วาระร้อน 8 ปี “บิ๊กตู่” งดจ้อสื่ออ้างเจ็บคอ ยกเลิกงานรับทูตวาติกันรีบเผ่นจากทำเนียบ จัด อคฝ.21 กองร้อยรับมือม็อบ

วาระร้อน 8 ปี “บิ๊กตู่” งดจ้อสื่ออ้างเจ็บคอ ยกเลิกงานรับทูตวาติกันรีบเผ่นจากทำเนียบ เลี่ยงม็อบ “วิษณุ” เก็งข้อสอบล่วงหน้าทางบวก ยัน ครม.เดินหน้าได้ไม่มีปัญหา ขู่ฝ่ายการเมือง-ขรก.เกียร์ว่างอาจโดน 157 วางตู้คอนเทนเนอร์ล้อมทำเนียบสกัดผู้ชุมนุม ศาลรธน.เข้มใช้แผงเหล็กกั้น ตำรวจจัดกำลัง อคฝ.21 กองร้อย รับมือกองหนุน “ลุง” ห้าวจัดม็อบชนม็อบ ศาลแพ่งยกคำร้องนิสิต-นศ.ขอคุ้มครองชั่วคราว ฝ่ายค้านนัดแต่งดำไล่ผู้นำเถื่อน เครือข่ายรามฯบุกสภา จี้ “ประยุทธ์” ออกไป “จตุพร-นกเขา” จ่อขยับ ไปทำเนียบ มั่นใจศึกนี้จบเร็ว แนวร่วมราษฎรเผาหุ่นสาปแช่ง กกต.ไม่ติดใจร่าง พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.“ระวี” ดิ้นอีกเฮือกส่งตีความ “บิ๊กป้อม” กำชับ ส.ส.ลุยโหวตงบฯ

แรงกดดันจากกลุ่มผู้ชุมนุมสารพัดม็อบ ที่นัดชุมนุมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ หลังถูกมองว่าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมายาวนานกว่า 8 ปี ทำให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต้องหยิบยกขึ้นมาหารือ ขณะที่ตัวพล.อ.ประยุทธ์ถึงกับต้องแจ้งยกเลิกวาระงาน เผ่นออกจากทำเนียบเลี่ยงม็อบที่เริ่มประชิดเข้ามา

“บิ๊กตู่” ลั่นทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 ส.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามปกติ ท่ามกลางการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมกดดันวาระการดำรงตำแหน่งนายก รัฐมนตรีเกิน 8 ปี โดยนายกฯเดินทางถึงทำเนียบฯตั้งแต่เวลา 07.30 น. ถือว่าเร็วกว่าทุกวัน จนถึงเวลา 08.53 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินลงมาจากตึกไทยคู่ฟ้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย ท่ามกลางสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างชาติเฝ้าสังเกตการณ์จำนวนมาก พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับกลุ่มเยาวชนระหว่างชมนิทรรศการรางวัล Thailand Cybersecurity Excellence Awards 2022 (Prime Minister Awards) และผลการแข่งขัน Cyber Top Talent และ Cyber SEA Game ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมจัดโปรโมตว่า ยินดีและชื่นชมสิ่งดีๆที่เกิดกับประเทศของเรา ฉะนั้นช่วยกันทำต่อไป ตนพยายามทำให้ดีที่สุดในฐานะนายกฯและหัวหน้ารัฐบาล ให้ทุกกระทรวง ทุกหน่วยงานเดินหน้าได้ในทุกมิติ เพราะปัญหามันเยอะขณะนี้ ปัญหาภายในก็ลดลงมาสักหน่อย

งดจ้อเจ็บคอรีบเผ่นเลี่ยงม็อบ

ต่อมาเวลา 13.00 น. หลังการประชุม ครม. ผู้สื่อข่าวพยายามซักถามประเด็นวาระ 8 ปี มีความมั่นใจว่าจะได้ไปต่อใช่หรือไม่ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ยอมตอบคำถามเพียงแต่ยิ้ม เมื่อถามย้ำว่าทำไมไม่ยอมพูดเลย พล.อ.ประยุทธ์หันมาตอบสั้นๆว่า “เจ็บคอ” และเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลโดยใช้เส้นทางออกประตู 2 หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ออกประตูติดสะพานมัฆวานรังสรรค์ แล้ววิ่งเลียบคลองผดุงกรุงเกษมไปสะพานเทวกรรมรังรักษ์ ขึ้นทางด่วนยมราช คาดเลี่ยงเผชิญหน้าหลังกลุ่มผู้ชุมนุมที่เตรียมเคลื่อนขบวนประชิดทำเนียบรัฐบาลในช่วงเย็น

