“ทิพานัน” แจงปมต่างชาติซื้อที่ดิน ไม่ใช่นโยบายขายชาติ คัดกรองคนคุณภาพ หากใช้ผิดเงื่อนไขต้องขายคืน

“ทิพานัน”  ย้ำคนต่างด้าวมีศักยภาพสูง 4 ประเภท ถึงซื้อที่ดิน 1 ไร่ได้ หากใช้ผิดเงื่อนไขต้องขายคืน พร้อมทบทวนทุก 5 ปี ซัดเพื่อไทยอ้าง IMF หากเป็นรัฐบาลแก้ได้ดีกว่า ย้อนแสบ “พล.อ.ประยุทธ์”  คือ นายกฯกอบกู้ชาติ

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับกฎกระทรวงเรื่องการซื้อที่ดินของคนต่างด้าวว่า ในร่างกฎกระทรวงดังกล่าว การให้สิทธิคนต่างด้าวถือครองที่ดิน 1 ไร่นั้น มีเงื่อนไขที่สำคัญ? คือ  ต้องเป็นคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูง 4 ประเภทที่ได้รับวีซ่าพำนักระยะยาว หรือ LTR Visa เท่านั้น และต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง และมีกรมธรรม์ประกันสุขภาพคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในประเทศ ไทยไม่น้อยกว่า 50,000 เหรียญสหรัฐ

ดังนั้น จากหลักเกณฑ์เข้มงวด ที่ต้องเป็น LTR Visa ก่อนมีที่ดิน จึงมีการลดเงื่อนไขระยะเวลาการลงทุนลงจาก 5 ปีเหลือ 3 ปี เพื่อจูงใจบุคคลที่มีศักยภาพสูง 4 ประเภทนี้มาลงทุน  จึงไม่ได้ลดเพื่อให้คนต่างด้าวซื้อที่ดินได้ง่ายขึ้น  แต่กลับคัดกรองคนคุณภาพเข้าสู่ประเทศไทย พร้อมกับเงินลงทุน 40 ล้านบาท และหากผิดเงื่อนไขในรายละเอียดที่กำหนดจะต้องมีการขายคืนที่ดิน  ทั้งนี้กลุ่มบุคคลนี้จะนำเม็ดเงินเข้าประเทศและเกิดการใช้จ่ายภายในประเทศที่มากขึ้นและเพิ่มการกระจายรายได้เป็นผลดีต่อผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวข้อง สร้างรายได้ต่อเนื่องให้คนไทยในทุกกิจกรรมที่กลุ่มนี้พำนักอยู่ มีศักยภาพถ่ายทอดองค์ความรู้ให้คนไทย จะส่งผลให้เกิดการลงทุนมากขึ้นและเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

ส่วนที่พรรคเพื่อไทยแถลงว่า “เนื้อหาของกฎกระทรวงปี 2545 ในเรื่องเดียวกันนั้น มีเนื้อหาที่เข้มงวดและกำหนดเงื่อนไขที่คนต่างด้าวซื้อที่ดินได้ยากกว่า” นั้น ไม่เป็นความจริง เพราะกฎกระทรวงปี 2545 อนุญาตให้ “คนต่างด้าวทุกคน” ที่มีเงิน 40 ล้านบาทก็ซื้อที่ดินได้แล้ว  แต่ ร่างกฎกระทรวงปี 2565 ใหม่นี้ อนุญาตให้เฉพาะ “คนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูง 4 ประเภทที่ได้รับวีซ่าพำนักระยะยาว หรือ LTR Visa” เท่านั้น รัฐบาลยังถามความเห็นไปหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย ยังได้ยืนยันวิเคราะห์ว่า หลักการในร่างกฎกระทรวงปี 2565

“ไม่ส่งผลต่อเสถียรภาพระบบเศรษฐกิจการเงิน ทั้งด้านการกระตุ้นให้เกิดการเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์และไม่เพิ่มแรงกดดันให้ราคาอสังหาริมทรัพย์โดยภาพรวมปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ” นอกจากนี้? ที่ดินที่อนุญาตให้ซื้อเป็นที่ดินมีพื้นที่กำหนดชัดเจน

“ลักษณะการกระตุ้นและจูงใจต่างชาติเข้าลงทุนแบบนี้ ในต่างประเทศก็มีเช่นกัน ซึ่งสิทธิประโยชน์แต่ละที่ก็แตกต่างกันไป ซึ่งหลายประเทศก็จูงใจนักลงทุนสามารถขอถือสิทธิ์การพำนักอาศัยถาวร จนเป็นสิทธิพลเมืองนั้นได้”

น.ส.ทิพานัน กล่าวอีกว่า สิ่งที่สังคมสงสัยคือ กฎกระทรวงนี้ก็มีมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลเพื่อไทย และที่พรรคเพื่อไทยอ้างว่ากฎกระทรวงปี 2545 ออกเพราะผลกระทบจากวิกฤตต้มยำกุ้งและการชำระหนี้IMFนั้น หากเป็นไปตามคำกล่าวอ้าง เหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้ผ่านพ้นไปแล้ว ทำไมไม่เคยให้ความสำคัญปรับปรุงแก้ไขกฎกระทรวงฯ เรื่องถือครองที่ดินในช่วงระหว่างปี 2545-2560 เลยทั้งที่ในช่วงนั้นพรรคเพื่อไทยก็มีโอกาสได้เป็นรัฐบาล แต่วันนี้กลับมาบอกว่าถ้าได้เป็นรัฐบาลจะแก้ได้ดีกว่านี้ แต่สิ่งที่ประชาชนเห็นในช่วงนั้นคือ พรรคเพื่อไทยมีพฤติกรรมหมกมุ่นให้ความสำคัญแต่กับการแก้ไข พรบ. นิรโทษกรรม ฉบับสุดซอย เสียมากกว่า

แต่ในทางตรงกันข้ามกับ นายกรัฐมนตรี ได้พิจารณาและปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบให้ทันสมัยและเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศอย่างรัดกุมและเพื่อประโยชน์ของประชาชนคนไทยทั้งประเทศเสมอ และยังเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 77 ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนทุกคนเชื่อมั่นได้ เพราะรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติเสมอมา ไม่เคยมีนโยบายขายชาติ ไม่เคยมีการเอื้อประโยชน์ให้ต่างชาติเพื่อผลประโยชน์ใดๆ รัฐบาลนี้มีแต่ทำประโยชน์ให้คนไทย พัฒนาหารายได้และฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาวะวิกฤต พร้อมมุ่งจัดสรรที่ดินและคืนสิทธิที่ดินทำกินให้กับพี่น้องเกษตรกร และยังเดินหน้าสร้างโครงการที่อยู่อาศัยให้กับพี่น้องประชาชนทุกกลุ่มอย่างเสมอภาคโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

อยากให้พรรคเพื่อไทยทำความเข้าใจเสียใหม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ คือ นายกฯที่กอบกู้ชาติ มาจาก นายกฯขายชาติ อันมีพฤติการณ์เช่น ฮั้วต่างชาติโกงโครงการรับจำนำข้าวจนชาวนาไทยเสียชีวิตและทรัพย์สิน  โกงบ้านเอื้ออาทรจนประชาชนไม่มีที่อยู่ อนุมัติเอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้เมียนมาโดยมีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าต้นทุน ตรงนี้ต่างหากคือนิยามของ “นายกขายชาติ”