“บิ๊กน้อย” เปิดใจนำพรรครวมแผ่นดิน ลั่น! ทิ้งคนร่วมอุดมการณ์ไม่ได้ ยันไม่ใช่พรรคอะไหล่

“บิ๊กน้อย” เปิดใจนำพรรครวมแผ่นดิน ลั่น ทิ้งคนร่วมอุดมการณ์ไม่ได้ ยันไม่ใช่พรรคอะไหล่ มั่นใจไม่ขัดแย้งซ้ำรอยพรรค “ธรรมนัส” แทงกั๊กชูใครเป็นแคนดิเดตนายกฯ

วันที่ 1 ส.ค. 2565 พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ให้สัมภาษณ์ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ก่อนเข้าร่วมประชุมพรรครวมแผ่นดิน ว่า เหตุผลจริงๆ ตนเองคือทำการเมืองมาระยะหนึ่ง เจอกับสิ่งที่ได้เห็น และยังมีสิ่งที่เราไม่ได้ทำ คิดว่าหากปล่อยทิ้งไปก็จะไม่ดี อีกทั้งยังมีคนที่เราพาเข้ามาในการเมือง และตอนนี้เขาไม่มีที่พึ่ง จึงต้องกลับมาหาบ้านให้เขาอยู่ให้เรียบร้อย นี่คือเหตุผล ส่วนคนที่จะมาร่วมงานด้วยนั้น ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกพรรคเดิมที่ตามมาด้วย ก็มีหลายคนที่เขาอยากเล่นการเมือง จึงมาอยู่ร่วมกันในพรรคนี้ และต้องการหาพรรคการเมืองใหม่ที่ให้ตนเป็นผู้นำ จึงขอกลับมาอีกครั้ง เพราะเราไม่ได้ทำอะไรในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีกลุ่ม ส.ส. จากพรรคเศรษฐกิจไทยและกลุ่มพรรคเล็ก โดยเฉพาะกลุ่ม 16 เข้ามาร่วมด้วยหรือไม่ พล.อ.วิชญ์ ตอบว่าไม่เคยคุยกับใครทั้งสิ้น แต่ในส่วนของพรรคพลังชาติไทย มี ส.ส.คนเดียว คือ นางบุญญาพร นาตะธนภัทร ก็ได้คุยกันอยู่แค่นั้น ยังไม่เคยคุยกับคนอื่น ยืนยันว่าไม่มีการดีล กับพรรคเล็กตามกระแสข่าวที่เกิดขึ้น ส่วนที่สื่อนำข้อมูลไปลงก็ไม่ทราบว่ามาจากใคร แต่ยืนยันไม่เคยคุยกับใครแน่นอน

ขณะที่คำถามว่าพรรครวมแผ่นดินจะเป็นพรรคอะไหล่ พรรคแตกแบงก์พันหรือไม่ พล.อ.วิชญ์ ระบุว่า ไม่จริง เพราะมาทำทุกอย่างก็เพื่อสมาชิกพรรคเดิมที่มีอุดมการณ์เดียวกัน และสุดท้ายเขาไม่มีที่ไปก็ต้องหาบ้านให้เขาอยู่ ไหนๆ มาแล้วก็จะต้องทำเพื่อบ้านเมืองและประชาชนต่อ เมื่อถามต่อไปว่าได้พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก่อนมาตั้งพรรคหรือไม่ พล.อ.วิชญ์ เผยว่า พล.อ.ประวิตร ไม่เกี่ยว ที่ตนทำตรงนี้เพื่อสมาชิกพรรคเก่าที่เขาเดินตามมา เมื่อถึงเวลาจะทิ้งเขาไม่ได้ มันดูไม่ดี จึงต้องกลับมาดูแลเขาต่อ ส่วนเรื่องสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่มีปัญหา ต้องทำในส่วนของเราให้ดีที่สุด สูตรจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับสภาฯ จะพิจารณา เราไม่มีสิทธิ์ไปก้าวล่วง

สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าที่พรรคยังไม่มีบิ๊กเนมนั้น พล.อ.วิชญ์ กล่าวในเรื่องนี้ว่า การเมืองเป็นเรื่องยากมากสำหรับคนใหม่อย่างเรา แต่ตอนนี้ก็เริ่มชินแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำงานให้ประชาชน ควรต้องทำให้มากที่สุด และช่วงเวลานี้ประชาชนกำลังเดือดร้อนหลายเรื่อง ดังนั้น หากเราไม่ช่วยกันก็อยู่ที่ประชาชนว่าจะเห็นชอบกับเราหรือไม่

ทางด้านผู้สื่อข่าวถามอีกว่าครั้งนี้จะซ้ำรอยเหมือนตอนที่อยู่กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ซึ่งปัจจุบันเป็นหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทยหรือไม่ พล.อ.วิชญ์ ตอบว่า ไม่มี และจริงๆ แล้วไม่ได้มีอะไร การที่เราอยู่ด้วยกันไม่ได้เพราะมันไปคนละทางเท่านั้นเอง ส่วนที่มาใหม่วันนี้ทุกคนเข้าใจกันหมด ยืนยันไม่มีอะไรเกิดขึ้นในลักษณะนั้นอีกแล้ว เมื่อถามย้ำว่าจะเป็นคนควบคุมพรรคแบบเบ็ดเสร็จใช่หรือไม่ พล.อ.วิชญ์ ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนควบคุม แต่เรามีคณะกรรมการที่ทำหน้าที่ควบคุมพรรค ใช้มติพรรคอย่างเดียว ตนคนเดียวไม่มีอำนาจทำอะไรได้ ทุกพรรคการเมืองต้องเป็นแบบนี้ เพราะมีข้อบังคับพรรค

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่าพรรครวมแผ่นดินจะชูใครเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พล.อ.วิชญ์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มี จึงถามย้ำต่อไปว่าพร้อมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พล.อ.วิชญ์ ระบุ หากคิดว่าใครเหมาะสมมากที่สุดในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เมื่อถึงเวลาอาจมีคนที่ดีหรือใครก็แล้วแต่ที่เข้ามาช่วยบ้านเมืองแบบจริงจัง เราก็สนับสนุน ขณะที่จุดยืนของพรรค ก็ทำพรรคการเมืองนี้ให้เป็นของประชาชนจริงๆ และทำงานให้กับประชาชน ไม่มีอย่างอื่นแน่นอน.