“วิษณุ” แจกแจง ครม.วาระ 8 ปี

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม ครม.ว่า ชี้แจงต่อที่ประชุมถึงการทำงานของ ครม. กรณีศาลรัฐธรรมนูญอาจมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาหรือไม่รับก็ได้ แต่คิดว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่รับ ถ้ารับก็มีประเด็นว่าจะสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวหรือไม่ แต่คงไม่สั่งในวันที่ 24 ส.ค. เพราะมีกระบวนการต้องไต่สวน 2-3 วัน หากสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวก็ต้องหยุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ จะเป็นผู้รักษาการ นายกฯ และทำงานร่วมกับ ครม.ที่เหลืออยู่ รวมถึง รมว.กลาโหมที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ด้วย แต่ถ้าศาลไม่ได้พูดอะไรก็ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ทำหน้าที่ไปตามปกติจนกว่าศาลจะวินิจฉัย

ขู่ ขรก.เกียร์ว่างอาจผิด ม.157

นายวิษณุกล่าวอีกว่า ขอให้ฝ่ายการเมืองและฝ่ายข้าราชการประจำ ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ไม่มีอะไรเสี่ยงผิดกฎหมายทั้งสิ้น สมมติว่าครบ 8 ปีตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค.2565 สิ่งที่ ครม.ดำเนินการไประหว่างนั้นไม่มีปัญหาอะไร แม้ พล.อ.ประยุทธ์จะพ้นไป ครม.ก็พ้นด้วย แต่เป็น ครม.รักษาการ สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้หมด ทุกอย่างเดินหน้าตามขั้นตอนปกติ การเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ เสนองบประมาณ เสนออะไรกรุณาทำไปตามปกติ ใครที่หยุดแล้วไม่ทำอาจผิด ป.อาญามาตรา 157 ด้วยซ้ำไป เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์แสดงท่าทีจะแสดงสปิริตอะไรหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ไม่มีอะไร นายกฯบอกไม่ได้กังวลอะไร ขอให้ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ไปตามปกติ ไม่ต้องเป็นห่วงขึ้นกับศาล ยังกำชับให้สภาฯโหวตผ่านร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 66 กำชับให้ทุกพรรคกำชับ ส.ส.เข้าร่วมประชุม เมื่อถามว่า การโหวตเลือก พล.อ.ประยุทธ์ ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กับสภาผู้แทนราษฎรมีนัยหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า “มีนัย แต่ไม่ขอพูดแล้วแต่ศาลรัฐธรรมนูญ”

เก็งข้อสอบล่วงหน้าทางบวก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นั่งดื่มกาแฟและพูดคุยกันในห้องสีฟ้า ตึกสันติไมตรี ระหว่างนั้นมีรัฐมนตรี ข้าราชการระดับสูง ทยอยเข้าพบ โดย พล.อ.ประยุทธ์พูดคุยด้วยท่าทีสบายๆ ไม่เคร่งเครียดกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลว่า ขอให้ช่วยกันทำงานต่อไป เรื่องวาระ 8 ปีให้เป็นอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ แต่ในการพูดคุย พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้พูดถึงเรื่องการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ที่กดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯชี้แจงต่อที่ประชุม ครม.ว่าคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญจะทำให้รู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ดำรงตำแหน่งครบ 8 ปีแล้วหรือยัง ตาม 3 แนวทางที่เป็นกระแสไม่นอกเหนือไปจากนี้ แต่อาจวินิจฉัยเพียงว่า พล.อ.ประยุทธ์สามารปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้หรือไม่ โดยไม่จำเป็นต้องระบุว่าดำรงตำแหน่งครบ 8 ปีเมื่อไร หากมีใครสงสัยประเด็นนี้ค่อยไปยื่นให้วินิจฉัยอีกครั้งหนึ่ง

วางตู้คอนเทนเนอร์สกัดม็อบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล มีการนำตู้คอนเทนเนอร์มาวางซ้อนกันหลายชั้นรอบๆ ทำเนียบ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมบุกมาประชิด ได้แก่ บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ถนนพิษณุโลก สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนินนอก และบริเวณสะพานอรทัย มีการปิดถนนบางส่วน เนื่องจากตั้งแต่ช่วงเช้ามีกลุ่มแรงงาน นำโดยนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ประธานสหภาพพันธมิตรแรงงานประชาธิปไตย มีเผาป้ายประท้วงรัฐบาล ที่เคยให้สัญญาไว้ว่าจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ แต่ไม่เคยทำตามสัญญา ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์รีบเดินทางออกจากทำเนียบ หลังยกเลิกวาระงานในช่วงเวลา 15.00 น. ที่อาร์ชบิชอป พอล ชัง อิน-นัม เอกอัครสมณทูตแห่งนครรัฐวาติกันประจำประเทศไทย เข้าอำลาในโอกาสพ้นจากหน้าที่

ยัน ครม.เดินหน้าไม่มีปัญหา

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวว่าที่ประชุม ครม.มีการหารือเรื่องวาระ 8 ปี โดยนายวิษณุทำตารางรายละเอียดให้ดูทั้งหมด เข้าใจกันดีจะทำงานกันต่อไปโดยไม่มีปัญหาใดๆ เมื่อถามว่านายกฯฝากฝังอะไรในที่ประชุม ครม.หรือไม่ นาย สมศักดิ์ตอบว่า ให้ทำงานกันเต็มที่ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แถลงการณ์พรรคเพื่อไทยปมวาระ 8 ปี เป็นแถลงการณ์ที่ให้ข้อมูลผิดพลาด ให้เหตุผลทางกฎหมายคลาดเคลื่อน ต้องการชี้นำสังคมและอาจก้าวล่วงอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ควรหยุดกิจกรรมทั้งในและนอกสภาที่ต้องการปั่นป่วนสังคม ขอให้รอฟังศาลรัฐธรรมนูญ หยุดการกระทำที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายแก่ประเทศชาติ

“บิ๊กป้อม” กำชับ ส.ส.ลุยโหวตงบฯ

ต่อมาเวลา 11.15 น.ที่รัฐสภา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เรียกประชุม ส.ส.พปชร. เพื่อกำชับให้ ส.ส.เข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ผู้สื่อข่าวพยายามซักถามถึงความพร้อมการทำหน้าที่รักษาการนายกฯ หากเกิดอุบัติเหตุการเมืองกับ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ พล.อ.ประวิตรพยายามเดินเลี่ยงด้วยความเร็วกว่าปกติ ภายหลังการประชุม พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ห่วงเรื่ององค์ประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2566 มั่นใจจะจบในวันนี้

นอนไม่หลับห่วงองค์ประชุม

นายนิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรไม่ได้เป็นห่วงเรื่องสัญญาณยุบสภา แต่นอนไม่หลับเรื่องร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 66 ขอให้ช่วยกัน บอกรัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.ให้เข้าร่วมประชุม มีการคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย และพรรคร่วมรัฐบาลอื่น ให้ตรึงกำลัง ส.ส. ผลักดันให้จบ รวมถึงคุยกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขอให้ผ่านร่าง พ.ร.บ.งบฯ ส่วนเรื่องวาระ 8 ปีของนายกฯ ถ้าอ่านกฎหมายโดยสุจริตใจตีความชัดเจน ไม่น่ากังวล ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ไปฟันธงเลยอาจก้าวล่วง แม้แต่สื่อก็ไม่ควรทำโหวต รวมถึงกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ควรพูดกดดัน พรรคพลังประชารัฐไม่มีแผนบี หรือแผนสำรองหากเกิดอุบัติเหตุการเมืองกับ พล.อ.ประยุทธ์ เดินหน้าอย่างเดียว

ฝ่ายค้านนัดแต่งดำไล่ผู้นำเถื่อน

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หวังว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น แม้ฝ่ายค้านจะยื่นคำร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญแล้วต้องรอดูจะรับไว้พิจารณาหรือไม่ ในวันที่ 24 ส.ค. พรรคร่วมฝ่ายค้านมีมตินัดสวมชุดดำเพื่อไว้อาลัยให้ พล.อ.ประยุทธ์ที่จะกลายเป็นนายกฯเถื่อน เมื่อถามถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยยังคงมี 3 คนใช่หรือไม่ นพ.ชลน่านตอบว่า มีบัญชีรายชื่อในพรรค เราสู้อยู่แล้ว ส่วนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ย้ายไปอยู่พรรคอื่นก็เสนอคนที่สามารถเสนอได้ ส่วนนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. หากพรรคจะเสนอก็ได้เพราะอยู่ในบัญชี แต่ต้องดูอยู่ในเงื่อนไขเหมาะสมหรือไม่ นอกจากนี้จะเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ ด้วย เมื่อถามว่าหากต้องเสนอนายกฯนอกบัญชี เพื่อไทยจะเสนอใคร นพ.ชลน่านตอบว่า คิดว่าสู้แล้วเสียมากกว่า หากไปสนับสนุนกลไกนายกฯคนนอกที่เราต่อต้าน ต่อให้เราจะเสนอ พระอินทร์ก็ไม่ชนะ

พท.เตรียมนโยบายดับทุกข์

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ แถลงว่า ประเด็นวาระ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สร้างปัญหาให้ประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ มีคนจำนวนมากออกมาแสดงความไม่พอใจ ส่วนตัวเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ไปต่อได้ยาก ไม่ว่าคำตัดสินจะออกมาอย่างไร ความเชื่อมั่นและความศรัทธาประชาชนต่อ พล.อ.ประยุทธ์หมดสิ้นแล้ว ยิ่งอยู่ต่อไปประชาชนมีแต่ทุกข์ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์กลายเป็นสาเหตุแห่งทุกข์ไปแล้ว ได้แก่ ทุกข์จากการมีหนี้ ทุกข์จากค่าใช้จ่ายสูง ทุกข์ที่ไม่มีรายได้หรือรายได้ไม่พอประทังชีวิต และทุกข์จากไม่เห็นอนาคต คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยเตรียมนโยบายและแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเพื่อดับทุกข์ประชาชนไว้แล้ว ขอให้มั่นใจและเลือกพรรคเพื่อไทยมากๆ เราจะได้เข้าไปแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้เต็มที่

