“เสรี” ฟันธง! 15 ส.ค. “สภาฯล่ม” ไม่พลิกโผโต้ไร้ใบสั่ง “บิ๊กป้อม” กลับลำสูตรเลือกตั้ง แจงไม่ปล่อยผ่านร่าง ก.ม.ลูกขัด รธน. ยอมรับใช้วิธีประหลาด

“เสรี” ฟันธงสภาฯล่มไม่พลิกโผ โต้ไร้ใบสั่ง “บิ๊กป้อม” กลับลำสูตรเลือกตั้ง แจงไม่ปล่อยผ่านร่าง ก.ม.ลูกขัด รธน. หวั่นยิ่งถลำลึกผิดมากกว่าเดิม ยอมรับใช้วิธีประหลาด แต่เป็นกลไกใน รธน. “วันชัย” ฟันธงหาร 500 ล่มปากอ่าว ปฏิเสธตีรวนแค่ใช้เหลี่ยมกฎหมายแก้เกม “หมอระวี” ร่างคำร้องจ่อยื่นศาล รธน.ล้มหาร 100 “ชลน่าน” เสียงแข็งงัดกลไกรัฐสภายับยั้ง ก.ม.มิชอบ ปิดช่อง “บิ๊กตู่” อยู่ยาวล้มเลือกตั้ง จุดชนวนวิกฤติ “ปชป-ภท.” เปิดศึกเดือดชิงพื้นที่อันดามัน “ราเมศ” หวดเด็ก ภท.ป้ายสีหยาม ปชป.-หน.พรรค เหน็บเป็นราชสีห์ ทำไมเห่าเป็น “จุรินทร์” ฮึ่มถูกระรานต้องตอบโต้คืน “นิพนธ์” ขู่อย่าดีแต่เพ้อแลนด์สไลด์ ระวังเจอสึนามิการเมืองสั่งสอน “เสี่ยหนู” ปัดด้อยค่า “อู๊ดด้า” สวนคนเป็นสุนัขไม่เข้าใจราชสีห์ ยกทัพบุกกระบี่-พังงา อ้อนเลือก ภท.มารับใช้ ตั้งเป้าเพิ่มจาก 3 เป็น 10 กระทรวง

หลายฝ่ายคาดว่าการประชุมร่วมรัฐสภาวันที่ 15 ส.ค. จะเกิดเหตุสภาล่มเกิดขึ้นซ้ำอีก เป็นไปตามที่สองพรรคการเมืองใหญ่ต้องการให้ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ตกไป แล้วกลับไปร่างเดิมของคณะรัฐมนตรีที่ให้ใช้สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อหารด้วย 100

“วันชัย” ฟันธงหาร 500 ล่มปากอ่าว

เมื่อวันที่ 13 ส.ค. นายวันชัย สอนศิริ ส.ว.โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “พวก 100 กับพวก 500 ใครจะรอด ใครจะร่วง” โดยระบุว่าการประชุมรัฐสภาในวันที่ 15 ส.ค. เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.เป็นครั้งสุดท้าย จะเปิดประชุมได้หรือไม่ คิดว่าสภาฯ คงจะล่ม ถือว่าสภาฯ พิจารณากฎหมายนี้ไม่ทันใน 180 วันแน่นอน ใครจะดันอย่างไรยังไงก็ไปไม่รอด เพราะการแก้รัฐธรรมนูญเสียงส่วนใหญ่เอา 100 หาร และแก้ พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ก็เอา 100 หาร ไม่มีใครเอา 500 หารมาตั้งแต่ต้น ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา พวก 500 มาชนะตอนปลายๆในสถานการณ์ไม่ปกติ พวก 100 งงเป็นไก่ตาแตก ทำได้อย่างไร ขืนปล่อยให้เป็น 500 หารก็ขัดกฎหมาย ขัดรัฐธรรมนูญคงล่มปากอ่าวในที่สุด

ปัดตีรวนแค่ใช้เหลี่ยม ก.ม.แก้เกม

นายวันชัยระบุอีกว่า พวก 100 ในสภาฯพยายามทำทุกทางจะชนะพวก 500 ให้ได้ จึงเล่นเกมตามรัฐธรรมนูญ ตามข้อบังคับทุกเม็ด ดึงเกมให้พิจารณาไม่ทันใน 180 วัน ทำให้กฎหมายที่ ครม.เสนอและเป็นหลักในการพิจารณาว่าด้วย 100 หารผ่านสภาฯ โดยอัตโนมัติ ทำให้พวก 100 ชนะแบบลอยลำเป็นกลเกมในสภาฯ ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ไม่ใช่การตีรวน การขี้เกียจเข้าประชุมแต่เป็นวิธีหนึ่งให้ได้กฎหมายเลือกตั้งที่ถูกต้องเป็นธรรมตามรัฐธรรมนูญ ล้มพวก 500 ด้วยกติกาที่รัฐธรรมนูญเปิดช่องให้ทำได้ ส่วนใครจะมีหน้าที่เรียกประชุม มาประชุมหรือไม่มาประชุม แสดงตน ไม่แสดงตน จะโหวตหรือไม่โหวตเป็นเรื่องของแต่ละคนจะแสดงบทบาท ไม่มีใครผิดใครถูก สถานการณ์นี้มีแต่พวก 100 กับพวก 500 เท่านั้นที่ใครจะชนะ เมื่อชนะแล้วไม่มีใครเหนือใคร ไม่มีใครดีและเลวร้ายกว่าใคร

วิธีประหลาดแต่อยู่ในเงื่อนไข รธน.

นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว.กล่าวว่า ยังไม่ทราบจะมี ส.ว.มาร่วมประชุมมากน้อยแค่ไหน เพราะให้เป็นเอกสิทธิ์ ส.ว.แต่ละคน มองทิศทางแล้วน่าจะเกิดเหตุสภาฯล่มเหมือนเมื่อวันที่ 10 ส.ค.65 เพราะหากมาร่วมประชุมแล้วไปลงมติในร่างกฎหมายที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ อาจยิ่งถลำลึกผิดมากกว่าเดิม ยืนยันการแก้รัฐธรรมนูญเป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ต้องใช้วิธีคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อหาร 100 เท่านั้น เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ การใช้วิธีหาร 500 คำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อไม่ถูกหลักกฎหมาย จะปล่อยให้กฎหมายผ่านไป จนเกิดความเสียหายต่อประเทศไม่ได้ จำเป็นต้องใช้วิธีพิจารณากฎหมายไม่แล้วเสร็จภายใน 180 วัน ตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 132 (1) กำหนดไว้ให้กลับไปใช้เนื้อหาร่างแรกที่ ครม.เสนอมาคือ การใช้สูตร 100 หาร อาจเป็นกระบวนการที่ดูประหลาด แต่เป็นกลไกที่อยู่ในรัฐธรรมนูญ เพราะไม่มีทางเลือกอื่น หากให้โหวตวาระ 3 แล้วกฎหมายไม่ผ่าน ต้องไปนับหนึ่งใหม่ทั้งหมด ยิ่งเสียเวลา ถ้าออกกฎหมาย เลือกตั้งไม่ทันการเลือกตั้งคราวหน้า ต้องไปออก พ.ร.ก.แทน ยิ่งสร้างความขัดแย้งหนักขึ้น ประชาชนคงไม่ยอม จึงจำเป็นต้องใช้วิธีนี้ ป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤติในประเทศ

โต้ไร้ใบสั่ง “ป้อม” พลิกกลับหาร 100

นายเสรีกล่าวว่า การใช้กลไกให้กฎหมายลูกเสร็จไม่ทันใน 180 วันจนเกิดสภาฯล่ม ถือเป็นกรณีพิเศษจากการที่รัฐธรรมนูญบัญญัติในมาตรา 132 (1) เป็นปรากฏการณ์แปลกใหม่ที่หลายฝ่ายเห็นตรงกัน ไม่ใช่ สภาล่มฯเพราะมีเจตนาไม่ทำงาน ไม่ทำหน้าที่ในฐานะสมาชิกรัฐสภา แต่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทำให้ได้กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.โดยไม่เสียเวลาไปมากกว่านี้ ยืนยันไม่ได้ทำตามใบสั่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่อยากได้สูตรหาร 100 เพราะยืนยันหลักการมาตลอด บัตร 2 ใบต้องใช้การหาร 100 เท่านั้น โหวตสนับสนุนการหาร 100 มาตลอด และ ส.ว.หลายคนเห็นตรงกันว่าการใช้สูตรหาร 500 ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ

“สมเจตน์” ปลุก ส.ว.รักษาภาพองค์กร

พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว. กล่าวว่า หากองค์ประชุมรัฐสภาไม่ครบ จะเป็นเหตุให้ร่างกฎหมายลูกต้องตกไป ให้ถือว่ารัฐสภาเห็นชอบร่างของ ครม.ใช้สูตรหาร 100 เป็นความต้องการของ 2 พรรคใหญ่ เป็นเกมการเมืองของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านกับพรรคอื่นๆ วุฒิสภากล่าวอ้างเสมอว่าเป็นกลาง จึงเป็นสิ่งที่ ส.ว.ทุกคนสมควรตระหนักใคร่ครวญให้ถี่ถ้วนว่าสมควรจะเข้าไปมีบทบาทหรือมีส่วนร่วมมือกับพรรคการเมืองที่แก้ไขกฎหมายเพื่อประโยชน์ของพรรคการเมืองในการเข้าสู่อำนาจบริหาร โดยประชาชนไม่ได้ประโยชน์ใดๆ ทำให้การประชุมรัฐสภาไม่ครบองค์ประชุมหรือไม่ หากจะรักษาไว้ซึ่งองค์กรวุฒิสภาให้เป็นหลัก ที่สังคมไว้วางใจว่าเป็นองค์กรหลักเพื่อการแก้ไขปัญหาของชาติที่สำคัญในสถานการณ์ข้างหน้า ส.ว.ทุกคนสมควรต้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน เพื่อยืนยันว่าหากองค์ประชุมรัฐสภาไม่ครบ เกิดจากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ส. ไม่ใช่เกิดจากการร่วมผสมโรงของ ส.ว.

ร่างคำร้องยื่นศาล รธน.ล้มหาร 100

นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาวันที่ 15 ส.ค. ที่อาจเกิดเหตุการณ์องค์ประชุมล่ม ต้องกลับไปใช้สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อหาร 100 ว่า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ตนทำได้เพียงเรียกร้องจริยธรรม ส.ส.-ส.ว.ให้เข้าร่วมประชุม อย่างอื่นทำไม่ได้ ขณะนี้มีข่าวว่าพรรคนั้น พรรคนี้ยืนยันเอาแบบเดิม จะไม่มาประชุม แถมให้ ส.ว.บางคนมาบอกว่าวิถีการให้สภาล่มเป็นวิถีกฎหมายที่ทำได้ ประชาชนจะตัดสินเอง ขณะนี้พรรคเล็กกำลังร่างคำร้องรอส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ หากสุดท้ายต้องกลับไปใช้สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หาร 100 ตามร่าง ครม.อยู่ระหว่างรอตรวจสอบความถูกต้องคำร้อง จะรวบรวมรายชื่อ ส.ส.ให้ครบ 50 คน และยื่นคำร้องในช่วงร่างกฎหมายลูกอยู่ในมือนายกรัฐมนตรีระหว่างรอทูลเกล้าฯ ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าหาร 100 ผิดรัฐธรรมนูญ

