ปู่ทวดได้พัดจากขอทานบอกเป็นสมบัติขงเบ้ง ตกทอดถึงรุ่นหลาน เพิ่งรู้มีมูลค่า 48 ล้าน แต่ห้ามขาย!!

ปู่ทวดได้พัดจากขอทาน บอกเป็นสมบัติขงเบ้ง ตกทอดถึงรุ่นหลาน ตะลึง ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่ามีมูลค่าถึง 48 ล้าน แต่ห้ามขาย

ชายจากมณฑลเหอเป่ย นำสมบัติตกทอดจากคุณทวด มาขอให้ผู้เชี่ยวชาญในรายการประเมินของโบราณช่วยตรวจสอบ ซึ่งเขาทำให้ทุกคนประหลาดใจ เพราะเขาปรากฏตัวบนเวทีพร้อมถือกล่องไม้ ทุกคนคิดว่ากล่องไม้นั้นเป็นสมบัติ แต่สุดท้ายชายหนุ่มก็หยิบพัดนก ที่มีขนเพียง 9 เส้นติดอยู่ออกมา

โดยเขาเผยว่าพัดขนนกอันนี้ไม่ใช่พัดธรรมดา แต่เป็นของโบราณ สมบัติตกทอดของจูกัดเหลียง หรือ ขงเบ้ง รัฐบุรุษแห่งยุคสามก๊ก ซึ่งเขาไม่ใช่ทายาทของขงเบ้ง แต่ครอบครัวของเขาได้รับมาด้วยความบังเอิญ

เมื่อหลายปีก่อนเกิดน้ำท่วมใหญ่ในบ้านเกิดของเขา ปู่ทวดได้พบกับขอทานคนหนึ่งซึ่งมีสภาพซูบผอมและน่าสงสาร จึงพาขอทานคนนี้กลับมาที่บ้าน ให้ความช่วยเหลือทั้งหาอาหารและเสื้อผ้าดีๆ มาให้ใส่ ขอทานคนนั้นจึงตอบแทนน้ำใจปู่ทวดด้วยพัดขนนกอันนี้ พร้อมบอกว่าเป็นสมบัติคู่กายขงเบ้ง

ตั้งแต่นั้นมา ครอบครัวของเขาก็เก็บรักษาพัดนี้ไว้อย่างดี มีการส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น จนเมื่อถึงรุ่นของเขา ชายหนุ่มก็อยากทราบถึงมูลค่าที่แท้จริงของพัดอันนี้ จึงตัดสินใจนำมาให้ผู้เชี่ยวชาญทำการประเมิน จะได้ทราบว่าเป็นสมบัติโบราณของแท้จริงไม่

หลังจากตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน ผู้เชี่ยวชาญลงความเห็นว่าพัดขนนกนี้ มีลักษณะเหมือนกับพัดของขงเบ้งจริง แต่ไม่น่าจะใช่พัดที่ขงเบ้งใช้พกติดตัว จริง ๆ แล้วพัดนี้น่าจะมีต้นกำเนิดจากยุคราชวงศ์ชิง ที่สร้างขึ้นโดยช่างฝีมือมากกว่า โดยพัดในยุคสมัยนั้นจะทำขึ้นจากขนนก ส่วนด้ามจับทำขึ้นจากงาช้างหายาก แม้จะไม่ใช่พัดของขงเบ้ง แต่ก็ยังเป็นโบราณวัตถุซึ่งน่าจะมีมูลค่าอย่างน้อย 10 ล้านหยวน (48 ล้านบาท)

แต่ถึงอย่างนั้นผู้เชี่ยวชาญกลับบอกชายหนุ่มว่า “ผมแนะนำให้คุณส่งมอบมันแก่ทางการ เพราะถ้าคุณขายมัน จะต้องเผชิญหายนะครั้งใหญ่”

ซึ่งชายหนุ่มไม่เข้าใจความหมายของคำเตือนนั้น ผู้เชี่ยวชาญจึงอธิบายว่าด้ามจับของพัดนี้ทำขึ้นจากงาช้าง ไม่ใช่หยก ซึ่งในประเทศจีน การครอบครองและค้างาช้างถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย อาจมีความผิดถึงขั้นจำคุก ดังนั้นจึงแนะนำให้ชายหนุ่มส่งมอบแก่ทางการ

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ชายหนุ่มก็แสดงสีหน้าสับสนไม่รู้จะทำยังไง เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญพูดนั้นถูกต้อง 100% หรือไม่ ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่ตัดสินใจนำพัดกลับบ้านไป

ขอขอบคุณ

ข้อมูล :phunuphapluat.nguoiduatin.vn