“ตรีชฎา” ยกสุภาษิตฉะ “ลุงตู่”

น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า อยากถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ว่าเคยได้ยินสำนวนไทย “กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง” หรือไม่ หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้ ชอบอ้างข้างๆ คูๆ เอาสีข้างเข้าถูให้คนรุมถอนหงอกอยู่ทุกวัน ควรคิดวิเคราะห์แยกแยะว่าตัวเองและ ครอบครัวมีความสุขนักหรือที่ถูกชาวบ้านชุมนุมประท้วง ตะโกนด่าขับไล่ให้ออกจากตำแหน่ง หรือเพราะเป็นคนเสพติดอำนาจชนิดเรื้อรังรักษาไม่หาย

ศาล รธน.เข้มวางแผงเหล็กกั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศจากสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ถนนแจ้งวัฒนะว่า หลังจากนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องของ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านขอให้วินิจฉัยวาระการดำรง ตำแหน่งนายกฯ 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดในวันที่ 23 ส.ค.นี้หรือไม่ ล่าสุดมีการนำแผงเหล็กมากั้นโดยรอบบริเวณสำนักงานฯ ขณะที่ สน.ทุ่งสองห้องมีการรวมพลปล่อยแถว โดยช่วงเช้าวันที่ 24 ส.ค.จะมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าทุกประตูทางเข้าออกศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ อาคารเอ ร่วมกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ปฏิบัติหน้าที่ปกติ เนื่องจากมีรายงานข่าวว่า กลุ่มแกนนำม็อบเตรียมจัดทำหุ่นตุ๊กตา และป้ายข้อความแสดงเชิงสัญลักษณ์กันแล้ว คาดว่าจะนำไปผูกไว้ตามสถานที่ เชิงสัญลักษณ์ต่างๆ อาทิ ศาลรัฐธรรมนูญ สถานีตำรวจ เรือนจำ เป็นต้น

จัดกำลัง อคฝ.21 กองร้อยรับมือ

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจ นครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษก บช.น. กล่าวว่า ขอย้ำเตือนผู้ชุมนุมว่าการชุมนุม หรือทำกิจกรรมใดๆเสี่ยงต่อการแพร่โรค ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แม้การชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธกระทำได้แต่ผู้จัดและผู้ชุมนุมต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พนักงานเจ้าหน้าที่สามารถสั่งให้ยุติระงับหรือยับยั้งการชุมนุมได้ หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ บช.น.จัดเตรียมกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย คาดว่าอาจมีกลุ่มที่อนุสาวรีย์ ประชาธิปไตยปักหลักค้างคืน

ทั้งนี้มีรายงานว่า บช.น.จัดกำลังตำรวจดูแลผู้ชุมนุมตามสถานที่สำคัญ รวมถึงบริเวณรอบทำเนียบรัฐบาลทั้งหมด 21 กองร้อย ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดกำลังตั้งด่านตรวจอาวุธรักษาความปลอดภัย มีการเตรียมรถควบคุมผู้ต้องหา อุปกรณ์ปราบจลาจล อาทิ ลูกซองยิงกระสุนยาง มาเตรียมไว้เผชิญเหตุ

กองหนุน “ลุง” จัดม็อบชนม็อบ

นายอานนท์ แสนน่าน อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย กล่าวว่า วันนี้พวกเราเปลี่ยนจาก “หมู่บ้านเสื้อแดง” มาเป็น “หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน” ได้ประสานงานแต่ละภาคให้ส่งสัญญาณไปยังประธานหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และจังหวัดต่างๆ ถ้ามีการยกมวลชนกลุ่มเล็กๆน้อยๆ มาขับไล่ “นายกฯลุงตู่” แบบไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองกันอีก พวกตนพร้อมจะยกทัพเข้ากรุงเพื่อปกป้อง พล.อ. ประยุทธ์ พวกเราพร้อมม็อบชนม็อบ ถ้ามันบานปลายก็จะให้ทหารเข้ามาเกี่ยวข้องอีก

ยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว

ที่ศาลแพ่ง ศาลมีคำสั่งยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวในคดีที่ตัวแทนนิสิตและนักศึกษาจากหลายมหาวิทยาลัย นายกองค์การบริหารมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยอื่นๆ ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม จำเลยที่ 1 กับ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด จำเลยที่ 2 โดยขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนข้อกำหนดฉบับที่ 47 และประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงฉบับที่ 15 ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่าเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชนโดยไม่มีอำนาจ เบื้องต้นศาลพิเคราะห์ว่า ตามทางไต่สวนไม่ปรากฏว่าโจทก์ทั้งหมดได้รับความเดือดร้อนเสียหาย ประกอบกับเนื้อความข้อ 3 วรรคท้ายของข้อกำหนด เป็นเพียงการวางเงื่อนไขออกมาตรการเท่านั้น เมื่อจำเลยที่ 2 ยังไม่ออกมาตรการ ย่อมไม่ถือว่าโจทก์ทั้งหมดได้รับความเดือดร้อนเสียหาย ยังไม่มีเหตุจำเป็นและสมควรจะนำวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษา มาใช้เพื่อระงับการบังคับใช้ข้อกำหนดและประกาศดังกล่าว ให้ยกคำร้อง

เครือข่ายรามฯบุกสภาจี้ลาออก

ที่รัฐสภาเมื่อเวลา 11.30 น. เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย และเครือข่าย South move on นำโดยนายอานนท์ แม้นเพชร ผู้ประสานงานรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย เข้ายื่นหนังสือ 4 ข้อเรียกร้องพร้อมรายชื่อประชาชนถึงนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และนายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในนามตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อส่งข้อเรียกร้องผ่านไปยังศาลรัฐธรรมนูญ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระบุว่าภายใต้การปกครองของ พล.อ.ประยุทธ์ เรียกได้ว่าตกต่ำย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีคุณสมบัติการเป็นผู้นำ แต่ใช้อำนาจสืบทอดอำนาจมา ความชอบธรรมของ พล.อ.ประยุทธ์จึงไม่เคยมีมาตั้งแต่ต้น ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออกจากตำแหน่งทันที ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์หยุดการปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยออกมา และเรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลหยุดเป็นนั่งร้านสืบทอดอำนาจให้ พล.อ.ประยุทธ์

“จตุพร-นกเขา” จ่อขยับไปทำเนียบ

ต่อมาเวลา 16.10 น. ที่ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการ กทม. คณะหลอมรวมประชาชน นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่ม นปช. นายนิติธร ล้ำเหลือ จัดเวทีชุมนุมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ถือเป็นนัดหมายครั้งสำคัญนับถอยหลังวาระ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ภาคประชาชนทั้งจะมีการประเมินความพร้อมของแผนในการเคลื่อนขบวนไปชุมนุมขับไล่ที่ทำเนียบรัฐบาล ตามที่ประกาศไว้ด้วย บรรยากาศในช่วงเย็นเริ่มมีกลุ่มประชาชนที่ไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัยขาประจำชาวม็อบมารวมตัวกันคึกคัก มารับแจกเสื้อสีขาวสกรีนข้อความ “หยุด 8 ปี ล้างบางโคตรโกง บ้าอำนาจ ปล้นชาติ ขายแผ่นดิน” จากนั้นนายอมร อมรรัตนานนท์ และนายพิชิต ไชยมงคล 2 อดีตพิธีกรม็อบพันธมิตร ขึ้นเวทีประกาศย้ำว่า ให้จับตาการชุมนุมวันนี้เพราะหลังเที่ยงคืนถ้า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ประกาศลาออก จะถือเป็นนายกฯเถื่อนทันที จากนั้นเป็นการแสดงดนตรีโดยศิลปินวงมดคันไฟ

มั่นใจศึกนี้จบเร็วในไม่กี่วัน

นายจตุพรแถลงว่า เป็นที่ประจักษ์ชัดว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่กระทำการใดในวันสุดท้ายของการดำรงตำแหน่ง พูดกับสื่อมวลชนเพียงคำว่าเจ็บคอ แต่อยากบอกว่าประชาชนเจ็บใจ ยืนยันว่าคณะหลอมรวมประชาชนจะต่อสู้ด้วยแนวทางกฎหมาย ไม่กดดันศาลรัฐธรรมนูญ หรือ พล.อ.ประยุทธ์ แต่จะกดดันประชาชนว่าจะทนการละเมิดกฎหมายแบบนี้ต่อไปแค่ไหน เราไม่ได้ออกมาไล่เพราะต้องการล้มประชุมเอเปก แต่ไม่ว่าใครก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ขอประกาศตามหาคนหายชื่อนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่ไม่เคยออกมาแสดงความเห็นในเวลาที่คนไทยอยากฟังท่านพูดมากที่สุด เราจะปักหลักอยู่ที่ลานคนเมืองจนถึงเที่ยงคืนเพื่อเคาต์ดาวน์ปิดฉาก พล.อ.ประยุทธ์เท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นขึ้นอยู่กับสถานการณ์เป็นตัวกำหนด พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่หรือไปไม่สำคัญ เพราะเท่ากับตายไปแล้วในทางกฎหมาย มั่นใจศึกนี้จะใช้เวลาไม่กี่วันจะจบเร็วเป็นประวัติศาสตร์

