ปรากฏการณ์นิวนอร์มอล! “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” รัชกาลที่ 10 ทรงเดินหน้าสร้างภาพลักษณ์ใหม่เสริมรากฐานความมั่นคง คืนความสุขสงบให้คนไทย ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม

หลังผนึกกำลังรวมพลังราชวงศ์ไทยสร้างปรากฏการณ์นิวนอร์มอลได้สำเร็จ เพื่อปรับทัพสถาบันกษัตริย์ไทยครั้งใหญ่ จนได้ใจประชาชนทั้งประเทศ “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10” ก็ทรงเดินหน้าสร้างภาพลักษณ์ใหม่เสริมฐานรากมั่นคงยิ่งขึ้น โดยแท็กทีม “สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี” และพระราชธิดาทั้งสองพระองค์ ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูง ออกปฏิบัติพระราชกรณียกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อคืนความสุขสงบให้คนไทย และลดความเหลื่อมล้ำในสังคม

ในหลายๆโอกาสความในพระราชหฤทัยของ “ในหลวง รัชกาลที่ 10” ที่ทรงมีต่อประชาชนชาวไทย ได้พรั่งพรูออกมา ไม่ว่าจะเสด็จฯไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่ใด จะทรงพระดำเนินเยี่ยมราษฎรอย่างใกล้ชิดเสมอ พร้อมตรัสทักทายและยื่นพระหัตถ์ให้ประชาชนสัมผัส ขณะที่ “สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี” ก็ทรงอยู่เคียงข้างมิได้ห่างกาย คอยแย้มพระสรวลโบกพระหัตถ์ให้ประชาชนตลอดเวลา และจะหยุดแวะรับสั่งคุยนานเป็นพิเศษเมื่อเจอกลุ่มเอฟซีแฟนคลับ จนกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติใหม่ของราชวงศ์ไทย

“…ในหลวงจะไม่มีวันทิ้งคนไทย พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์จะทำทุกอย่างเพื่อคนไทย”…จากวันนั้นจนวันนี้เสียงยังดังกึกก้องไปทั่วทั้งแผ่นดิน ดุจคำมั่นสัญญาที่ “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” ทรงให้ไว้กับประชาชนคนไทยทุกคน เพราะเราทุกคนคือคนไทยเหมือนกันท่ามกลางการแพร่ระบาดอย่างหนักของไวรัสโควิด-19 “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” ทรงห่วงใยในสุขภาพและพลานามัยของพสกนิกรชาวไทยยิ่ง นอกจากจะพระราชทานขวัญและกำลังใจให้ประชาชนคนไทย ยังทรงนำพาคนไทยและประเทศไทยก้าวผ่านวิกฤติโควิด-19 ไปด้วยดี โดยได้พระราชทานพระบรมราโชบายในการดำเนินมาตรการต่างๆอย่างใกล้ชิด เพื่อควบคุมยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย และเมื่อทรงคาดการณ์ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะไม่จบลงในเร็ววัน ก็ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์อีกหลายพันล้านบาท เพื่อใช้จัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ สำหรับรองรับสถานการณ์วิกฤติในอนาคต

ตั้งแต่การแพร่ระบาดระลอกแรก เมื่อต้นปี 2563 “ในหลวง รัชกาลที่ 10” ได้พระราชทานพระบรมราโชบายให้เร่งจัดหาเครื่องช่วยหายใจอย่างทั่วถึง ภายใต้โครงการเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์พระราชทาน โดยโปรดให้ประสานความร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตจากสหรัฐอเมริกาและเยอรมนี ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวเครื่องช่วยหายใจกำลังขาดแคลนอย่างหนัก และเป็นที่ต้องการอย่างมากของชาวโลก ขณะเดียวกันยังมีพระราชดำริให้สร้างห้องตรวจหาเชื้อแบบเหมาะสมกับพื้นที่ โดยโปรดให้เอสซีจีดำเนินการสร้างห้องตรวจหาเชื้อพระราชทาน Modular Swab Unit ให้แก่โรงพยาบาล 20 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเสริมความพร้อมหากมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดระลอกใหม่ อีกทั้งพระราชทานรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัย จำนวน 36 คัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจหาผู้ติดเชื้อโควิดเชิงรุก โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการค้นหาผู้ป่วย ณ จุดที่มีการแพร่ระบาดได้อย่างทันท่วงที พร้อมกันนี้ยังพระราชทานรถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ จำนวน 5 คัน สำหรับใช้งานคู่กับรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัย และพระราชทานรถ X-ray Digital mobile จำนวน 2 คัน เป็นรถเอกซเรย์ระบบดิจิทัลคันแรกในประเทศไทย ที่มีระบบ AI สามารถส่งข้อมูลผู้ป่วยผ่านสัญญาณ 5G เพื่อให้แพทย์วิเคราะห์อาการของผู้ป่วยด้วยจอมอนิเตอร์ ช่วยลดการสูญเสียผู้ป่วยที่ติดเชื้อลงปอดได้อย่างมีนัยสำคัญ ไม่เพียงเท่านี้ ได้พระราชทานเครื่องเอกซเรย์แบบเคลื่อนที่ จำนวน 30 เครื่อง เพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของโรงพยาบาลสนาม อีกทั้งพระราชทานห้องความดันลบและห้องความดันลบแบบเคลื่อนที่ให้แก่โรงพยาบาลต่างๆในพื้นที่เสี่ยงสูงเพื่อรับมือสถานการณ์คนไข้ติดเชื้อโควิดที่อาการหนัก

สายธารแห่งพระเมตตายังหลั่งไหลไม่หยุด เมื่อได้พระราชทานรถพยาบาลกู้ชีพฉุกเฉิน จำนวน 8 คัน เพื่อใช้กู้ชีพช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในพื้นที่ทุรกันดารที่เข้าถึงได้ยาก ด้วยทรงเล็งเห็นว่าการแพร่ระบาดในพื้นที่เรือนจำอาจยับยั้งได้ยาก จึงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จัดหาอุปกรณ์และเครื่องมือการแพทย์ให้กับกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ผ่านโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ สำหรับนำไปป้องกันและแก้ไขปัญหา เพื่อยับยั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดในเรือนจำทั่วประเทศ อีกทั้งเพิ่มศักยภาพในการรักษาผู้ต้องขังให้กับโรงพยาบาลในสังกัดกรมราชทัณฑ์

ด้วยทรงทราบถึงความทุกข์ร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงมีพระราชดำริให้จัดทำ “ถุงพระราชทานกำลังใจ” เป็นตัวแทนสายธารความรักความห่วงใยส่งไปถึงประชาชนคนไทย ตลอดจนบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วประเทศ ที่ร่วมปฏิบัติหน้าที่อย่างเหน็ดเหนื่อยเพื่อดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ยามใดที่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้าขอให้นึกถึงพระราชดำรัสล้ำค่าของ “ในหลวง รัชกาลที่ 10” ที่พระราชทานไว้อย่างน่าซาบซึ้งใจ…“อย่างที่บอกว่าประชาชนมีความสุข ประเทศมีความมั่นคง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ปัญหาต้องมี อุปสรรคต้องมีเสมอ แต่ถ้าเรามีความมั่นคงมีความอยากให้ประชาชนมีความสุข มีทัศนคติที่ดี ประชาชนก็มีความสุข พวกเราก็มีความสุข เพราะเราก็คือประชาชน…”

นอกจากจะทรงห่วงใยในสุขภาพพลานามัยของคนไทย ยังเล็งเห็นถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นกับประชาชนหลากหลายอาชีพ จึงได้พระราชทานโครงการฟาร์มตัวอย่างฯต้านภัยโควิด-19 และโปรดเกล้าฯให้ใช้พื้นที่โครงการฟาร์มตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จำนวน 30 ฟาร์ม ในพื้นที่ 17 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเป็นแหล่งสร้างอาหารที่ปลอดภัย แหล่งสร้างรายได้ และแหล่งสร้างอาชีพที่ยั่งยืน ช่วยแก้ปัญหาให้ผู้ตกงานในยามที่ต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ใหญ่

อีกหนึ่งของขวัญพระราชทานจาก “ในหลวง รัชกาลที่ 10” ยังรวมถึงทรงสนับสนุนการปฏิรูปที่ดินอย่างจริงจัง โดยพระราชทานที่ดินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นการปฏิรูปที่ดินในประเทศไทย ครอบคลุมเนื้อที่มากกว่า 44,369 ไร่ ในพื้นที่ 5 จังหวัดนำร่อง คือ ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, นครปฐม, ฉะเชิงเทรา และนครนายก นอกจากนี้ ได้พระราชทานพระบรมราโชบายเกี่ยวกับการปฏิรูปที่ดิน คือมีพระราชประสงค์ให้เกษตรกรผู้เช่าที่ดินทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์อยู่เดิม ได้ทำกินอยู่ในที่ดินนั้นตลอดไปชั่วลูกหลาน แต่จะไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้น รวมทั้งจัดให้มีการพัฒนาต่างๆให้สอดคล้องกับสภาพเดิมของท้องถิ่น และให้รวมกลุ่มเกษตรกรจัดตั้งเป็นสหกรณ์ ซึ่ง ส.ป.ก.ได้น้อมรับพระบรมราโชบายดังกล่าวนำมาเป็นแนวทางปฏิบัติงาน

ขณะเดียวกัน “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” ทรงเล็งเห็นความสำคัญของการศึกษา, งานราชการ, งานสาธารณภัย และความสำคัญเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดิน เพื่อให้หน่วยงานได้ใช้ประโยชน์สูงสุด จึงได้พระราชทานโฉนดที่ดินในพระปรมาภิไธย เพื่อประโยชน์เป็นสถานที่ทำงาน, สถานที่ศึกษา และประโยชน์ของทางราชการ รวมเนื้อที่ 4,831 ไร่ ได้แก่ “โครงการพิพิธภัณฑ์ไม้มีค่าของแผ่นดิน” ในพื้นที่วังปารุสกวัน เพื่อใช้เป็นสถานที่ทำงานของกองบัญชาการ กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ สถานที่ทำงานของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ค่ายนเรศวร และค่ายพระรามหก

ในส่วนของสถานศึกษา ได้พระราชทานโฉนดที่ดินให้แก่โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย โรงเรียนราชวินิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มหาวิทยาลัยสวนดุสิต และยังพระราชทานที่ดินกว่า 148 ไร่ บริเวณคลองหก จังหวัดปทุมธานี เพื่อใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างสวนสัตว์แห่งใหม่ และสถานที่ทำงานขององค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ อีกทั้งพระราชทานโฉนดที่ดินเขตดุสิต เพื่อใช้เป็นสถานที่ทำงานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สถานที่ทำงานของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และพระราชทานโฉนดที่ดินตั้งอยู่ในจังหวัดปทุมธานีและชลบุรี เพื่อใช้ประโยชน์ในทางราชการของกองทัพบก

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทรงคำนึงถึงประโยชน์สุขของประเทศชาติเป็นสำคัญ เพราะพระราชปณิธานสูงสุดของ “พระบาทสมเด็จพระ วชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” คือการคืนความสุขสงบให้ประชาชนคนไทย และลดความเหลื่อมล้ำในสังคม.