“ลุงศักดิ์” ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โชว์รอยเล็บ “ศรีสุวรรณ” ขอสู้คดี มองทะเลาะวิวาทปกติ

“ลุงศักดิ์” ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โชว์ร่องรอยบาดแผลแขนขวา คาดเกิดจากรอยเล็บชกต่อย “ศรีสุวรรณ” เตรียมใช้เป็นหลักฐานในการต่อสู้คดี มองเป็นการทะเลาะวิวาทปกติ ขณะที่ทนายความซัด ต้นเหตุของความขัดแย้งไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เกิดจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 19 ต.ค. 65 นายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล หรือลุงศักดิ์ อายุ 62 ปี พร้อมนายภัทรพงศ์ สุภักษร ทนายความ เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.นิพนธ์ สกุลเพชรอร่าม รอง สว.(สอบสวน) สน.พหลโยธิน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาต่อ จากกรณีก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมา ภายหลังจากได้รับการประกันตัวในชั้นสอบสวน ที่ สน.ดุสิต ในคดีทำร้ายร่างกาย นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ของศาลแขวงดุสิต เมื่อช่วงเดือนตุลาคม ปี 2564

ภายหลังจากการเข้ารับทราบข้อกล่าวหา นายภัทรพงศ์ สุภักษร หรือทนายอั๋น ทนายความในคดีนี้ เปิดเผยว่า วันนี้ นายวีรวิชญ์ เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา 2 ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายต่อร่างกายและจิตใจ และข้อหาทำร้ายร่างกายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

นายวีรวิชญ์ ให้การปฏิเสธทั้ง 2 ข้อหา และตอนนี้คดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว และขอให้ว่าไปตามกระบวนการ ส่วนรายละเอียดเรื่องการได้รับบาดเจ็บของ นายศรีสุวรรณ ต้องรอใบรับรองแพทย์โดยละเอียดจากแพทย์

นายภัทรพงศ์ กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีกับบุคคลที่มีการบริจาคเงินให้กับ นายวีรวิชญ์ โดยระบุว่า การบริจาคเงินดังกล่าวจะเป็นการสนับสนุนความรุนแรงหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องนึง ส่วนในทางคดีนั้นไม่มีความผิดตามที่นายศรีสุวรรณมีการแจ้ง

อีกทั้งการที่ นายศรีสุวรรณ ไปร้องดำเนินคดีกับ นายอุดม แต้พานิช ในการแสดงทอล์กโชว์ เดี่ยว 13 นั้น เป็นเรื่องที่ไร้สาระ ทั้งยังจะยิ่งสร้างให้เกิดความแตกแยก พร้อมระบุว่า ต้นเหตุของความขัดแย้งไม่ใช่เกิดจากใคร แต่เกิดจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีอะไรอยากจะฝากถึง นายศรีสุวรรณ หรือไม่ นายวีรวิชญ์ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ไปสู้กันตามกระบวนการของกฎหมาย”

นอกจากนี้ นายวีรวิชญ์ ได้โชว์ร่องรอยบาดแผลบริเวณแขนขวา ที่คาดว่าเกิดจากรอยเล็บจากการชกต่อยกันกับ นายศรีสุวรรณ ซึ่งนายวีรวิชญ์ ระบุว่า จะใช้เป็นหลักฐานในการต่อสู้คดี ซึ่งตนมองว่าเป็นการทะเลาะวิวาทปกติ

นายวีรวิชญ์ กล่าวถึง นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี โดยกล่าวว่า ในตอนที่ตนได้ทำร้ายร่างกาย นายเสกสกล ซึ่งเจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ไม่ถือสา แต่กลับมีการดำเนินคดี ซึ่งก็ต้องไปสู้กันต่อไป และหลังจากนี้ตนก็จะอาฆาตนายเสกสกล ไม่ว่าเจอ นายเสกสกล ที่ไหน ตนก็จะตบ นายเสกสกล อีก

นายวีรวิชญ์ เปิดเผยอีกว่า การก่อเหตุชกต่อยกับ นายศรีสุวรรณ นั้น ตนเองต้องการเพียงแค่สั่งสอน ไม่ได้มีเจตนาทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งหากจะทำให้ได้รับบาดเจ็บตนก็สามารถทำได้ แต่ไม่ทำ เพราะไม่ได้อาฆาตอะไร และเมื่อกระทำเสร็จ ถูกดำเนินคดี ตนเองก็เข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย เพราะตนก็ไม่นิยมความรุนแรง แต่หากมีใครมุ่งร้าย หรือความรุนแรงกับพี่น้องประชาชนของตนเอง ตนก็พร้อมที่จะแสดงออกโดยทันที ซึ่งก็เป็นสิ่งที่แสดงออกของตนเองตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ได้นัดหมายให้ ลุงศักดิ์ รายงานตัวและเข้าพบพนักงานสอบสวนอีกครั้งในวันที่ 10 พ.ย. 2565.