“พลภูมิ-สกาวใจ-พงศกร” พรรคเพื่อไทย นำร่องใช้รถ EV หาเสียง ช่วยลดมลพิษ-ฝุ่น PM 2.5

“พลภูมิ-สกาวใจ-พงศกร” พรรคเพื่อไทย นำร่องใช้รถ EV หาเสียง ช่วยลดมลพิษ-ฝุ่น PM 2.5 สอดรับนโยบายเพื่อไทย หวังประชาชนสุขภาพดี พร้อมเดินหน้าผลักดันกฎหมายอากาศสะอาดต่อ

วันที่ 6 เม.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง บรรดาผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคการเมืองต่างๆ ล้วนงัดกลยุทธ์การหาเสียงมาเรียกคะแนนนิยมจากประชาชนในพื้นที่ ล่าสุด นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้สมัคร ส.ส.เขตบึงกุ่ม (เฉพาะแขวงคลองกุ่ม)-คันนายาว พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย น.ส.สกาวใจ พูนสวัสดิ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขตลาดพร้าว-บึงกุ่ม, นายพงศกร รัตนเรืองวัฒนา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางกะปิ-วังทองหลาง ลงพื้นที่หาเสียงโดยใช้รถไฟฟ้า หรือ EV เพื่อสอดรับกับนโยบายของพรรคในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะ PM 2.5 

นายพลภูมิ กล่าวว่า ประชาชน คนกทม.ต้องเผชิญกับปัญหาฝุ่น PM 2.5 อยู่เป็นประจำทุกปี ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และยังไม่ได้รับการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมจากรัฐบาลเลยในช่วงที่ผ่านมา ประชาชนต้องช่วยเหลือตัวเอง ซึ่งในฐานะที่ตนอาสามาเป็น ส.ส. เป็นผู้แทนประชาชน เล็งเห็นปัญหาตรงจุดนี้ จึงอยากมีส่วนช่วยในการแก้ไข ด้วยการนำร่องใช้รถไฟฟ้า EV ในการหาเสียงเพื่อลดมลพิษ และหากได้เข้าไปทำหน้าที่ในสภา ก็จะผลักดันกฎหมายอากาศสะอาดให้ประสบความสำเร็จ เพราะพรรคเพื่อไทยมีนโยบายส่งเสริมพลังงานสะอาดในการแก้ปัญหา PM 2.5 ใน กทม.

น.ส.สกาวใจ กล่าวเสริมว่า สาเหตุกว่าร้อยละ 60-65 เกิดจากการจราจร รถยนต์เก่าที่มีการสันดาปไม่สมบูรณ์ ดังนั้นรัฐบาลควรให้การอุดหนุนรถยนต์เก่าที่ใช้งานเกิน 15 ปี เพื่อเปลี่ยนรถคันใหม่ เปลี่ยนรถเมล์เป็นรถไฟฟ้าทั้งหมด รวมไปถึงการจัดพื้นที่พิเศษ งานก่อสร้าง สร้างเฉพาะกลางคืน กลางวันไม่ให้สร้าง รวมถึงรัฐต้องยอมเสียเงินซื้อเครื่องกรองอากาศไปติดตามห้องเรียนในพื้นที่เมือง กรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อชีวิตของลูกหลานคนไทย

ด้านนายพงศกร กล่าวว่า ในส่วนมลภาวะที่เกิดจากการคมนาคม และอุตสาหกรรม พรรคเพื่อไทย จะใช้นโยบายลดภาษีรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษทางอากาศไม่เกินมาตรฐาน, รถยนต์ไฟฟ้า และเปลี่ยนเครื่องจักรที่ปล่อยมลพิษให้หมดไปโดยเร็ว.