“นิโรธ” ชี้ “ประวิตร” สั่ง ส.ส.เข้าประชุม

นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานวิปรัฐบาลให้สัมภาษณ์ว่า พรรค พปชร.เข้าประชุมอยู่แล้ว หัวหน้าพรรค พปชร.สั่งให้สมาชิกพรรคเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ทางวิปรัฐบาลมีมติแล้วว่าให้เป็นไปตามครรลองของสภา ทุกพรรคก็ปฏิบัติตาม เมื่อเกิดเหตุวันที่ 10 ก็ยอมรับสภาพที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ การประชุมครั้งสุดท้าย ทุกคนรู้หน้าที่ แต่ไม่สามารถไปคาดเดาการตัดสินใจของแต่ละคนได้ เป็นเจตจำนงที่จะลงหรือไม่ลงมติ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล พรรค พปชร.ยืนยันมาตลอดไม่ว่าจะใช้สูตรหาร 500 หรือหารด้วย 100 ได้ทั้งนั้น เราไม่เกี่ยง ตนปวดหัวกับทุกร่างไม่ว่าร่างไหน ปัญหาเริ่มมาตั้งแต่ต้นคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีทั้งฉบับสมบูรณ์มาก ไม่สมบูรณ์ก็มี ไม่มีอะไรพอดี แต่เมื่อแก้ไขแล้วต้องร่วมกันรับผิดชอบ ทางที่ดีควรทำไปตามครรลองของระบบ แต่ไม่สามารถไปการันตีได้ว่าแต่ละพรรคมีเจตนาลงมติอย่างไร

“อนุทิน” เชื่อกินขนมได้ ภท.มาครบ

ที่ จ.กระบี่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า พรรค ภท.ไม่ต้องกำชับ ส.ส.ให้เข้าร่วมประชุม เราไปกันครบอยู่แล้ว ถ้าจะโหวตก็โหวตตาม กมธ. จะโหวตทันหรือไม่ขึ้นอยู่กับ ส.ส.และ ส.ว. พรรค ภท.เชื่อขนมกินได้เลยว่าเรารักษาระบอบประชาธิปไตย ที่ผ่านมาแสดงจุดยืนเข้าร่วมประชุมทุกครั้ง แสดงตนทุกครั้งตนอยู่ในที่ประชุมด้วย

ไม่ได้ยินข่าวยุบสภาแต่ลุยพื้นที่หนัก

นายอนุทินกล่าวว่า ส่วนวาระ 8 ปีของนายกฯไม่กังวล เพราะไม่ใช่เรื่องของตน เราสนับสนุนนายกฯในฐานะหัวหน้ารัฐบาล สนับสนุนทุกวิถีทางให้ท่านนำพาสภาฯไปจนครบเทอม แต่การตีความเป็นเรื่องกฎหมายและศาลรัฐธรรมนูญ อนาคตการเมืองของนายกฯ ถ้ามารณรงค์แข่งขันหาเสียงเลือกตั้ง ท่านสังกัดพรรคไหนก็ต้องเชียร์พรรคนั้น และพรรคนั้นคือคู่แข่งขัน แข่งขันกันตามกติกา เมื่อถามถึงกระแสข่าวจะยุบสภาเร็วๆนี้ นายอนุทินตอบว่า ก็นี่ไงเราจึงมากระบี่มาเปิดตัวผู้สมัคร เดี๋ยวไปพังงา แต่ยังไม่ได้ข่าวแต่เตรียมพร้อม เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

“ชลน่าน” ชูกลไกรัฐสภายุติ ก.ม.ขัด รธน.

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมร่วมรัฐสภาวันที่ 15 ส.ค. ว่า พรรคมีเจตนารมณ์ชัดเจนจะยับยั้งกฎหมายลูกเลือกตั้ง ส.ส. โดย ส.ส.พรรค พท.จะไปร่วมประชุม รัฐสภา หากเสียงข้างมากมาร่วมประชุมจนเปิดประชุมได้เราจะเข้าร่วมประชุม แต่พอถึงการลงมติเราจะไม่แสดงตัว เพื่อไม่ให้ลงมติกฎหมายได้ ให้กฎหมายดังกล่าวตกไป กลับไปใช้ร่างเดิมที่ ครม.เสนอต่อรัฐสภา หาร ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วย 100 เท่าที่ทราบตอนนี้เสียงข้างมากในรัฐสภาเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ที่จะใช้กลไกรัฐสภายับยั้งกฎหมายที่ตราขึ้นอย่างไม่ชอบขัดกับรัฐธรรมนูญที่แก้ไขขึ้นมา และขัดหลักการการเสนอกฎหมายเราจะยื้อกฎหมายดังกล่าวทุกวิถีทาง

หวั่นไม่มี ลต.“บิ๊กตู่” อยู่ยาวก่อวิกฤติ

นพ.ชลน่านกล่าวอีกว่า เชื่อว่าหากเดินหน้า การประชุมได้ กฎหมายที่คำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วยการหาร 500 จะไม่ผ่าน เพราะ ส.ส.ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย สุดท้ายต้องตกไปอยู่ดี อาจต้องทำกฎหมาย ใหม่ หรือมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามมา และหากมีการยุบสภาเกิดขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม อาจต้องอยู่ยาวเพราะไม่มีกฎหมาย เลือกตั้ง ไม่สามารถเลือกตั้งใหม่ได้ จะเกิดการผูกขาดอำนาจและวิกฤติการเมืองตามมาในที่สุด และอาจวนเข้าการรัฐประหารได้ เราจึงจำเป็นต้องทำทุกอย่าง เพื่อให้ได้กฎหมายเลือกตั้งที่คิดคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญออกมาโดยเร็วที่สุดในการเลือกตั้ง

พท.ไม่เป็นองค์ประชุมให้

นายสมคิด เชื้อคง รองประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า พรรคแสดงเจตนารมณ์มาตั้งแต่ต้นว่าหากจะหาร ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วย 500 จะไม่ร่วมประชุมด้วย องค์ประชุมจะล้มหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นกับพรรคพท. ที่เหลือ 500 กว่าเสียงไปตัดสินใจเอา เสียงส่วนมากว่าอย่างไรไปอย่างนั้น เราเป็นเสียงข้างน้อยมีช่องทางเดียวที่ต่อสู้ในระบบรัฐสภา อธิบายตลอดว่าไม่ร่วมออกกฎหมายขัดรัฐธรรมนูญและหลักการของรัฐสภา ขอให้เข้าใจว่าทำหน้าที่ตามช่องทางที่เปิดไว้ ไม่ได้เกเร เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวต่อรองในซีกรัฐบาลให้การหาร 500 ผ่านไปได้ นายสมคิดตอบว่า เราไม่เตรียมรับมือ ถ้าจะกลับไปกลับมาสุดแท้แต่เสียงข้างมาก ประชาชนเขาดูอยู่ว่าพวกคุณทำอะไรกัน

จวก “ชาติชาย” ไม่พูดความจริง

นายสมคิด เชื้อคง รองประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรณีนายชาติชาย ณ เชียงใหม่ อดีตกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า บันทึกการประชุมของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 500 ที่เผยแพร่ช่วงนี้เรื่องวาระดำรงตำแหน่ง 8 ปีของนายกฯ เป็นเพียงความเห็นไม่ใช่มติที่ประชุมว่า เท่าที่ไปดูบันทึกการประชุมที่เผยแพร่กัน มีผู้เสนอ ความคิดเรื่องนี้คือนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญที่ให้นับร่วม 8 ปี ตั้งแต่ดำรงตำแหน่ง ไม่มีใครแสดงความเห็นเพิ่มเติมทักท้วงอะไร ถือว่าที่ประชุมเห็นด้วย จากนั้น 1 สัปดาห์มีการรับรองรายงานการประชุมถูกต้อง ถือว่านี่คือเจตนารมณ์ของคณะร่างรัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างอื่นไม่ได้ อย่าให้ความเป็นนักวิชาการเสียหายเลย ขอให้พูดตรงตามข้อเท็จจริง ส่วนศาลจะวินิจฉัยอย่างไรให้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เหน็บ “บิดาแห่งการยกเว้น” รอดยาก

น.ส.นภาพร เพ็ชร์จินดา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้นายกฯประกาศลาออกก่อนวันที่ 24 ส.ค. ให้สอดรับเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ ไม่ผูกขาดอำนาจนำไปสู่วิกฤติการเมือง ไม่จำเป็นต้องรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ย่อมรู้อยู่แก่ใจว่าเป็นนายกฯต่อเนื่องมา 8 ปี ตั้งแต่ยึดอำนาจปี 57 บันทึกของ กรธ. ของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธาน กรธ. ระบุเจตนารมณ์ชัดเจนต้องพ้นวาระวันที่ 24 ส.ค. ไตร่ตรองให้ดี จะอยู่จนเกิดความขัดแย้งรอบใหม่หรือรีบถอดสลักระเบิด คงหวังจะผ่านด่านตีความทางกฎหมายได้เหมือนหลายกรณี จนได้ฉายา “บิดาแห่งการยกเว้น” แต่คราวนี้คงไม่ได้รับการยกเว้น เพราะมีบันทึก กรธ.ผูกมัดแน่นหนา วาระนายกฯต้องนับต่อจากการเป็นนายกฯสมัย คสช.ด้วย ควรรีบพูดว่า “ผมพอแล้ว” เหมือน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี ไม่เช่นนั้นอาจถูกสอยกลางอากาศหรือถูกประชาชนลุกฮือขึ้นขับไล่ ไม่มีโอกาสพูดคำว่า “ผมพอแล้ว” อีกเลย

ปชป.จวกยับ ภท.ใส่ร้ายป้ายสี

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง ส.ส.พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้ร้ายพรรคประชาธิปัตย์ว่า เป็นการเมืองล้าหลัง เลวร้ายที่สุด เล่นการเมืองแบบใส่ร้ายป้ายสี กล่าวหาบุคคลอื่นตีกินการเมือง พูดจาด้อยค่าพรรคอื่น ไม่ใช่วิสัยนักการเมืองที่พึงกระทำ แต่ละพรรคใครจะประกาศคว้าชัยในพื้นที่กี่ที่นั่ง ได้ ส.ส.กี่คน พูดได้ทำได้หมด พรรค ภท.มีสิทธิประกาศยุทธศาสตร์ได้ ประชาชนจะให้คำตอบ เรามั่นใจพื้นที่ภาคใต้จากการทำงานให้กับประชาชน มีผลงานปรากฏชัดและยั่งยืน ผู้สมัครทุกเขตอยู่ชิดติดพื้นที่ประชาชนสัมผัสได้ เชื่อมั่นว่าจะมี ส.ส.เพิ่มขึ้นจำนวนมากแน่นอน

เหน็บเป็นราชสีห์ ทำไมเห่าได้

“กรณีพาดพิงนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค เรื่องพื้นที่เขตเลือกตั้ง จ.พังงา ว่า ไม่มีความรับผิดชอบ เป็นเรื่องภายในพรรคประชาธิปัตย์ มีวิธีทำงานทางการเมืองของพรรค หัวหน้าพรรคเป็นนักการเมืองมายาวนาน มีความรับผิดชอบ ไม่ต้องมากังวลแทนพรรค และเชื่อมั่นชาวพังงาจะวางใจสนับสนุนผู้สมัครพรรค ปชป. พรรคไหนจะส่งใครลงเขตไหนจังหวัดใด เราไม่ไปก้าวก่าย จะไม่ไปยุ่งเรื่องของพรรคอื่น พรรคไหนจะอ้างว่าตัวเป็นราชสีห์ เป็นสัตว์ประเภทใดว่ากันไป แต่น่าแปลกใจความจริงแล้วราชสีห์ไม่น่าจะเห่าเป็น” นายราเมศกล่าว

จี้ “เสี่ยหนู” สอนมารยาทลูกพรรค

นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบโต้นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรค ภท. ว่า การพาดพิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เรื่องการบริหารจัดการภายในพรรค ผิดมารยาททางการเมือง อยากให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท.ช่วยอบรมสั่งสอนมารยาทให้ลูกพรรค นายสฤษฏ์พงษ์ จะอ้างพรรค ภท.จะแลนด์สไลด์พื้นที่ จ.โซนอันดามัน เป็นเรื่องดีเพิ่มตัวเลือกให้ประชาชน ต้องสู้ด้วยผลงานและนโยบายตอบโจทย์ มากกว่าใช้โวหารวาทกรรมสร้างคะแนน แต่การเล่านิทานหลอกเด็ก บิดเบือนว่าพรรค ปชป.ไม่มีผลงาน ทั้งที่รู้เห็นเต็มตา น่าตำหนิ ส่อนิสัยคนขี้แพ้ กลัวตั้งแต่ยังไม่ลงแข่งขัน ปชป.มั่นใจว่าเรายังเป็นความหวังให้พี่น้องชาวใต้ได้ ตลอดกว่า 70 ปี ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน ไม่ต้องเป็นห่วงพรรค ปชป. นายจุรินทร์เติบโตมากับพรรค ซึมซับอุดมการณ์มั่นคง ไม่ได้ย้ายพรรคบ่อยแบบคนไร้อุดมการณ์ที่หวังแต่จะชนะ ส่วนพรรค ภท.หากมั่นใจว่าจะแลนด์สไลด์ มีคะแนนนิยมจริง คงไม่ต้องมีการสั่งการให้เกณฑ์ อสม.มารอต้อนรับ” นางดรุณวรรณกล่าว

“อู๊ดด้า” ไปสตูลระรานมาต้องโต้คืน

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่โรงแรมสตารินทร์รีสอร์ท อ.เมือง จ.สตูล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคปชป.นำคณะจุรินทร์ ออนทัวร์ลงพื้นที่เปิดตัวนายเกตุชาติ เกษา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สตูล เขต 2 โดยนายจุรินทร์กล่าวว่า มีผู้สมัครครบทั้ง 2 เขตแต่ยังไม่เปิดตัวเขต 1 ติดการรับราชการอยู่ ทั้ง 2 คนมีศักยภาพเป็นเลือดใหม่ของพรรคที่มีคุณภาพ กรณีพรรค ภท.บุก จ.กระบี่ ประกาศจะแลนด์สไลด์ ส.ส.โซนอันดามัน โดยเฉพาะ จ.กระบี่ พังงา ชาวบ้านที่นั่นทราบดีว่าที่พูดมาเป็นไปได้หรือไม่ ทุกคนมีสิทธิจะคิดฝันได้หมด แต่จะจริงหรือไม่จริงชาวบ้านรู้อยู่ในใจ ไม่อยากไปปรามาสพรรคใด ทั้งโฆษกและรองโฆษกพรรคพูดชัดแล้ว คงไม่ต้องไปปรามอะไร มีวุฒิภาวะแล้ว ปกติไม่ไประรานคนอื่น แต่ถ้าถูกระรานมาลักษณะไม่เหมาะไม่ควรต้องมีสิทธิตอบโต้ชี้แจง

“นิพนธ์” ข่มขวัญระวังสึนามิการเมือง

ด้านนายนิพนธ์กล่าวว่า ใครจะพูดอย่างไรก็พูดได้ ประชาชนเป็นคนตัดสินใจ บางพรรคเปิดใหม่บอกว่าจะเอาภาคใต้ทั้งภาค ไม่รู้พูดตอนกลางวันหรือกลางคืน อีกพรรคบอกว่าแลนด์สไลด์ ขอส่งสัญญาณกลับไปให้ระวังสึนามิไว้บ้าง อย่าพูดแต่แลนด์สไลด์ เวลามามันกวาดหมด เคยเกิดขึ้นในภาคใต้หลายครั้งแล้ว ปี 35/1 ตนเป็น ส.ส.สมัยแรกภาคใต้มี 48 คน ปชป.ได้ 46 คน พอปี 35/2 มีการเลือกตั้งใหม่ ปชป.มาเกือบหมดทั้งภาค อย่าปรามาสคนปักษ์ใต้ ที่เคยสั่งสอนบทเรียนให้หลายพรรคมาแล้ว หัวหน้าพรรค ปชป.ตั้งเป้าไว้ 35-40 ส.ส.ในภาคใต้ ไม่ใช่เรื่องเกินจริง เมื่อก่อนมี 54 ที่นั่ง ปชป.เคยได้ 52 คนมาแล้ว ครั้งนี้ 35-40 กว่าที่นั่งไม่ใช่เป็นเรื่องเพ้อฝัน

“อนุทิน” ยกทัพเปิดว่าที่ผู้สมัครกระบี่

อีกด้านเมื่อเวลา 09.30 น. ที่บริเวณลานพระอาทิตย์ อบจ.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุขในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. พร้อมนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯ นางนาที รัชกิจประการ แกนนำพรรคดูแลพื้นที่ภาคใต้และ ส.ส.ภาคใต้ ร่วมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ คือนายกิตติ กิตติธรกุล เขต 1 นายถิรเดช ตั้งมั่นก่อกิจ เขต 2 นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ เขต 2 ซึ่งครั้งหน้าเปลี่ยนมาลงเขต 3 และนายกิตติชัย เอ่งฉ้วน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 3 พันคน ชูป้าย “พูดแล้วทำ ยกทั้งจังหวัด” บรรดาว่าที่ผู้สมัครสลับขึ้นเวทีปราศรัยชูนโยบายโครงการพัฒนาในพื้นที่ ทันทีที่นายอนุทินมาถึงเดินทักทายประชาชน พร้อมร่วมรำรองเง็งกับชาวกระบี่ที่มาต้อนรับอย่างสนุกสนาน

