ยังคงรุนแรง! อิหร่านประท้วงเดือด ล่าสุดลาม 80 เมืองทั่วประเทศ ม็อบปะทะเจ้าหน้าที่เสียชีวิตพุ่ง 31 ศพ

เหตุความไม่สงบในอิหร่านยังคงรุนแรง ล่าสุดเกิดการประท้วงในกว่า 80 เมืองทั่วประเทศแล้ว ขณะที่มีผู้เสียชีวิตจากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ 31 ศพ

สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า เหตุประท้วงรุนแรงในประเทศอิหร่านเนื่องจากการเสียชีวิตของ น.ส.มาห์ซา อามินี หญิงสาวชาวเคิร์ด ผู้ถูกกล่าวหาว่าทำผิดกฎการสวมผ้าฮิญาบ เข้าสู่วันที่ 7 แล้วในวันพฤหัสบดีที่ 22 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมา โดยเกิดการปะทะกันอย่างต่อเนื่องระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในกรุงเตหะราน

ข่าวระบุว่า การประท้วงที่เกิดขึ้น ซึ่งนับเป็นเหตุความไม่สงบที่สุดในรอบหลายปีในอิหร่าน ลุกลามไปตามเมืองน้อยใหญ่กว่า 80 แห่งแล้ว ขณะที่ องค์กรสิทธิมนุษยชนอิหร่าน (Iran Human Rights) เผยว่า มีพลเรือนเสียชีวิตจากการปะทะกันแล้ว 31 ศพ ด้านสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลระบุจำนวนผู้เสียชีวิตไว้ที่ 17 ศพ รวมทั้งพลเรือนและเจ้าหน้าที่

ทั้งนี้ น.ส.อามินี วัย 22 ปี จากเมืองซาเกซ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิหร่าน ถูกตำรวจศีลธรรมจับกุมตัวระหว่างเดินทางมายังกรุงเตหะรานเพื่อเยี่ยมครอบครัว ด้วยข้อหาละเมิดกฎหมายที่กำหนดให้ผู้หญิงต้องสวมใส่ผ้าฮิญาบ จากนั้นเธอถูกพาไปยังสถานกักกันเพื่อรับการอบรม อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่า เธอถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายจนอาการสาหัส นอนโคม่านาน 3 วัน กระทั่งเสียชีวิตเมื่อวันศุกร์ที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา

แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะออกมาปฏิเสธข่าวการทำร้ายร่างกาย น.ส.อามินี ในเวลาต่อมา แต่การเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของเธอได้สร้างความโกรธแค้นแก่ประชาชนจำนวนมาก กระทั่งการประท้วงเริ่มต้นขึ้นหลังจากงานศพของอามินี เมื่อหญิงคนหนึ่งถอดผ้าคลุมศีรษะออกมาโบกสะบัด แล้วตะโกนว่า “เผด็จการจงตาย” ซึ่งสื่อถึงผู้นำสูงสุด อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี

จากนั้นการประท้วงลักษณะคล้ายกันก็เกิดขึ้นตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ในกรุงเตหะราน ก่อนจะลุกลามทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว โดยมีผู้ชายจำนวนมากมาเข้าร่วมการประท้วงด้วย

เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ผู้ประท้วงจุดไฟเผาถังขยะขนาดใหญ่ และปิดกั้นถนนบางเส้นทาง พร้อมตะโกนสโลแกนต่อต้านผู้นำสูงสุด ขณะที่ตำรวจปราบจลาจลยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมในพื้นที่ทางเหนือ และตอนกลางของกรุงเตหะราน ขณะที่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงนอกเครื่องแบบเข้าปะทะกับผู้ชุมนุมหลายจุด

ขณะเดียวกัน มีผู้ประท้วงถูกจับหลายราย โดยเจ้าหน้าที่ความมั่นคงตามจับพวกเขาถึงที่บ้านและร้านค้าที่ให้ผู้ประท้วงหลบภัย ส่วนที่เมืองอื่นๆ มีรายงานว่า สถานีตำรวจและอาคารของรัฐบาลหลายแห่งถูกผู้ประท้วงบุกรุกหรือถูกจุดไฟเผา บนโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพผู้ประท้วงทำลายรูปของนายคาเมเนอี และผู้หญิงโยนผ้าโพกศีรษะเข้ากองไฟด้วย

กลุ่มสิทธิมนุษยชนชาวเคิร์ดชื่อ Hengaw ออกมาเปิดเผยว่า เหตุปะทะนองเลือดที่สุดเกิดขึ้นที่เมืองซาเกซ ที่ น.ส.อามินี เคยพักอาศัย มีผู้ประท้วงเสียชีวิตระหว่างปะทะกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคง 8 ศพในวันพุธ รวมมีผู้เสียชีวิตแล้ว 15 ศพ ขณะที่ในคืนวันเดียวกัน มีวัยรุ่นชายอายุ 15 กับ 16 ปี ถูกยิงเสียชีวิตที่เมือง ออชนาเวียห์ และอูร์เมีย ในจังหวัดอาเซอร์ไบจานตะวันตก