้เปลี่ยนใจไม่เผยภาพศพแตงโม ยันจะสู้คดีให้สุดทาง ไม่เสียใจแม้ต้องหลุดจาก ส.ส. โดนแบน 10 ปี แถมอาจติดคุก ถ้าจะทำให้กระบวนการยุติธรรมดีขึ้น

ผลพวงจากคดีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของดาราสาวแตงโม-ภัทรธิดา หรือนิดา พัชรวีระพงษ์ ก่อให้เกิดคดีฟ้องร้องกันไปมาไม่หยุด โดยเฉพาะคู่กัดระหว่างนายเดชา กิตติวิทยานันท์ อดีตทนายความของแม่แตงโม กับนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่เข้ามาช่วยทำคดีให้แม่แตงโม ต่างฝ่ายต่างตอบโต้กันดุเดือดไม่มีใครยอมใคร

ที่สำนักงานทนายคลายทุกข์ ย่านรามอินทรา เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 มิ.ย. นายเดชา กิตติวิทยานันท์ เปิดเผยกรณีนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ จะไปแจ้งความที่ สน.บางโพ วันที่ 6 มิ.ย. เพื่อดำเนินคดีตนตามมาตรา 328 หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา มาตรา 309 ข่มขืนใจผู้อื่น มาตรา 392 ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ และผิดมรรยาททนายความว่า พฤติกรรมของนายมงคลกิตติ์ เป็นการรังแกประชาชน ไม่เหมาะสมที่จะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ส่วนวันที่ไปยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธาน กมธ.ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร ที่ตนพูดว่า “ศพต่อไป คือนายมงคลกิตติ์ เตรียมเผาได้เลย” นั้นไม่ได้หมายความว่าจะฆ่า แต่เป็นคำพูดเปรียบเทียบ ความหมายคือประหารชีวิตทางการเมือง เพราะกรรมาธิการของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นมือสังหาร ส.ส.ทางจริยธรรม ดังนั้น หากนายมงคลกิตติ์จะแจ้งความ ตนก็จะร้องจริยธรรมเพิ่ม ให้หลุดจากตำแหน่ง ส.ส.เร็วขึ้น

ทนายเดชากล่าวต่อไปว่า กรณีที่นายมงคลกิตติ์แถลงข่าวว่าสิ่งที่ทำอยู่เป็นการช่วยเหลือประชาชน เท่าที่ดู เห็นว่านายมงคลกิตติ์กำลังช่วยนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโมเพียงคนเดียว ทั้งที่ประชาชนมีเยอะเเยะ ตนก็เป็นประชาชนคนหนึ่ง นายมงคลกิตติ์ต้องดูแลอย่างเท่าเทียม ไม่ใช่รังแกประชาชน โดยเฉพาะเรื่องที่สมาชิกพรรคไปแจ้งความตนที่ต่างจังหวัด รู้สึกหวาดกลัวมากอยากจะร้องไห้ ได้ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติเรื่องการดูแลความปลอดภัย เพราะรู้สึกกังวล กลัวไปหมด ขนาดสุนัขที่บ้านยังกลัว แค่ได้ยินชื่อ ส.ส. สุนัขที่บ้านก็เห่าไม่หยุด

“ไม่ได้หมิ่นประมาทนายมงคลกิตติ์แต่อย่างใด แต่แสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เพราะนายมงคลกิตติ์เป็นบุคคลสาธารณะ เป็นบุคคลทางการเมือง สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ เมื่อพูดว่าเป็นคดีฆาตกรรม แต่ไม่มีหลักฐานมาเปิด ผมก็มองเป็นเรื่องตลก ซึ่งไม่มีความผิด หากจะมาข่มขู่ให้หยุดวิพากษ์วิจารณ์ก็ถือเป็นการข่มขู่ประชาชนจะดำเนินคดีอีก แม้เคยบอกไปแล้วว่าจะไม่วิพากษ์วิจารณ์คดีแตงโมอีก แต่เมื่อมีประชาชน มีผู้สื่อข่าวมาสอบถามก็ต้องพูดเพราะถือเป็นการให้ข้อมูลความรู้ที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน และถือเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ อีกทั้งนายมงคลกิตติ์ก็ไม่ใช่พ่อของผมที่จะมาห้ามไม่ให้พูดได้” ทนายเดชากล่าว

ทนายเดชากล่าวอีกว่า คดีแตงโมคืบหน้าและจบไปแล้ว วันที่ 23 มิ.ย.นี้ อัยการจะสั่งฟ้องแล้ว แต่คดีแตงโมที่นายมงคลกิตติ์กำลังทำอยู่ ไม่มีความคืบหน้า ไม่มีพยานหลักฐานที่ชัดเจน มีเพียงการให้สัมภาษณ์สื่อ ในโลกความเป็นจริงการต่อสู้ทางกระบวนการยุติธรรมของนายมงคลกิตติ์ยังไม่เริ่ม แต่ในสื่อสังคมออนไลน์ได้ตัดสินคณะนายมงคลกิตติ์ชนะคดีไปแล้ว การที่แจ้งความหรือตอบโต้กันไปมาเป็นการรักษาสิทธิ์ของตน ยืนยันว่าจะตอบโต้นายมงคลกิตติ์จนถึงที่สุดจนกว่าจะหลุดพ้นจากเก้าอี้ ส.ส.

ส่วนการที่นายมงคลกิตติ์เปิดประเด็นใหม่อีกว่า ได้ปรึกษากับแม่แตงโมจะมีการเปิดสภาพศพแตงโมเพื่อให้เห็นความผิดปกติ นายเดชากล่าวว่า ทำคดีเกี่ยวกับการฆ่าคนตายมาเยอะ ไม่เคยเห็นใคร ที่เป็นพ่อเป็นแม่หรือที่ปรึกษากฎหมายนำภาพผู้ตายมาแถลงข่าว เพราะถือเป็นการกระทำละเมิดซ้ำ เป็นการทำร้ายซ้ำสอง อาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา 366/4 ดูหมิ่นเหยียดหยามศพหรือไม่ และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 นำภาพอันไม่เหมาะสมเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ หากภาพศพสามารถเปลี่ยนคดีว่าเป็นฆาตกรรม ควรเอาไปเปิดในชั้นศาล ไม่ควรนำมาเเถลงข่าว แต่สิ่งที่ควรนำมาเปิดเผยต่อสาธารณะคือหลักฐานที่กล่าวอ้างว่าแตงโมถูกฆาตกรรมเพราะสังคมรอดูหลักฐานชิ้นนี้มานานแล้ว

ทนายเดชากล่าวถึงกรณีที่นายมงคลกิตติ์และคณะจะประชุมเรื่องการร่างคำฟ้องต่อศาล ส่วนตัวรู้สึกเป็นห่วงนางภนิดา หากฟ้องเองโดยตรงจะมีผลเสียมากกว่า เพราะเป็นการฟ้องข้อหาที่ขัดกับอัยการ โดยอัยการจะยื่นฟ้องวันที่ 23 มิ.ย. ในข้อหากระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่นางภนิดาจะยื่นฟ้องวันที่ 18 มิ.ย. ในข้อหาเจตนาฆ่า ซึ่งขัดกัน ดังนั้นนางภนิดาจะไม่สามารถเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการได้ ต้องไปเป็นโจทก์คดีเจตนาฆ่าเท่านั้น หากจะยกคดีในอดีตที่ผู้เสียหายฟ้องเองมาเปรียบเทียบอย่างคดี “หมอผัสพร” คดีแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว เพราะขณะนั้นอัยการรอเอกสารบางอย่างเพิ่มเติม พ่อของหมอผัสพรยื่นฟ้องข้อหาเดียวกับอัยการคือฆ่าคนตาย คดีจึงสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่คดีแตงโมนั้นขัดแย้งกัน หากศาลมีคำพิพากษาในคดีประมาทฯ ที่อัยการสั่งฟ้องแล้ว คดีที่นางภนิดาฟ้องเอง ก็ไม่เกิดประโยชน์ ฝากถึงทีมกฎหมายของนายมงคลกิตติ์ ให้ข้อมูลเรื่องนี้ด้วย อย่าหลอกลวงต้มตุ๋นประชาชน