ไหว้ “ปู่ภุชงค์ฯ” ขอยึด ส.ส.ยกจังหวัด

จากนั้นนายอนุทินได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ “ปู่ภุชงค์นาคราช” ผู้สื่อข่าวถามว่าอธิษฐานขออะไร โดยนายอนุทินระบุว่า “ขอให้ได้ยกทั้งจังหวัด” จากนั้นนายอนุทินขึ้นเวทีแนะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ และกล่าวปราศรัยว่า ตื่นเต้นดีใจที่ได้มาพบพี่น้องชาวกระบี่ ตนมีแฟนเป็นคนใต้ที่เพิ่งคบกันมา 1 ปี เลยพูดใต้ยังไม่ชัด แต่ถ้าคบกันไปนานๆแล้ว คนใต้ยังไม่เลือกภูมิใจไทยคงต้องลาออกแล้ว ขอให้เลือก ส.ส.กระบี่ของพรรคทั้ง 3 คน กาทั้งสองใบ จะได้มี ส.ส.บัญชีรายชื่ออีก 1 คน มารับใช้พี่น้องชาวกระบี่ ถ้าได้ 4 คน จ.กระบี่ต้องเจริญกว่านี้สิบเท่าร้อยเท่า แต่ถ้ามี 4 คน ยังทำประโยชน์ไม่ได้ จะไม่มีวันเรียกตัวเองว่าเป็นคนอีกต่อไป

ฟุ้ง ภท.ขอเพิ่มเป็น 10 กระทรวง

นายอนุทินกล่าวว่า พรรคตั้งใจทำงาน ทั้ง กระทรวงสาธารณสุข คมนาคม และการท่องเที่ยวและกีฬา เราตั้งใจทำงาน 3 กระทรวงนี้ แต่ขอให้เลือกพรรค ภท.เพิ่มมากขึ้นจาก 3 กระทรวงจะได้เป็น 10 กระทรวง จะได้ทำงานครบทุกด้านมากขึ้น จ.กระบี่เป็นจังหวัดเป้าหมาย กระบี่ต้องทัดเทียมภูเก็ต ให้ จ.ภูเก็ต กระบี่ และพังงาเป็น 3 จังหวัดแกนนำกลุ่มอันดามัน จากนี้ไปจะช้าเร็วไม่เกิน 1 ปีพี่น้องจะได้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ถ้าท่านเลือกคนเดียวจะได้แรงเดียวทำงานเต็มที่ไม่ได้ แต่ถ้าเลือก 3 คนบวก 1 คน เป็น 4 คน จ.กระบี่จะมีรัฐมนตรี ไม่ได้โม้เวลาพูดว่าจะให้รัฐมนตรี แต่พูดตามข้อเท็จจริง ถ้าได้ยกจังหวัดทำไมจะให้ จ.กระบี่ไม่ได้ ไม่ต้องเอาเป็นภาคเอาเป็นจังหวัดไปเลย

เพิ่มค่าตอบแทน อสม.เป็น 2 พัน

นายอนุทินกล่าวบนเวทีถึงกระแสข่าวพรรค ภท.เกณฑ์ อสม.มาร่วมงานว่า “ก่อนมามีคนดูถูกเราว่าต้องเกณฑ์ อสม.มาฟัง จะเกณฑ์ทำไม ตนต้อง มาหา อสม.ไม่ใช่ อสม.มาหาตน อสม.คือหัวใจของ รมว.สาธารณสุข ถ้าไม่มี อสม.เดินไม่ได้ ที่บอกว่าเกณฑ์มาไม่ใช่เรื่องจริง ท่านมาเพราะอยากเจอผมใช่หรือไม่ อสม.รับเงินค่าตอบแทน 1,500 บาทมา 2 ปีแล้ว เราจะอยู่ที่เดิมทำไม มันต้องเพิ่มขึ้นเอาไปเลย 2,000 บาท เพราะ อสม.เป็นหมอคนแรก ทำงานให้บ้านเมืองนี้มากมาย ทำให้สุขภาพประชาชนดีขึ้น และนโยบายพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า เราจะเสนอนโยบาย “ภาษีบ้านเกิดเมืองนอน” ตัวอย่างเช่น จ.กระบี่เสียภาษีให้รัฐ 100 บาท เราจะขอ 30% นำมาพัฒนาจังหวัด ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน ประชาชนสั่งให้ภาษีรัฐลงมาพัฒนาบ้านเกิดได้

“นาที” บอกมักน้อยขอใต้ 20 บวก

ต่อมาเวลา 11.00 น. ที่ อบจ.กระบี่ นางนาที รัชกิจประการ เหรัญญิกพรรค ภท. และแม่ทัพภาคใต้ กล่าวถึงการแข่งขันรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ ว่า เราทำการเมืองเสมอต้นเสมอปลาย เดิมได้ ส.ส.8 คนและบัญชีรายชื่อ 3 คน วันนี้มาขอเติมเต็มให้เราได้สร้างและพัฒนาสิ่งที่ดีกว่าเดิม ที่ผ่านมาเราขาดโอกาสมานาน เมื่อถามว่านายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ปชป. ประกาศจะเอา 40 ที่นั่งในภาคใต้ นางนาทีกล่าวว่า “ดิฉันมักน้อย จาก 58 เขตขอแค่ 20 บวกพอ ทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทย ถ้าให้โอกาสพวกเราจะทำให้ดู ทำให้ประชาชนภาคใต้มีรายได้มหาศาล”

“เสี่ยหนู” ลั่นไม่เคยด้อยค่า “จุรินทร์”

