“เมรุกลางน้ำ” ฌาปนกิจอย่างทุลักทุเล ประสานกู้ภัยนำเรือมาบรรทุกโลงศพ

ชาวบ้านที่ อ.ไชโย จ.อ่างทอง ถูกแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อเข้าท่วม ต้องไปอาศัยนอนศาลาวัด ส่วนงานศพสวดแล้วก็ต้องเผา แต่เมรุถูกน้ำท่วมกลายเป็นเมรุกลางน้ำ ต้องประสานกู้ภัยนำเรือมาบรรทุกโลงไปทำการฌาปนกิจ ทุลักทุเลแต่ก็ผ่านพ้นไปได้ 

วันที่ 7 ต.ค. ที่วัดนางเล่ว ตำบลชัยฤทธิ์ อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง ได้มีการเผาศพ นางทองสุข พุ่มกันเกรา อายุ 77 ปี ที่เสียชีวิตจากติดเชื้อในกระแสเลือด เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลาการเปรียญวัดนางเล่ว จนวันที่ 5 ต.ค. พื้นที่โดยรอบวัดได้ถูกน้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นเข้าท่วมบริเวณวัดโบสถ์ รวมถึงเมรุ  เจดีย์ที่ชาวบ้านใช้บรรจุกระดุกของญาติจมน้ำเสียหาย

แต่ยังโชคยังดีที่ศาลาการเปรียญของวัดยกสูงเหนือน้ำ ญาติโยมที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมได้มาอยู่อาศัยอยู่ที่ศาลาวัด พร้อมใช้ประกอบพิธีตามศาสนาตามปกติ ซึ่งวันนี้มีการเผาศพนางทองสุข ทำพิธีทางศาสนาบนศาลาการเปรียญเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลาเคลื่อนศพสู่เมรุเพื่อทำการเผา โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูได้เคลื่อนศพลงเรือไปยังเมรุ ที่น้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ท่ามกลางฝนที่โปรยปรายลงมา

พระสมุห์อมร ปาภากโร รักษาการเจ้าอาวาส เผยว่า หลังจาก นางทองสุข เสียชีวิต ได้ตั้งการบำเพ็ญกุศลศพ ในวันที่ 4 ต.ค. พอวันที่ 5 ต.ค. น้ำเข้าท่วมพื้นที่วัดนางเล่ว สูงร่วม 2 เมตร ส่วนบริเวณศาลาการเปรียญยกสูงพ้นน้ำ ยังใช้ประกอบพิธีทางศาสนา และให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมมาอาศัยได้ ขณะที่โบสถ์และเมรุถูกน้ำท่วม แต่ตัวเมรุยังสามารถเผาศพได้ เตาเผายังสูงจากระดับน้ำประมาณ 1 เมตร จึงประสานไปยังอาสามูลนิธิร่วมกตัญญูขอเรือเคลื่อนย้ายศพไปทำการฌาปนกิจบนเมรุกลางน้ำ ท่ามกลางสายฝนที่ยังตกลงมาไม่ขาดเม็ด ซึ่งการประกอบพิธีตามศาสนา และพิธีฌาปนกิจผ่านพ้นไปด้วยดี

ส่วนสถานการณ์น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านจังหวัดอ่างทอง ลดลงเล็กน้อย 3-4 เชนติเมตร บริเวณหน้าศาลกลางจังหวัดอ่างทอง ปริมาณน้ำเจ้าพระยาสูง 09.17 เมตร จากระดับตลิ่ง 10 เมตร กระแสน้ำไหลผ่าน 2514 ลบ.ม/วินาที โดยรวมพื้นที่ จ.อ่างทอง ได้รับผลกระทบท่วมแล้ว 5 อำเภอ มีบ้านเรือนประชาชนน้ำท่วมแล้ว 5,054 หลังคาเรือน 37 ตำบล 167 หมู่บ้าน ในพื้นที่ อ.ป่าโมก อ.วิเศษชัยชาญ อ.ไชโย อ.เมืองอ่างทอง และ อ.สามโก้ มีพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย กว่า 20,973 ไร่