เมื่อถามถึงการที่มีหลักฐานมาเพิ่มอย่างกรณีที่ “บังแจ็ค” ส่งผ้าคาดเอวของแตงโมมาที่ไทย ทนายเดชากล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ที่อัยการจะเปลี่ยนข้อหาเพราะคดีจบแล้ว การส่งหลักฐานของบังแจ็คต้องมีกระบวนการสอบที่มาที่ไปจากต่างประเทศก่อน พยาน หลักฐานที่อยู่ในต่างประเทศก่อนจะเข้าสู่สำนวนต้องผ่านอัยการฝั่งสหรัฐอเมริกาก่อน และต้องใช้เวลาสัก 2-3 ปี กว่าจะเสร็จ ถึงตอนนั้นคดีก็ตัดสิน ไปแล้ว “สำหรับแม่แตงโม ผมยังรักเหมือนเดิม ตอนนี้อาจจะสับสนเพราะไปคุยกับวิศวกร แทนที่จะไปคุยกับนักกฎหมาย ผมยังคงรักและเป็นห่วงเสมอชั่วนิรันดร์ หากกลับมาขอความช่วยเหลือก็ยินดีและ ไม่ติดใจหากจะรับเป็นลูกความใหม่อีกครั้ง ยืนยันว่า ก่อนหน้านี้แม่แตงโมไม่ได้สงสัยว่าเป็นการฆาตกรรม แต่หลังจากที่ไปร่วมทีมกับคณะวิศวกรอาจถูกชักจูงให้คิดเป็นเช่นนั้นไป” ทนายเดชากล่าวทิ้งท้าย

วันเดียวกัน นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ โพสต์เฟซบุ๊กข้อความว่า “ผมขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่า ผมและทีมงานทุกคนจะสู้คดีเพื่อทวงความยุติธรรมเพื่อแตงโม (ผู้เสียชีวิตที่พูดไม่ได้) สุดทางกระบวนการยุติธรรม คดีนี้จะเป็นตัวอย่างของ ภาคประชาสังคมที่ช่วยกันทุกฝ่าย สุดท้ายจะส่งผลถึง การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมจนสามารถแก้กฎหมาย ใน พ.ร.บ.สืบสวนคดีอาญา พ.ศ. … และ พ.ร.บ.สำนักงาน ทนายรัฐ พ.ศ. … จะทำให้คำว่า “คนจนติกคุก คนรวย มีเส้นสายรอดคุก” ไม่มีอีกต่อไป แม้การต่อสู้ครั้งนี้ อาจไปขัดใจกลุ่มผลประโยชน์และถูกเล่นงานกลับในกรณีเราพลาดเองก็ตาม ผมอาจต้องถูกถอดถอนจากการเป็น ส.ส. ตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี ถูกจำคุก ก็ตาม ผมไม่เสียใจเพราะสามารถทำให้บ้านเมืองเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น” นอกจากนี้ ส.ส.เต้ยังโพสต์ข้อความอีกโพสต์ว่า “ทีมกฎหมายพิจารณาแล้วว่า ไม่เปิดเผยภาพแตงโมหลังเสียชีวิต เกรงว่าจะผิด ป.อาญา ม.366/4”

ที่ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี กลุ่มแฟนคลับและชาวชุมชนพิบูลสงคราม 1 ร่วมใจกันเตรียมสถานที่จัดงานครบรอบ 100 วัน การเสียชีวิตของแตงโม กำหนดการเริ่มงานเวลา 09.00 น. วันที่ 5 มิ.ย. มีพิธีทำบุญเลี้ยงพระเพลอุทิศส่วนกุศลให้ดาราสาวผู้ล่วงลับ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเรียกร้องความเป็นธรรมให้แตงโมด้วย เจ้าหน้าที่เทศบาลนครนนทบุรี นำเต็นท์ขนาดใหญ่มาตั้งบริเวณทางเดินเพื่ออำนวยความสะดวกให้กลุ่มแฟนคลับและประชาชนที่จะมาร่วมงาน มีการนำแผ่นไม้มาวางไว้เป็นที่สำหรับประกอบพิธีทางสงฆ์ ขณะเดียวกันยังคงมีแฟนคลับเดินทางมาวางช่อดอกไม้อย่างต่อเนื่อง น.ส.นุช อายุ 30 ปี กล่าวว่า เป็นแฟนคลับของแตงโมมานานแล้ว เพิ่งมีโอกาสมาวางดอกไม้ครั้งแรก หลังทราบว่ากลุ่มแฟนคลับจะจัดงานครบรอบ 100 วัน ในวันที่ 5 มิ.ย. แต่มาไม่ได้เลยมาวันนี้แทน ส่วนเรื่องคดีอยากให้คลี่คลายและจบลงเร็วๆ ความเชื่อส่วนตัวคิดว่าแตงโมน่าจะถูกฆาตกรรม