“ศรีสุวรรณ” ย่องมอบตัว!! คดีแจ้งเท็จกล่าวหา “เพื่อไทย” แถลงนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทเกินจริง

“ทนายวิญญัติ” ขึ้นโรงพักทุ่งสองห้อง ตามจี้คดี “ศรีสุวรรณ” สุดท้ายย่องมอบตัว 3 ข้อหา กรณีแจ้งเท็จไปเมื่อวานนี้ หลังกล่าวหา “เพื่อไทย” แถลงนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทเกินจริง

จากกรณีเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 65 นายศรีสุวรรณ จรรยา ไปยื่นร้องต่อ กกต. ให้มีการยื่นยุบพรรคเพื่อไทย จากกรณีนายทักษิณ ชินวัตร หรือ “โทนี่ วู้ดซัม” ออกมาไลฟ์พูดคุยในกลุ่ม CARE ชี้แจงนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งกรณีเช่นนี้อาจเข้าข่ายเป็นการชี้นำ ครอบงำกิจกรรมหรือนโยบายของพรรคการเมือง ต่อมาเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.65 นายวิญญัติ ชาติมนตรี เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ (สกสส.) ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อเอาผิดนายศรีสุวรรณ ฐานเป็นผู้แจ้งหรือกล่าวหาโดยรู้อยู่ว่าเป็นความเท็จ นั้น

ความคืบหน้าที่ สน.ทุ่งสองห้อง เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 มิ.ย. 66 นายวิญญัติ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.มารุต สุดหนองบัว ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง พ.ต.ต.อนุชิต ชาติชูเหลี่ยม สว.สอบสวน เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีแจ้งความดำเนินคดีกับนายศรีสุวรรณ เป็นเวลากว่า 5 เดือนแล้ว

นายวิญญัติ กล่าวว่า คำร้องที่นายศรีสุวรรณ ร้อง กกต. กรณีดังกล่าว ถูก กกต. สอบสวนพิจารณาตีตกไป พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับนายศรีสุวรรณ ข้อหาแจ้งความเท็จ โดยนายศรีสุวรรณ ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อหาแจ้งความเท็จไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ (7 มิ.ย.) โดยปฏิเสธข้อกล่าวหา เป็นที่สังเกตว่านายศรีสุวรรณ เดินทางมามอบตัวอย่างเงียบๆ ไม่แจ้งสื่อฯ ให้ทราบเลย

“การกลั้นแกล้งให้ผู้อื่นรับโทษคดีอาญา และในกรณีนี้มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยเรื่องพรรคการเมืองด้วย ซึ่งมีโทษติดคุก มีผลให้ถูกตัดสิทธิเกี่ยวกับการเมืองด้วย ถ้าศาลตัดสินว่ากระทำผิดจริง สุดท้ายผมต้องขอขอบคุณ ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง พนักงานสอบสวน ที่ดำเนินการตามที่ผมร้องเรียนเป็นไปตามกรอบกำหนดเวลาของกฎหมาย”

นายวิญญัติ กล่าวด้วยว่า กรณีนี้เข้าข่ายความผิดตาม มาตรา 173 ผู้ใดรู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่า ได้มีการกระทำความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินหกพันบาท

มาตรา 174 ถ้าการแจ้งข้อความตามมาตรา 172 หรือมาตรา 173 เป็นการเพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องถูกบังคับตามวิธีการเพื่อความปลอดภัย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินหกพันบาท

ถ้าการแจ้งตามความในวรรคแรก เป็นการเพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษหรือรับโทษหนักขึ้น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท