เมื่อวันที่ 2 ต.ค.64 นายฟาบรีส กู๊ดซ์แมน ประธานกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรม บริษัท บี.กริม จอยน์ เว็นเจอร์ โฮลดิ้ง จํากัด เปิดเผยว่า ในอนาคต บริษัทฯ มุ่งเน้นด้านเทคโนโลยีดิจิทัลในการจัดการพลังงาน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีโซลูชันด้านการประหยัดพลังงาน ทั้งการผลิตไฟฟ้าโดยใช้พลังงานหมุนเวียน เทคโนโลยีการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โครงสร้างพื้นฐานของอาคารที่ช่วยประหยัดพลังงาน ออกแบบระบบภายในอาคารที่เป็นมิตรต่อสุขภาพ
ล่าสุด สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ได้จัดโครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพที่ใช้เทคโนโลยีเชิงลึกในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ค้นหาสตาร์ทอัพที่เชี่ยวชาญในเทคโนโลยีเชิงลึกในกลุ่ม ARI-Tech อย่าง AI Robotics และ Immersive IoT ซึ่งมีบริษัทสตาร์ทอัพที่เข้าร่วมกว่า 100 บริษัท โดยจับคู่สตาร์ทอัพและบริษัทพันธมิตรเข้าสู่รอบสุดท้ายรวม 10 ทีม
โดดย บี.กริม ได้จับคู่กับอัลโต้เทค บริษัทสตาร์ทอัพ ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มในการจัดการการใช้พลังงานภายในอาคารด้วยเทคโนโลยี AI และ IoT และได้เลือกอาคาร Garden Wing ซึ่งตั้งอยู่ใน บี.กริม สำนักงานใหญ่ ถนนกรุงเทพกรีฑา เพื่อทำการทดสอบความเป็นไปได้ของโครงการ คาดว่าจะนำมาใช้กับโซลูชันด้านการประหยัดพลังงานของบริษัทฯ ได้
นอกจากนี้ บี.กริม มีเป้าหมายที่จะพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ พร้อมเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อตอบรับกับความต้องการของตลาดที่กำลังเติบโตขึ้น ซึ่งหลังจากโครงการนี้ บี.กริม และอัลโต้เทค มีแผนที่จะร่วมมือพัฒนาโซลูชันด้าน AI และ IoT ที่มุ่งเน้นด้านการประหยัดพลังงาน และต่อยอดในเชิงธุรกิจต่อไป
นายวโรดม คำแผ่นชัย ซีอีโอ บริษัท อัลโต้เทค จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ติดตั้งอุปกรณ์ IoT และแพลตฟอร์ม AI ในการจัดการพลังงานที่ชื่อว่า Alto Energy Edge ลดพลังงานภายในอาคาร Garden Wing สูงสุด 28% ต่อปี พร้อมระบบ Feedback ด้วย QR Code ผ่านสมาร์ทโฟนให้ผู้ที่อยู่ภายในอาคารแจ้งให้ระบบ AI ทำให้อาคารสามารถปรับการใช้พลังงานและระดับอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศได้อย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น และมีเทคโนโลยี Self-driving Building ทำให้อาคารสามารถจัดการพลังงานได้อย่างอัตโนมัติ เพื่อลดการสูญเสียพลังงานโดยเปล่าประโยชน์
โดยระบบ AI สามารถควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในอาคาร ประกอบด้วย
• ปรับม่านอัตโนมัติตามความเข้มของแสง หรือ Ambient Light จากภายนอกอาคาร
• ปรับการทำงานของเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติตามจำนวนคน โดยใช้กล้องตรวจจับการเคลื่อนไหวหรือปริมาณโหลดความร้อนภายในอาคาร โดยใช้ AI ปรับระดับความเย็นซึ่งเรียนรู้จากความสบายของผู้ใช้อาคาร
• ปรับการทำงานของเครื่องเติมอากาศ หรือ Fresh Air Unit อัตโนมัติตามปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ภายในอาคาร
• ตรวจวัดการใช้พลังงานแบบ Real Time รวมถึงเชื่อมต่อกับระบบโซลาร์เพื่อตรวจสอบการใช้ไฟและกำลังการผลิตไฟฟ้า โดยใช้ข้อมูลร่วมกับการจัดการพลังงานภายในอาคาร เพื่อให้เกิดการใช้พลังงานสะอาดที่ผลิตได้จากแผงโซลาร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
• ตรวจสอบสถานะการทำงานและควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในอาคารผ่านแพลตฟอร์มจัดการพลังงานด้วยระบบ AI หรือ Manual
• ประเมินสภาพอากาศปัจจุบันด้วยสถานีตรวจวัดอากาศ หรือ Weather Station และการพยากรณ์อากาศเพื่อปรับการใช้พลังงานภายในอาคาร
• จำลองการใช้พลังงานภายในอาคารด้วยแบบจำลองดิจิทัล หรือ Digital Twin
ทั้งนี้ เทคโนโลยีดังกล่าว ได้รับรางวัลชนะเลิศ The Best Performance ARI Tech Startup Award จากกิจกรรม Demo Day ของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