หลากม็อบเผาหุ่นสาปแช่ง

อีกด้านที่หน้าร้านแมคโดนัลด์ อนุสาวรีย์ประชา ธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง ห่างจุดชุมนุมของคณะหลอมรวมประชาชน ราว 1 กม. มีการปักหลักของมวลชนอีก 2 กลุ่ม คือกลุ่มแดงก้าวหน้า 63 มีนายภาณุพงษ์ มุกดารา เป็นแกนนำ จัดกิจกรรม “จุดแฟลชแสงสว่างให้กับอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย” ประกาศเดินเท้าไปสมทบกับคณะหลอมรวมประชาชน ขณะที่มวลชนอิสระสังกัดม็อบราษฎร อาทิ กลุ่ม 14 ขุนพลคนของราษฎร กลุ่มเพื่อนกัญปฏิวัติ กลุ่มทะลุแก๊ส กลุ่มโรนินฝั่งธน ฯลฯ นำโดยนายจิรภาส กอรัมย์ หรือแก็ป นายธนภัทร เทียนน้ำเงิน หรือแบงค์ โรนิน จัดชุมนุมในพื้นที่เดียวกัน ภายใต้ชื่อ “ขีดเส้นตายไล่เผด็จการต้านการสืบทอดอำนาจประยุทธ์” แต่ไม่ไปร่วมกับม็อบรุ่นใหญ่ที่ลานคนเมือง มีการขนดาวปราศรัยขาประจำม็อบราษฎรอย่างนายธัชพงศ์ แกดำ หรือ บอย น.ส.วรรณวลี ธรรมสัตยา หรือตี้ พะเยา นายธนายุทธ ณ อยุธยา หรือบุ๊ค ศิลปินแร็ปวง Eleven Finger เข้าร่วม มีไฮไลต์คือ การอ่านแถลงการณ์เตือนว่าหาก พล.อ.ประยุทธ์ไม่ออกจากตำแหน่ง จะมีการลงถนนชุมนุมครั้งใหญ่ตามด้วยการเผาหุ่นติดรูปหน้า พล.อ.ประยุทธ์ ทำพิธีสาปแช่ง และจุดพลุควันสีแดง

คนหนุ่มสาวร่วม “ราษฎร” คึกคัก

กระทั่งเวลา 19.00 น. บรรยากาศคึกคักขึ้นเมื่อมีวัยรุ่นหนุ่มสาวขับขี่จักรยานยนต์นับร้อยคันเข้าร่วมกับฝั่งมวลชนอิสระม็อบราษฎร ทำให้ต้อง เคลื่อนรถกระจายเสียงของกลุ่มมาจอดบนถนนราชดำเนินกลาง ปิดการจราจรบริเวณดังกล่าว ใช้เป็นพื้นที่ให้มวลชนที่มาร่วมรับฟังปราศรัย แต่ให้รถที่สัญจรบนถนนราชดำเนินกลางขาเข้าขาออกสามารถวิ่งได้ตามปกติ นายธัชพงษ์ แกดำ แกนนำกลุ่มประกาศว่า จะไม่มีการเคลื่อนขบวนไปที่ไหน จะปักหลัก ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อนับถอยหลังตอนเที่ยงคืนเท่านั้น ย้ำว่าเวทีนี้เน้นเรื่องการยกเลิกมาตรา 112 ปฏิรูปสถาบัน และประกันตัวให้กับผู้ที่ยังอยู่ในเรือนจำ ขณะที่กลุ่มแดงก้าวหน้า 63 เคลื่อนรถกระจายเสียงไปเปิดเวทีอยู่ที่บริเวณหน้าร้านชาวดอย ติดถนนดินสอ เน้นปราศรัยโจมตีความล้มเหลวการบริหารประเทศของรัฐบาล

“ทะลุแก๊ส” นำร่องประชิดทำเนียบ

ทางด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่มทะลุแก๊ส ร่วมกับกลุ่มศิลปินของราษฎร นำโดยนายโชคดี หรืออาเล็ก ร่มพฤกษ์ นำมวลชนประมาณ 20 คน ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ฝั่งเกาะพญาไทมุ่งหน้าทำเนียบรัฐบาล เมื่อผู้ชุมนุมเดินมาถึงแยกนางเลิ้งไม่สามารถไปต่อได้เพราะติดแนวรั้วที่ตำรวจตั้งสกัดไว้หลายชั้น โดยเฉพาะบนสะพานชมัยมรุเชฐ มีทั้งตู้คอนเทนเนอร์ รถฉีดน้ำแรงดันสูงหรือจีโน่ และกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนพร้อมอาวุธครบมือ และโทรโข่งประกาศให้ยุติกิจกรรม แกนนำจึงประกาศปักหลักนอนค้างคืนบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร เพื่อรอดูท่าที พล.อ.ประยุทธ์ถึงวันที่ 24 ส.ค. ที่ถือว่าดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปี มีการเล่นดนตรีสลับปราศรัยต่อเนื่อง