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรค ปชป.ออกมาตอบโต้ ภท.อย่าด้อยค่าหัวหน้าพรรค ปชป.ว่า ไม่มี เราไม่เคยด้อยค่าใครอยู่แล้ว พรรค ภท.เป็นพรรคที่ถูกกระทำมาโดยตลอด ไม่เคยไปฟ้องร้องหรือทำอะไร หรือให้ร้ายกับคู่แข่งเลย มีแต่เราถูกคู่แข่งให้ร้ายว่ากล่าว และถูกฟ้องร้องตกเป็นจำเลยด้วยซ้ำ มาวันนี้ยังถูกกล่าวหาว่าขน อสม.มา ทั้งที่ไม่มีความจริงแม้แต่น้อย เรามาทำงานเสนอนโยบายให้ประเทศชาติ ไม่เคยไปท้าตีท้าต่อยกับใครอยู่แล้ว ตนสั่งสอนลูกพรรคทุกวันให้ดูแลประชาชน ให้ทำความดี ทุ่มเทเสียสละ ทุ่มชีวิตให้ประชาชน เหมือนหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค

มั่นใจกวาดอันดามันยึด 10 กระทรวง

นายอนุทินกล่าวอีกว่า มั่นใจเลือกตั้งครั้งหน้าฝั่งอันดามันจะแลนด์สไลด์ เราทำงานมีนโยบายที่ดี ผู้สมัครเข้าใจนโยบาย อยู่ในพื้นที่ตลอดเวลา แข่งกันทำความดี ชาวบ้านจะเลือกเอง ไม่ได้ตั้งเป้า ส.ส.แต่จะทำให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เต็มที่ ที่ประกาศบนเวทีจะได้รัฐมนตรี 10 กระทรวงต้องไปถึงขั้นนั้นให้ได้ นำเสนอความเป็นจริง สิ่งที่เรามีคือความเป็นปึกแผ่น พิสูจน์แล้วจากการทำหน้าที่ในสภา ภท.ไม่เคยแตกแถว ทำประโยชน์เพื่อประชาชนมากกว่าส่วนตัว ไม่เคยทำให้สภาเสียหาย ไม่เคยล้มนั่นล้มนี่ พรรค ภท.ไม่เคยบ้าจี้ไปด้วย เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ ภาคใต้พรรคร่วมรัฐบาลต้องแข่งขันกันเอง นายอนุทินกล่าวว่า เวลาอยู่ในกติกาแข่งขัน เราไม่เคยหนักใจ เวลาไปแทงสนุ้กแล้วตีไม่ลงไหม หรือไปพัตต์กอล์ฟ เรายอมไหมแม้เป็นเพื่อนสนิทหรือพี่น้อง นี่คือการแข่งขันต้องแข่งกันเต็มที่ให้อยู่ในกติกา ให้คำมั่นสัญญาเราเล่นในกติกา ไม่ทำร้ายคู่แข่ง ไม่ทำลายชื่อเสียงคู่แข่ง เอาผลงานเป็นตัวนำ ไม่เคยไปทะเลาะเบาะแว้งกับใคร

ลุยพังงาเหยียบถิ่น หน.ปชป.

ต่อมาเวลา 14.00 น. นายอนุทินพร้อมแกนนำพรรคเดินทางมายังอานานา แกรนด์รีสอร์ท ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เปิดตัวนายอรรถพล ไตรศรี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พังงา เขต 1 และนายอำนาจ ดำรงพิทยากุล เขต 2 มีประชาชนมาร่วมกว่า 2 พันคน นายอนุทินได้ร่วมตีฉาบกับวงกลองยาวปักษ์ใต้ และร่วมรำกับชาวบ้านอย่างครึกครื้น จากนั้นขึ้นเวทีแนะนำ 2 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พร้อมปราศรัยตอนหนึ่งว่า อยากแหลงใต้ ได้เมียใต้ไม่พอ ต้องได้ ส.ส.เยอะๆ อยู่อีสานพูดเขมรแล้วอยากพูดใต้บ้าง พูดจากใจ ดีใจที่ได้เจอ คนพังงา มีเพื่อนต่างพรรคที่กำลังตัดสินใจว่าจะมาร่วมกับพรรคด้วยหรือไม่คือนายอารี ไกรนรา ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ มาที่นี่มีคนขู่มากมาย มาพูดบอกตัวเองเป็นราชสีห์ แต่เขาพูดผิดแล้ว ตนเป็นหนู ชื่อเล่นชื่อหนู พี่น้องพังงาคือราชสีห์ ประชาชนคนไทยทุกคนคือราชสีห์ พรรค ภท.ทั้งหมดคือหนู แต่หนูจะช่วยราชสีห์ ขอให้ราชสีห์อย่าเพิ่งตะปบหนูก็แล้วกัน เมื่อเช้ามีคนที่พี่น้องคุ้นเคยใน จ.พังงา บอกว่าเป็นราชสีห์แล้วทำไมเห่า ใครมีดีต้องมาแข่งเสนอให้ประชาชน ไม่ฟัดกันเอง ดังนั้น สรุปว่าคนที่เป็นสุนัขคงไม่เข้าใจราชสีห์หรอก ต้องราชสีห์กับราชสีห์ถึงจะเข้าใจกัน แล้วเราจะมารับใช้ด้วยสุดความสามารถ

