บี.กริม เพาเวอร์ ผนึก สิงห์ เอสเตท ร่วมลงทุนพัฒนา 3 โรงไฟฟ้า คาดอีก 3 ปี สร้างรายได้ กว่า 7.8 พันล้านบาท

ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (BGRIM) เปิดเผยว่า ขณะนี้ บีกริม เพาเวอร์ และบริษัทสิงห์ เอสเตท ฯได้บรรลุข้อตกลงอย่างเป็นทางการ และทำธุรกรรมการถือหุ้นในบริษัทผลิตไฟฟ้าทั้ง 2 แห่งเสร็จสิ้นเรียบร้อย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ทำธุรกรรมการถือหุ้นในบริษัทผลิตไฟฟ้าหนึ่งแห่งเสร็จสิ้นไปเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2564 ส่งผลให้ปัจจุบัน บี.กริม เพาเวอร์ ถือหุ้น 70% และ สิงห์ เอสเตท ถือหุ้น 30% ในบริษัทผลิตไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 403 เมกะวัตต์

ทั้งนี้โรงไฟฟ้า 3 แห่ง อยู่ในนิคมเอสอ่างทอง  ประกอบไปด้วย  บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (อ่างทอง) 1 จำกัด ซึ่งดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าประเภทพลังความร้อนร่วม กำลังผลิต 123 เมกะวัตต์ และโครงการผลิตไฟฟ้าแห่งใหม่ 2 แห่ง ซึ่งมีบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (อ่างทอง) 2 จำกัด และ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (อ่างทอง) 3 จำกัด เป็นเจ้าของใบอนุญาต แต่ละแห่งมีกำลังการผลิต 140 เมกะวัตต์ และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) 90 เมกะวัตต์ กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นเวลา 25 ปี

อย่างไรก็ตาม BGRIM จะใช้ความชำนาญในการเป็น Utilities Solution Provider เพิ่มศักยภาพในความร่วมมือมุ่งสู่การเป็น SMART Eco Industrial Estate ซึ่งประกอบไปด้วยการพัฒนาดังต่อไปนี้

1. ธุรกิจไฟฟ้ารวมถึงระบบการส่งและจำหน่ายไฟฟ้าตลอดจนการเตรียมพร้อมสำหรับแพลตฟอร์มดิจิทัล,

2.ระบบส่งและจำหน่ายก๊าซ

3. Smart Solution รวมถึงการใช้ solar rooftop และ solar floating เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงานของลูกค้าอุตสาหกรรม (IU)

4. การซื้อขายพลังงานผ่านระบบ energy trading สำหรับ P2P

5. ใบรับรองเครดิตการผลิตพลังงานหมุนเวียน (REC) เพื่อให้การสนับสนุนแผนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของลูกค้า IU ตามเป้าหมายไปสู่ความยั่งยืน

6. ระบบกักเก็บพลังงาน เพื่อเสริมเสถียรภาพและประสิทธิภาพของพลังงานทดแทน  อย่างไรก็ตามการร่วมทุนทั้ง3 บริษัทนี้ คาดจะสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 7,800 ล้านบาทในปี พ.ศ. 2567

นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สิงห์ เอสเตท ภูมิใจที่เข้ามาเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักในภาคการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยได้อย่างรวดเร็ว ผ่านการร่วมทุนกับหนึ่งในบริษัทที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับมากที่สุดของประเทศไทยในด้านการผลิตไฟฟ้า ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่มีผลตอบแทนที่น่าดึงดูดใจ และที่สำคัญไปมากกว่านั้นคือ เป็นธุรกิจที่จะมาผนึกกำลังส่งเสริมซึ่งกันและกันกับธุรกิจหลักของสิงห์ เอสเตท ซึ่งประกอบไปด้วย อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ที่อยู่อาศัย รีสอร์ท และโรงแรม ได้เป็นอย่างดี