เปลี่ยนแผนเคลื่อนไปทำเนียบ

กระทั่งเวลา 20.40 น. กลุ่มมวลชนอิสระเครือข่ายราษฎรที่ปักหลักชุมนุมอยู่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ประกอบด้วยกลุ่ม 14 ขุนพลคนของราษฎร ร่วมกับกลุ่มก็มาดิแก๊ส และกลุ่มเพื่อนกันปฏิวัติได้เปลี่ยนแผนจากเดิมที่จะปักหลักชุมนุมอยู่กับที่เป็นการตั้งแถวเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปยังทำเนียบ รัฐบาล ประกอบด้วยขบวนรถจักรยานยนต์ราว
50 คัน และมวลชนเดินเท้าอีกส่วนหนึ่ง เบื้องต้นมุ่งหน้าไปยังแยกผ่านฟ้า มีจุดหมายที่แยกนางเลิ้งเพื่อสมทบกับกลุ่มศิลปินของราษฎรที่ปักหลักอยู่ก่อนหน้า

กกต.ไม่ติดใจ ก.ม.ลูกเลือกตั้ง ส.ส.

วันเดียวกัน นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ลงนามในหนังสือส่งถึงนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เรื่องร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ระบุว่า ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา พิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ไม่แล้วเสร็จทันตามกำหนดเวลาภายใน 180 วัน ตาม รัฐธรรมนูญมาตรา 132 (1) ให้ถือว่ารัฐสภาให้ความเห็นชอบตามร่างที่เสนอ ตามมาตรา 131 ทั้งนี้ ตามข้อบังคับการประชุมร่วมกันของรัฐสภาข้อ 87 วรรคสอง ประกอบข้อ 101 ให้ถือว่ารัฐสภาให้ความเห็นชอบตามร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ใช้เป็นหลักในการพิจารณาวาระที่ 2 และให้ดำเนินการตามข้อ 102 ต่อไป ขอเรียนว่า กกต.ไม่ได้มีข้อทักท้วงต่อร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้แต่อย่างใด

“ระวี” ดิ้นอีกเฮือกยื่นตีความ

ด้าน นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวว่า ตามที่ กกต.ส่งหนังสือกลับถึง ประธานรัฐสภา ระบุไม่มีข้อทักท้วงร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ขณะนี้ได้รวบรวมรายชื่อ ส.ส.และ ส.ว. เกิน 73 คน หรือ 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกรัฐสภาที่มีอยู่ขณะนี้ 729 คน เพื่อยื่นต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ ส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ที่ให้ใช้วิธีคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วยสูตรหาร 100 มีความถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ รายชื่อที่รวบรวมได้มีทั้ง ส.ส. และ ส.ว.

จวกสภาฯของบฯสร้างตึกอีกพันล้าน

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 วาระ 2-3 โหวตมาตรา 29 งบรัฐวิสาหกิจ 84,777 ล้านบาท โดยที่ประชุมลงมติเห็นด้วย 245 ต่อ 121 งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนน 1 จากนั้นพิจารณามาตรา 30 งบหน่วยงานรัฐสภา 3,241 ล้านบาท นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายตั้งข้อสังเกตว่า สำนักงานเลขาธิการสภาฯ ขอสร้างอาคารใหม่งบ 1,000 ล้านบาท ผิดระเบียบ มัดมือชกไม่ทำเรื่องขอยกเว้นจาก ครม. ยังตั้งงบควบคุมก่อสร้าง 30 ล้านบาท ทั้งที่ยังไม่ได้ออกแบบ ไม่สำรวจผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) นอกจากนี้มีโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ในห้อง ส.ส. 98 ล้านบาท รวมถึงมีโครงการประเภทเดียวกันของ ส.ว.อีก 94 ล้านบาท ส.ว.มี 250 คน แต่ขอวงเงินมาเกือบเท่า ส.ส.

แฉ ส.ส.ผลาญค่าอาหารซ้ำซ้อน

น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อภิปรายว่า ขอตัดลดงบสภา 10% โดยเฉพาะงบอาหารของสภาฯขอไว้ 72 ล้านบาท และยังมีงบอาหารของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) อีก 34 ล้านบาท รวม 106 ล้านบาท ควรมีคำสั่งห้าม กมธ.แต่ละคณะเบิกค่าอาหารซ้ำซ้อน เช่น วันประชุมสภาฯมีค่าอาหาร ส.ส.ตกหัวละ 1,000 บาท แต่ยังไปเบิกงบค่าอาหารจาก กมธ.และอนุ กมธ.ชุดต่างๆอีก ถ้า กมธ.ประชุม 3 ชุด รวมกับห้องประชุมใหญ่เบิกเป็น 4 ชุด ส.ส.คนเดียวควรเบิกค่าอาหารแค่ชุดเดียว ไม่ใช่เบิกซ้ำซ้อนหลายคณะ หรือตกต่อหัว 2-3 พันบาท ไม่ถูกต้อง ป.ป.ช.หรือ สตง.ควรตรวจงบสภาฯ ประธานต้องเอาจริงบ้าง ส.ส.ไม่ยอมไปกินอาหารของห้องประชุมใหญ่ ใครไม่กินก็ไม่ต้องกิน จากนั้นที่ประชุมลงมติเห็นชอบมาตรา 30 ด้วยคะแนน 250 ต่อ 115 งดออกเสียง 1

ก้าวไกลถลกงบฯรถศาล รธน.

