อดีตกำนันด่านขุนทด ลงสนามนายก อบต.สระจรเข้ แจ้งความหลังป้ายหาเสียงถูกทำลายแล้ว 2 รอบ

“กำนันยงค์” ผู้สมัครนายก อบต.สระจรเข้ อ.ด่านขุนทด โคราช แจ้งความ หลังป้ายหาเสียงถูกทำลายรอบสองภายในเวลา 15 วัน ขณะที่ตำรวจยังไม่รู้ฝีมือ ด้านผกก.บอกไม่ต้องห่วง ส่งสายสืบลงพื้นที่แล้ว 

วันที่ 17 พ.ย. นายกนก วรรณขุนทด อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/1 หมู่ 1 ตำบลสระจรเข้ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสระจรเข้ อ.ด่านขุนทด เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.สาธิต นิติธรธรรมกุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.ด่านขุนทด ว่าเมื่อคืนวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา แผ่นป้ายหาเสียงไวนิลของตน เบอร์ 1 ติดตั้งริมถนนสายด่านขุนทด-หนองสรวง ปากทางเข้าบ้านสระจรเข้ หมู่ 4 โดยมีป้ายประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งของ อบต.สระจรเข้ ติดตั้งอยู่ใกล้กัน ได้ถูกทำลายเสียหายทั้งสองป้าย โดยไม่ทราบว่าใครเป็นคนทำลาย อาจจะเป็นคนกลุ่มเดิมก็เป็นได้ เพราะระยะห่างกันแค่ 15 วัน ป้ายของตนถูกทำลายถึง 2 ครั้ง อยากให้ตำรวจติดตามหาตัวมือทำลายป้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว

ขณะเดียวกัน นายศุกร์ เปียนขุนทด กำนันตำบลสระจรเข้ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการทำลายป้ายประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งของ อบต.และป้ายหาเสียงของผู้สมัครนายกอบต. เบอร์ 1 พร้อมกับกล่าวว่า ตนอยู่มาจนจะอายุ 60 ปี มีการเลือกตั้งทุกระดับ ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน น่าจะเป็นการกลั่นแกล้งกันทางเมือง จึงอยากขอร้องให้พี่น้องประชาชนอย่าสร้างความแตกแยกขอให้มีความสามัคคีเพื่อความมั่นคงของตำบล และอยากให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งกันมากๆ ทั้งสมาชิกและนายก อบต. จะเลือกใครอยู่ที่ความพอใจของแต่ละคน

ขณะที่ กำนันยงค์ กล่าวว่า ไม่อยากให้มีการขัดแย้งกัน เพราะตนไม่เคยกลั่นแกล้งใคร แต่ต้องถูกทำลายป้ายถึงสองครั้ง จึงไปแจ้งความในครั้งที่สองนี้ ตำรวจก็ยังไม่รู้ตัวคนทำลายครั้งแรก และครั้งนี้ตำรวจบอกว่าจะรีบติดตามหาตัวคนร้ายโดยเร็ว

ทางด้าน พ.ต.อ.ภูไท เชาว์สูงเนิน ผกก.สภ.ด่านขุนทด เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทว่า การแข่งขันหาเสียงเลือกตั้งของแต่ละ อบต. ย่อมมีการคุยข่มกันบ้าง แต่มาจากฝั่งผู้สนับสนุนของแต่ละผู้สมัคร ขณะนี้มีเพียง อบต.สระจรเข้ เท่านั้นที่มีการทำลายป้ายหาเสียงกัน จึงได้ส่งตำรวจชุดสายสืบลงพื้นที่หาข้อมูลแล้ว ไม่น่าจะเกินความสามารถที่จะหาตัวคนร้ายได้ เพราะถือว่าทำให้เสียทรัพย์ และเป็นการปรามไปด้วยในที เพื่อไม่ให้มีการก่อเหตุขึ้นมาอีก