แขวะ ปชป.ใจกว้างๆอย่าหัวร้อน

นายณัฎฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา และรองโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงรองโฆษกพรรคปชป.เรียกร้องให้หัวหน้าพรรค ภท.สั่งสอนลูกพรรคที่วิจารณ์ผลงานพรรค ปชป.ว่า คำพูดนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรค ภท. เป็นการรายงานผลงานของพรรคในพื้นที่ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ตามสโลแกน “พูดแล้วทำ ”อาจมีบางคำไปกระทบกับพรรค ปชป.อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความจริงแล้วเป็นเรื่องที่พรรคอื่นๆ นักวิชาการและประชาชนเคยวิจารณ์มาแล้วทั้งสิ้น พรรค ปชป.ควรเปิดใจให้กว้าง รับฟังคำวิจารณ์ไปปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น หรือหากคำพูดดังกล่าวไม่เป็นความจริงควรชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ แทนการตอบโต้อย่างดุเดือด อยากให้แข่งขันกันทำงานมากกว่าแข่งขันโต้วาที การเมืองเปลี่ยนแปลง มีพัฒนาการก้าวไปข้างหน้าจนแซงคำว่า “พรรคการเมืองผูกขาดพื้นที่” ยืนยันพรรค ภท.เล่นเกมตามกติกาและเต็มที่กับการแข่งขันทุกสนาม แต่เมื่อจบเกมทุกคนเป็นเพื่อนกัน

“อันวาร์” อัด “อู๊ดด้า” ดึง ปชป.ตกต่ำสุด

นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชา ธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พาดพิงโหวตสวนมติพรรค ทำให้พรรคเสียหายว่า เคยชี้แจงหลายครั้งแล้วว่าการโหวตลงมติในสภาฯ ต้องไม่ฝืนความรู้สึกพี่น้องประชาชนที่เลือกมาเป็นตัวแทน แต่หลายกรณีพรรคพลิกมติ ไม่เห็นหัวประชาชนหรือไม่ เลือกตั้งปี 62 จากเคยมี 161 ส.ส.เหลือเพียง 52 ส.ส. ภาคใต้เมืองหลวงพรรคจาก 50 ที่นั่ง เสียไป 28 ที่นั่งยังไม่มีสำนึก โพลแต่ละสำนัก พรรค ปชป.ตกต่ำสุดในประวัติศาสตร์การตั้งพรรคมา สมาชิกพรรคกว่า 20 คนที่ลาออกยุคนี้ หลายคนเป็นอดีตรัฐมนตรี เคยอยู่กับพรรคมากว่า 20-30 ปีแล้วจะทิ้งพรรคไปได้อย่างไร แต่เพราะไม่สามารถทนต่อพฤติกรรมทางการบริหารในพรรค ที่สังคมไม่น่าจะรับได้

หยันใกล้ ลต.สมาชิกยิ่งแห่ลาออก

นายอันวาร์กล่าวอีกว่า “เมื่อถูกกล่าวหาทุจริตหน้ากากอนามัย ออกอาการรีบตั้งรองหัวหน้าพรรค ปชป.ขึ้นมาสอบฟอกขาวตัวเอง คนปกติเขาไม่ทำกัน การทุจริตถุงมือยางตั้งคนของตัวเองไปเป็นประธาน อคส.แล้วอ้างตัวเองไม่เกี่ยวเป็นเพียงบุรุษไปรษณีย์ ครม.ผู้อนุมัติต้องรับผิดชอบ กระทั่งแต่งตั้งเลือดใหม่มาเป็นรองหัวหน้าพรรค ทั้งที่สมาชิกหลายคนทักท้วงคุณสมบัติไม่เหมาะสม เคยมีคดีล่วงละเมิดทางเพศในต่างประเทศก็ไม่รับฟัง เป็นข่าวอื้อฉาวพรรคเสียหาย มาก แต่นายจุรินทร์ไม่รับผิดชอบอีก สมาชิกพรรคหลายคนจึงลาออกกดดันแต่ไร้ผล เพราะความทนทานของนายจุรินทร์ พรรคมีหัวหน้าพรรคเช่นนี้ ทำให้พรรคตกต่ำลงเรื่อยๆหรือไม่ “ขั้วอำนาจในพรรคแตกแยก เป็น 2 ฝ่ายจากเคยประสานตามสโลแกน “เกษตรผลิต พาณิชย์ขาย” กำลังจะเปลี่ยนไปเป็น “เกษตรจ่าย พาณิชย์เก็บ” อย่าตกใจใกล้เลือกตั้งจะมีสมาชิกพรรคลาออกมากกว่านี้ เตรียมตัวเตรียมใจไว้ด้วย” นายอันวาร์กล่าว

กก.สัญจรอีสานนำร่องขอนแก่น

ที่อาคารจั๊มป์ สเปซ ริมถนนมิตรภาพ อ.เมืองขอนแก่น เมื่อเวลา 14.30 น. พรรคก้าวไกลจัดกิจกรรม “สร้างพรรคก้าวไกล ปฏิรูปพรรคให้ได้อย่างใจคุณ” มีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อในฐานะ โฆษกพรรคก้าวไกล พร้อม น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา รองโฆษกพรรค นายอภิชาติ ศิริสุนทร นายคำพอง เทพาคำ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อเข้าร่วม มีการแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่นบางส่วน ทั้งนี้นายรังสิมันต์กล่าวว่า แคมเปญก้าวไกล NEXT เป็นนโยบายที่พรรคต้องการจัดกิจกรรมเปิดพื้นที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมสร้างพรรค สร้างนักการเมืองตามความต้องการของประชาชน เราเตรียมพร้อมสู่การลงสนามการเลือกตั้งอีกครั้ง พรรคสัญจรมาภาคอีสานที่ จ.ขอนแก่น และ จ.นครราชสีมา ให้ประชาชน ร่วมแสดงความคิดเห็นผ่านทางเพจของพรรคก้าวไกล ร่วมออกแบบการทำงานพื้นที่ ประกวดออกแบบป้ายหาเสียง ก่อนจะมีเวทีใหญ่วันที่ 28 ส.ค.นำไปสู่การเปิดแคมเปญใหญ่ในวันที่ 9 เดือน 9 จ.ขอนแก่นส่งผู้สมัคร ส.ส.ครบทุกเขตแน่นอน