นอนคุก! ไม่ได้ประกัน! “รุ้ง-ปนัสยา” ใส่ครอปท็อปเดินห้างพารากอนผิด ม.112 ศาลระบุ ถ้าปล่อยตัวอาจก่อคดีอีก

“หมอทศพร” เผยอาการชายวัยรุ่นถูกยิงหน้านิติเวช รพ.ตำรวจ ปลอดภัยแล้ว แต่ยังรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู รพ.จุฬาฯ มีรอยกระสุนที่ลิ้นปี่ หมอผ่าตัดแล้วพบปอดและตับเสียหาย ไม่ยืนยันมาจากตำรวจหรือไม่ ฝากแพทย์แถลงรายละเอียด นพ.ชลน่านโวยตำรวจ ใช้ความรุนแรง เตรียมส่งเรื่องให้กรรมาธิการฯตรวจสอบ โฆษก บช.น.แจงตำรวจใช้แต่กระสุนยางไม่มีกระสุนจริง เหตุที่ยิงเพราะเกิดระเบิดก่อน ศาลไม่ให้ประกัน “รุ้ง-ปนัสยา” คดีร่วมกับเพนกวินพร้อมพวกรวม 5 คน จัดกิจกรรมเชิญชวนใส่ครอปท็อปเดินห้างสยามพารากอน เมื่อเดือน ธ.ค.63 ส่งเข้าทัณฑสถานหญิงกลางทันที

จากเหตุการณ์ม็อบ 14 พ.ย. กลุ่มไม่เอาระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ประกอบด้วย 8 เครือข่าย เรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ จัดชุมนุมบริเวณแยกปทุมวันเมื่อวันที่ 14 พ.ย. เดินขบวนไปยื่นหนังสือที่สถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐ เยอรมันประจำประเทศไทย แต่ระหว่างทางเกิดเสียงดังคล้ายระเบิดริมถนนอังรีดูนังต์ ด้านข้างสถาบัน นิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ทำให้ตำรวจควบคุม ฝูงชนยิงกระสุนยางถูกวัยรุ่นชายบาดเจ็บ 2 คน ส่งรักษาตัวโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ หลังจากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมไปยื่นหนังสือตามเป้าหมายและยุติการชุมนุมตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

ความคืบหน้าจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 15 พ.ย. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.ฐานะโฆษก บช.น.กล่าวว่า การชุมนุมกลุ่มทะลุแก๊สร่วมกับกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ตั้งแต่ 15.00 น. วันที่ 14 พ.ย. ก่อนเคลื่อนขบวนไปแยกปทุมวัน ผกก.สน.ปทุมวัน เจรจาเปิดการจราจรแต่ยังคงปิดการจราจร เผาหุ่นกลางแยกปทุมวันก่อนเดินทางไปยังสถานทูตเยอรมัน ถนนพระราม 1 ทำลายเครื่องกีดขวางปาก้อนอิฐใส่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ 2 นาย เจ้าหน้าที่ คฝ.ถอยร่นไปยังสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตร.มีการขว้างปาวัตถุระเบิด ตำรวจจึงใช้กระสุนยางมีผู้ชุมนุมบาดเจ็บ 2 คน เมื่อผู้ชุมนุมยื่นหนังสือตัวแทนสถานทูตฯแล้ว มีการชุมนุมบนถนนวิทยุ และใช้วัตถุประทัดคล้ายระเบิดขว้างปาบริเวณดังกล่าว ผบ.ตร.ห่วงใย สั่งการให้ บช.น.รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ทราบการกระทำผิดอย่างเคร่งครัด

ผู้สื่อข่าวถามว่า อาการผู้ชุมนุมที่บาดเจ็บเป็นอย่างไร พล.ต.ต.จิรสันต์กล่าวว่า แพทย์ รพ.ตำรวจ อยู่ระหว่างประสาน รพ.จุฬาฯ สถานการณ์ที่ระเบิดเกิดขึ้นก่อนแล้วใช้กระสุนยาง ต้องพิสูจน์ทราบว่า เกิดจากสาเหตุใด ยืนยันใช้กระสุนยางไม่มีการใช้กระสุนจริง ส่วนระยะยิงขนาดไหนต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ ปกติไม่ต่ำกว่า 8-15 เมตร ถามว่า สาเหตุที่ใช้กระสุนยางมีเหตุจำเป็นอย่างไร พล.ต.ต.จิรสันต์กล่าวว่า ข้อเท็จจริงที่ใช้มาจากเหตุระเบิด ยืนยันว่า ไม่มีการใช้อาวุธจริง ใช้โล่อุปกรณ์ป้องกันและการใช้กระสุนยาง เนื่องจากมีการใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ก่อน เป็นเหตุอันตราย เจ้าหน้าที่มีความจำเป็นต้องใช้กระสุนยางระงับเหตุ การชุมนุมเบื้องต้นมีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ส่วนข้อกล่าวหาอื่นอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน

ด้าน นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกฯรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เผยเหตุการณ์มีผู้ชุมนุมถูกกระสุนปืนบาดเจ็บหน้าสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ว่า ตนอยู่ในเหตุการณ์และเข้าไปช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นผู้บาดเจ็บยอมรับว่า ขณะนั้นเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยกปืนขึ้นยิงและมีผู้ชุมนุมก้มลงหมอบ แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าผู้บาดเจ็บถูกกระสุนปืนของตำรวจที่ยิงออกมาหรือไม่ สำหรับอาการผู้บาดเจ็บเบื้องต้นที่เห็น เป็นแผลคล้ายรูกระสุนบริเวณลิ้นปี่มีเลือดไหลซึมอยู่ตลอด ช่วยกดบาดแผลเพื่อห้ามเลือด หลังจากนั้นนำตัวส่ง รพ.จุฬาฯ ต่อมาทราบว่า แพทย์นำตัวเข้าห้องผ่าตัดออกมาเวลาประมาณตีหนึ่ง ขณะนี้ยังอยู่ในห้องไอซียูแต่รู้สึกตัวดี อาการทราบจากแพทย์ล่าสุดคือ ปอดและตับได้รับความเสียหาย ส่วนจะเป็นกระสุนยางหรือกระสุนจริงคงเป็นหน้าที่ของแพทย์ รพ.จุฬาฯแถลงข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตามในเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้บาดเจ็บอีก 2 คนมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนยาง บอกกับตนไว้ว่า อยากจะเปิดเผยข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด คาดว่าจะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนได้เร็วๆนี้

ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ยิงผู้ชุมนุมบาดเจ็บว่า ฝ่ายค้านห่วงใยสถานการณ์บ้านเมือง หลังมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่มีผลผูกพันทุกองค์กร หากมีผู้นำไปบังคับใช้ปฏิบัติมิชอบ หรือใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง อาจสร้างความแตกแยกวุ่นวายได้ ขอให้ผู้นำไปปฏิบัติทั้งกับผู้ชุมนุมหรือไล่ล่ายุบพรรค ปฏิบัติด้วยความชอบธรรมตามหลักนิติรัฐนิติธรรม ฝ่ายค้านยังห่วงใยการใช้ความรุนแรงที่การชุมนุมวันที่ 14 พ.ย.มีผู้บาดเจ็บจากอาวุธปืนที่แยกปทุมวัน ขอตำหนิการใช้ความรุนแรง เรียกร้องทุกฝ่ายใช้เวทีสภาฯพูดคุยกัน จะส่งเรื่องให้คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ กมธ.พัฒนาการเมือง สภาผู้แทนราษฎร ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องกระตือรือร้นสืบสวนข้อเท็จจริงนำคนทำความผิดใช้กระสุนจริงยิงผู้ชุมนุมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเร็วที่สุด ไม่ทำให้กระบวนการยุติธรรมถูกวิจารณ์จนเข้าสู่ภาวะวิกฤติ ทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง ไม่ใช่กระตือรือร้นปราบปราม การแสดงออกประชาชน ป้ายสีประชาชนเป็นขบวนการล้มล้างการปกครอง

ที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 จ.กระบี่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมเคลื่อนไหวของกลุ่มที่ต้องการให้เกิดการปฏิรูปในหลายประเด็น เมื่อวันที่ 14 พ.ย. บริเวณแยกปทุมวัน และมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นว่า “มีไม่กี่คนนี่ ก็มีแค่ 200-300 คน กับคน 70 ล้านคน คุณจะเอายังไง” เมื่อถามว่า ทุกอย่างจะราบรื่นดีใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า “ราบรื่นดี”

ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลนัดสอบคำให้การคดีพนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ชิวารักษ์ น.ส.ปนัสยา หรือรุ้ง สิทธิจิรวัฒนกุล น.ส.เบนจา อะปัน นายภวัต หิรัณย์ภณ และนายภาณุพงศ์ หรือไมค์ จาดนอก เป็นจำเลยที่ 1-5 ตามลำดับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

อัยการฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 18-20 ธ.ค.63 จำเลยร่วมกันกระทำผิด นายพริษฐ์และ น.ส.ปนัสยา จำเลยที่ 1-2 แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โพสต์ข้อความลงเพจเฟซบุ๊กแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และเฟซบุ๊กส่วนตัวเชิญชวนให้ประชาชนมาร่วมกิจกรรม สวมเสื้อผ้าครอปท็อป ชุดเสื้อกล้ามเอวลอยไปเดินห้างสยามพารากอน เขตปทุมวัน เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.63 วันดังกล่าวจำเลยทั้ง 5 สวมชุดเสื้อกล้ามเอวลอยเขียนข้อความที่แขนและเอว ยกเลิก 112 ปฏิรูปสถาบันฯ และข้อความล้อเลียนอื่น มีแนวร่วมและผู้ชุมนุมจำนวนมาก สน.ปทุมวัน แจ้งข้อหาดำเนินคดีกับพวกจำเลย ชั้นสอบสวนพวกจำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดี ศาลสั่งประทับฟ้องคดีหมายเลขดำ อ.1180/2564 ให้ปล่อย น.ส.เบนจาและนายภวัต จำเลยที่ 3-4 ชั่วคราว ด้วยหลักทรัพย์คนละ 2 แสนบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยทั้งสองกระทำการใดๆ ลักษณะเดียวกับที่ถูกกล่าวหาตามฟ้อง

วันนี้นัดสอบคำให้การจำเลยที่มีประกันมาศาล ศาลสอบคำให้การเเล้วจำเลยให้การปฏิเสธ ศาลนัดคุ้มครองสิทธิวันที่ 26 พ.ย.64 และนัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 24 ม.ค.65 ขณะนี้อยู่ระหว่างศาลพิจารณาคำร้อง รุ้ง-ปนัสยา ขอประกันตัวด้วยหลักทรัพย์จำนวนหนึ่ง

ต่อมาศาลมีคำสั่งว่า ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า กรณีก่อนจำเลยที่ 2 ถูกฟ้องคดีนี้ จำเลยที่ 2 เคยกระทำการในลักษณะทำนองเดียวกับคดีนี้มาแล้วหลายคดี อีกทั้งหลังจำเลยที่ 2 ถูกฟ้องคดีนี้ ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในคดีอื่นของศาลอาญา ไปกระทำซ้ำ ซึ่งอาจเป็นการละเมิดเงื่อนไขข้อห้ามของศาลอาญา จนพนักงานอัยการร้องขอให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว หากจำเลยที่ 2 ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว อาจไปกระทำการอันมีลักษณะเป็นความผิดเช่นเดียวกับคดีนี้อีก กรณีจึงเห็นสมควรไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 2 ให้ยกคำร้อง จากนั้นออกหมายขังส่งตัวเข้าทัณฑสถานหญิงกลางต่อไป

เวลาเดียวกันศาลอาญากรุงเทพใต้ ไต่สวนคำร้องขอคัดค้านการฝากขัง น.ส.เบนจา อะปัน คดีพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ยื่นคำร้องฝากขัง น.ส.เบนจา ข้อหาตาม ป.อาญามาตรา 112 ร่วมกันจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม บุคคลที่มีจำนวนร่วมกันมากกว่า 5 คนในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศ หรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และร่วมชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ที่มีมาตรการ หรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จากการชุมนุมคาร์ม็อบเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ท้องที่ สน.ทองหล่อ น.ส.เบนจา อ่านประกาศแถลงการณ์ 5 ข้อหน้าบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เดิมมีกำหนดขังได้อีก 14 วัน โดยไต่สวนผู้คัดค้านเเล้วศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขังต่อได้อีกเพียง 7 วัน