“พิธา” ปลื้ม!! ผลโพล “เดลินิวส์-มติชน” ให้เป็นนายกรัฐมนตรี

“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ปลื้มผลโพล “เดลินิวส์-มติชน” รอบแรก ระบุเป็นคนที่ประชาชนอยากเห็นเป็นนายกฯ เผยเสียงสนับสนุนสะท้อนให้เห็นการทำงานตลอด 4 ปี และประชาชนไม่อยากวนเวียนกับการเมืองแบบเดิมๆ อีกแล้ว

เมื่อวันที่ 15 เม.ย. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงผลโพลเดลินิวส์-มติชน รอบแรก ที่ระบุว่า นายพิธา เป็นคนที่ประชาชนอยากเห็นเป็นนายกรัฐมนตรี และพรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่ประชาชนจะเลือกเป็นอันดับ 2 รองจากพรรคเพื่อไทย ว่า “ต้องขอขอบคุณเสียงสนับสนุนของประชาชนที่สนับสนุนพรรคก้าวไกลมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ ซึ่งคะแนนจากโพลนี้ก็สอดคล้องกับสิ่งที่เราสัมผัสได้ในทุกจังหวัดที่เราไป และตัวเลขในทางออนไลน์ คือ ประชาชนแสดงออกว่า สนับสนุนพรรคก้าวไกลมากขึ้น ยิ่งกว่าสมัยอนาคตใหม่ในปี 62 แบบเห็นได้ชัด ทั้งอยากเห็นผม พิธา เป็นนายกฯ อยากได้ ส.ส. เขตแบบก้าวไกล มาทำงานรับใช้ประชาชน และภาพใหญ่ก็อยากให้คนบริหารประเทศเป็นคนแบบก้าวไกล

นายพิธา กล่าวต่อว่า เสียงสนับสนุนที่เราได้รับสะท้อนให้เห็นว่า ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เราพิสูจน์การทำงานให้ประชาชนเห็นแล้วว่า ส.ส. พรรคก้าวไกล ทำงานได้โดดเด่นและแตกต่างจากพรรคการเมืองอื่นที่เคยมีมาอย่างไร จนได้รับคำชมว่า ก้าวไกลทำงานตรงไปตรงมา ทำงานคุ้มค่า และมุ่งแก้ปัญหาที่ต้นตอ สิ่งที่สำคัญที่สุด เสียงสนับสนุนที่ก้าวไกลได้รับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนว่า คนไทยไม่ต้องการวนเวียนอยู่กับการเมืองแบบเดิมๆ อีกแล้ว เพราะนักการเมืองแบบเดิมๆ วิธีคิดและวิธีการทำงานการเมืองแบบเดิมๆ ไม่สามารถตอบโจทย์ของสังคมไทยยุคใหม่ได้อีกแล้ว ประชาชนจึงต้องการพรรคก้าวไกล มาทำในสิ่งที่นักการเมืองในอดีตทำไม่ได้

“ในช่วง 30 วันสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง พวกเราพรรคก้าวไกลต้องทำงานให้หนักมากขึ้น ทั้งเปิดเวทีปราศรัยทั่วประเทศ ทั้งสื่อสารทางออนไลน์และผ่านสื่อมวลชน ทั้งเดินเคาะประตูบ้าน เพื่อเข้าหาพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด เพราะในการเลือกตั้งครั้งนี้ ชัยชนะของพรรคก้าวไกล จะเป็นปัจจัยชี้ขาดว่า รัฐบาลชุดหน้าจะมีหน้าตาอย่างไร จะน่าไว้วางใจแค่ไหน และจะมีพรรคทหารจำแลงร่วมรัฐบาลหรือไม่มี” นายพิธา กล่าว

ด้านนายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ผลโพลครั้งนี้เป็นการสะท้อนการทำงานหนักของพวกเราในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งจากการทำงานลงพื้นที่ของตนและแกนนำพรรค ทุกคนพูดตรงกันหมดว่าเสียงตอบรับทั้งใน กทม. และในต่างจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่บ้านใหญ่ดีขึ้นอย่างมาก ยกตัวอย่าง ล่าสุดตนลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ประชาชนก็ให้การตอบรับอย่างดีเกินคาด โดยประชาชนระบุว่า ติดตามพรรคก้าวไกลจากช่องทางสื่อและโซเชียลมีเดียต่างๆ ที่มีเวทีดีเบต และบอกว่าพรรคก้าวไกลเป็นการเมืองที่ดีที่สุดในเรื่องการนำเสนอนโยบายต่างๆ ผลโพลที่ออกมาจึงคิดว่า เป็นการสะท้อนความเชื่อมั่นของประชาชนว่า เรามีนโยบายที่ชัดเจนที่สุด รู้สึกดีใจที่ผลโพลออกมาแบบนี้ ซึ่งสะท้อนว่าประชาชนมอบความไว้วางใจให้กับเรา

เมื่อถามถึงความนิยมในส่วนของพรรค ที่ยังตามหลังพรรคเพื่อไทย จะปรับแนวทางการหาเสียงอย่างไร นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เดิมเราตามหลังพรรคอันดับหนึ่งมามากกว่านี้ โดยเฉพาะในส่วนของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ตอนนี้ก็ถือว่าบรรลุเป้าหมายที่จะทำให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เป็นแคนดิเดตแห่งความหวังของคนไทย จากนี้ก็จะทำให้พรรคก้าวไกลเป็นที่ไว้วางใจของพี่น้องประชาชน รวมถึงตัวผู้สมัคร ส.ส. ทุกคน ที่ต้องทำงานในพื้นที่อย่างเข้มข้น เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้สมัครของพรรคก้าวไกล จะได้รับเลือกจากประชาชน เพราะต้องใช้เสียง ส.ส. โหวตเลือกนายกฯ ดังนั้นถ้าพี่น้องประชาชนอยากเห็นนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี จึงต้องกาพรรคก้าวไกลทั้ง  2 ใบ และอีกไม่ถึง 1 เดือนต่อจากนี้ จึงเป็นช่วงที่เราต้องทำงานอย่างเต็มที่ต่อไป เพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด