ฝนตกหนัก น้ำท่วม ถนนพัง 16 จังหวัด 73 เส้นทาง ไม่สามารถสัญจรได้ 44 แห่ง

ฝนตกหนัก ซัดเส้นทางคมนาคมพัง 16 จังหวัด ใน 73 สายทาง ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 44 แห่ง ขณะที่ รฟท. และ บขส. ปรับเส้นทางการเดินรถในเส้นทางที่ได้รับผลกระทบ

วันที่ 6 ตุลาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อุทกภัยตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเร่งช่วยเหลือ และบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการเดินทางจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

ล่าสุด ศูนย์ Command Center ภัยพิบัติกระทรวงคมนาคม สรุปรายงานอุทกภัยในเส้นทางคมนาคม (6 ต.ค.) มีโครงข่ายคมนาคมได้รับผลกระทบ รวม 73 เส้นทาง จำนวน 99 แห่ง สามารถสัญจรผ่านได้ 55 แห่ง สัญจรผ่านไม่ได้ 44 แห่ง แบ่งเป็นทางถนน 41 แห่ง และทางราง 3 แห่ง ถนนทางหลวงและทางหลวงชนบท ได้รับผลกระทบ รวม 70 เส้นทาง จำนวน 95 แห่ง สามารถสัญจรผ่านได้ 55 แห่ง สัญจรผ่านไม่ได้ 40 แห่ง ในพื้นที่ 16 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย โดยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อ่างทอง, พระนครศรีอยุธยา, ขอนแก่น, สระบุรี และ ชัยภูมิ01:52 / 01:52AD

ในส่วนของการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. มีเส้นทางเดินรถที่ได้รับผลกระทบผ่านไม่ได้ 3 แห่ง ได้แก่ ระหว่าง สถานีหนองโดน ถึง บ้านหมอ กม.ที่ 113/5 – 116/1 จังหวัดสระบุรี, ระหว่าง สถานีบำเหน็จณรงค์ ถึง สถานีจัตุรัส กม.ที่ 296/5 – 297/7 จังหวัดชัยภูมิ, ระหว่าง สถานีบำเหน็จณรงค์ ถึง สถานีจัตุรัส กม.ที่ 308/5 – 310/2 จังหวัดชัยภูมิ

ทั้งนี้ รฟท. ปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินรถ โดยหยุดเดินรถเส้นทางแก่งคอย – ชุมทางบัวใหญ่ จำนวน 2 ขบวน และกรุงเทพ – เชียงใหม่ จำนวน 4 ขบวน พร้อมเปลี่ยนเส้นทางการเดินรถกรุงเทพ – หนองคาย จำนวน 2 ขบวน มาใช้เส้นทางแก่งคอย – ปากช่อง – นครราชสีมา – ชุมทางบัวใหญ่ – หนองคาย และ ลดระยะทางวิ่ง จำนวน 10 ขบวน

ในส่วนของบริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. ปรับเส้นทางเดินรถที่มีเส้นทางผ่านจังหวัดพิจิตร ได้แก่ สาย 47 กรุงเทพฯ – ทุ่งช้าง, สาย 957 กรุงเทพฯ – แม่สาย และ สาย 962 กรุงเทพฯ – ป่าแดด – เชียงของ เปลี่ยนมาใช้เส้นทาง ทล.117 นครสวรรค์ – พิษณุโลก แทน ในส่วนของท่าเรือและท่าอากาศยาน ยังไม่มีรายงานการได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย

นอกจากนี้ กรมเจ้าท่า ตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย จัดชุดถุงยังชีพ แจกจ่ายประชาชนในพื้นที่ประสบเหตุอุทกภัย ขณะที่กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบทนำเครื่องจักรเข้าซ่อมแซมถนนที่ได้รับความเสียหาย ได้ติดตั้งป้าย/อุปกรณ์ เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนในการสัญจรในพื้นที่เกิดประสบเหตุอุทกภัย รวมทั้งจัดรถรับ – ส่ง และมอบสิ่งของจำเป็นให้แก่ผู้ประสบภัยด้วย.