“รัฐบาล” จุดพลุ BCG ในการประชุม เวที APEC 2022 ม.หอการค้า คาดการลงทุนตามมามากกว่า 6 แสนล้าน

รองโฆษกรัฐบาล เผย รัฐบาล จุดพลุ BCG ในการประชุม เวที APEC 2022 ม.หอการค้า คาด การลงทุน ตามมามากกว่า 6 แสนล้านบาท

วันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการที่ประเทศไทยได้ผลักดันให้เกิดการรับรอง “เป้าหมายกรุงเทพฯ” ว่าด้วยเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (Bangkok Goals on BCG Model) ในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ค.ศ. 2022 ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญสูงสุดของการเป็นเจ้าภาพเอเปกของไทยในปีนี้ ถือเป็นกรอบการดำเนินการกำหนดเป้าหมายร่วมกันเพื่อให้ภูมิภาคเอเซีย-แปซิฟิก เจริญเติบโตอย่างเข้มแข็ง สมดุล มั่นคง และยั่งยืน โดยผ่านความร่วมมือ 4 ด้าน คือ 1) การจัดการผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ 2) การส่งเสริมการค้าและการลงทุนที่ยั่งยืนและครอบคลุม 3) การอนุรักษ์บริหารจัดการและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และ 4) การบริหารจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

รัฐบาล จุดพลุ BCG เวที APEC ม.หอการค้า คาด การลงทุนตามมากว่า 6 แสนล้าน

ขณะเดียวกัน ผลจากการจัดประชุมเอเปกครั้งนี้ ยังเป็นโอกาสแสดงศักยภาพของประเทศในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG และสร้างความตื่นตัวแก่คนในสังคมถึงทิศทางการเดินหน้าของประเทศ ในส่วนของภาคเอกชนได้มีการขยายการลงทุนใน BCG ไปแล้ว ทั้งภาคการเกษตร อุตสาหกรรม และบริการ อาทิ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านการใช้นวัตกรรม การใช้พลังงานสะอาด การแปรรูปสินค้าเกษตรเป็นสินค้ามูลค่าสูง อาทิ อาหารเพื่อสุขภาพ ยาสมุนไพร เครื่องสำอาง พลังงาน เป็นต้น ความสำเร็จดังกล่าว บางส่วนได้นำมาเผยแพร่ในงานประชุมเอเปก ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นใจและดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้มาลงทุนในประเทศไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาขาที่เกี่ยวข้องกับ BCG ควบคู่ไปกับมาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจ EEC

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ภาคเอกชนชื่นชมและพอใจกับความสำเร็จในการผลักดัน BCG ของรัฐบาล และรัฐบาลก็พร้อมที่จะรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนในการเดินหน้าต่อไปให้เกิดผลสำเร็จอย่างกว้างวาง ทั้งนี้ มีการประเมินจาก ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยว่า ผลจากการประชุมเอเปกจะกระตุ้นเศรษฐกิจไทยขยายตัว โดยเฉพาะการลงทุนที่จะเกิดขึ้นตามมา ภายใต้นโยบาย BCG มากกว่า 6 แสนล้านบาท ครอบคลุมทุกกิจกรรมการผลิต เช่น เกษตรกรรม อุตสาหกรรม ป่าไม้ ปศุสัตว์ เหมืองแร่ ก๊าซธรรมชาติ ขนส่ง บริการธุรกิจ ค้าส่งค้าปลีก โรงแรมที่พัก เป็นต้น

“รัฐบาลมุ่งมั่นผลักดันความร่วมมือผ่านโมเดลเศรษฐกิจ BCG ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมทั้งในประเทศและในกลุ่มเอเปก สำหรับการขับเคลื่อนภายในประเทศ รัฐบาลมีคณะกรรมการบริหารการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพเศรษฐกิจ-หมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ทำหน้าที่กำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์การขับเคลื่อน BCG และติดตามความก้าวหน้าของการดำเนินงานต่างๆ พร้อมพิจารณาข้อเสนอแนะจากภาพส่วนต่างๆ เพื่อให้ BCG นำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและครอบคลุมอย่างแท้จริง” นางสาวรัชดา กล่าว.