ต่อมาที่ประชุมพิจารณามาตรา 31 งบหน่วยงานศาล 7,762 ล้านบาท นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส. ฉะเชิงเทรา พรรค ก.ก. อภิปรายว่า ขอเสนอตัดงบศาล รัฐธรรมนูญ 1% เพราะประธานศาลรัฐธรรมนูญขอซื้อรถ Mercedes-Benz S-Class S 560e AMG Premium ราคา 8 ล้านบาท ตัวท็อปภายในหรูหรา รถที่ใช้อยู่ ปัจจุบันเป็นรุ่น Mercedes-Benz 500e AMG Premium ราคา 6.6 ล้านบาท ซื้อปี 2561 จำนวน 2 คัน มีค่าบำรุงรักษาปีละ 1 แสนบาท ส่วนรถตุลาการอีก 8 คน ใช้ Mercedes-Benz E350e คันละ 3.36 ล้านบาท ขณะที่ประธานศาลรัฐธรรมนูญคนก่อนใช้ Mercedes-Benz S320 CDI L ซื้อปี 2552 จนหมดวาระ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคดีปีละไม่กี่คดี ปี 2564 พิจารณา 64 คดี หมายความว่า 1 คน ทำแค่ 5 คดี ค่าตอบแทนตกปีละ 64 ล้านบาท เท่ากับ 1 คน มีรายได้ 5.3 แสนบาทต่อเดือน ทั้งยังมีเงินไปเที่ยวต่างประเทศปีละ 10 ล้านบาท ตามกฎหมายรถไม่เกิน 3,000 ซีซี ราคามาตรฐานอยู่ที่ 4.2ล้านบาท แต่นี่ซื้อคันละ 8 ล้านบาท ดังนั้น การวินิจฉัยวาระนายกฯ 8 ปี ออกมาคงไม่ต้องเดา จากนั้นที่ประชุมมีมติเห็นชอบด้วยคะแนน 248 ต่อ 83 ไม่ลงคะแนน 2 เสียง

“ไก่อู” ยันงบพีอาร์ไม่เกี่ยวเอเปก

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวถึงกรณีบริษัท Nielsen บริษัทด้านวิจัยการตลาด เผยอันดับงบโฆษณา สำนักนายกรัฐมนตรีติดอันดับที่ 13 ว่า วิธีการสำรวจของ บริษัท Nielsen เฝ้าติดตามหน้าจอทีวี วิทยุ และโซเชียลมีเดีย ดูว่ามีงานของใครไปออกมาน้อยแค่ไหน ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายงบจากสิ่งที่เกิดขึ้น เช่น กรมประชา สัมพันธ์ถ่ายทอดสดช่วง ศบค.แถลง และมีข้อมูลหน่วยงานของรัฐไปออกช่องต่างๆคิดเป็นตัวเงิน ทั้งที่ความเป็นจริงไม่มีการจ่ายเงิน เมื่อถามถึงกรณีที่ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุว่างบสำนักนายกฯส่วนใหญ่เป็นของกรมที่ใช้ประชาสัมพันธ์ประชุมเอเปก พล.ท.สรรเสริญตอบว่า ข้อมูลของ Nielsen เป็นช่วงต้นปี แต่การประชุมเอเปกเพิ่งลงนามเมื่อวันที่ 22 ส.ค. ยังไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย ยืนยันไม่ใช่งบกรมประชาสัมพันธ์

“นิพนธ์” สู้ไม่ถอยคดีค่ารถ อบจ.

อีกเรื่อง นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติส่งฟ้องฐานละเว้นไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ ในฐานะนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (นายก อบจ.สงขลา) ให้แก่บริษัทพลวิศว์ เทคพลัส จำกัด ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ ป.ป.ช.ขีดเส้นให้มารายงานตัวในวันที่ 5 ก.ย. ว่ายินดีไปตามนัด ไม่มีหลบหนีแน่นอน เหตุที่ไม่จ่ายเงินเพราะฮั้วการประมูล จังหวัดสั่งให้ระงับการจ่ายและให้ชี้แจงข้อเท็จจริง ตนตั้งกรรมการสอบบอกว่า ฮั้วแล้วจะจ่ายได้อย่างไร เป็นการกระทำความผิดฮั้วกันทั้ง 3 ครั้งตำรวจก็สรุปสำนวนว่าฮั้ว เมื่อถามว่า ตำรวจสรุปสำนวนว่าฮั้วทำไม ป.ป.ช.มองเป็นความผิดที่ไม่จ่ายนายนิพนธ์ตอบว่าไม่ทราบจริงๆต้องถาม ป.ป.ช.