แม่ใจสลาย ลูกชายถูกโจรอ้วนผอมบุกห้องนอน จ่อยิงชิงทอง ดับคาที่นอนต่อหน้าลูกเมีย เผยนาทีระทึก ผู้เสียชีวิตคิดว่าเป็นเพื่อนมาหยอก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (29 ส.ค.) เมื่อเวลา 20.30 น. ตำรวจ สภ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณ ได้รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิต ที่ภายในบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 4 ต.ดอนปรู อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวด้านหน้าเปิดเป็นร้านของชำ ส่วนด้านหลังเป็นห้องนอนและห้องครัว ตรวจสอบภายในห้องนอน พบร่างไร้วิญญาณของ นายวันเฉลิม อายุ 42 ปี ลูกชายเจ้าของบ้านเกิดเหตุถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 มม. เข้าที่บริเวณกกหูขวา กระสุนปืนไปตุงอยู่ที่บริเวณลำคอ 1 นัด สภาพนอนหงายเสียชีวิตอยู่บนที่นอนปิกนิก ที่พื้นภายในห้องนอน เลือดไหลเต็มที่นอนเสียชีวิตคาที่ ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม.ตกอยู่ 2 ปลอกจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า คนร้ายเป็นชายตัวอ้วนร่างใหญ่ กับอีกคนตัวผอม ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อสีและหมายเลขทะเบียน คนร้ายใช้หมวกผ้าคลุมหัวปกปิดใบหน้า บุกเข้ามาภายในบ้านและเดินเข้าไปในห้องนอนของผู้เสียชีวิตแบบไม่สะทกสะท้าน
ระหว่างนั้นผู้เสียชีวิตกำลังนอนพักนอนดูทีวีอยู่อยู่กับภรรยาและลูกชายวัย 6 ขวบ โดยคนร้ายได้มาถามผู้เสียชีวิตว่า “ทองอยู่ไหน” ผู้เสียชีวิตคิดว่าเป็นเพื่อนมาหยอกจึงบอก “กูไม่สบาย กูจะนอน”
จากนั้นคนร้ายจึงใช้ปืนที่ติดตัวมายิงใส่ 2 นัด จนเสียชีวิตคาที่ และได้หยิบสร้อยทองคำหนัก 5 บาทของภรรยา 1เส้น และสร้อยทอง 2 บาทของลูกชายผู้เสียชีวิต 1 เส้น ที่แขวนอยู่ที่หัวเตียงนอนแล้วหลบหนีออกไป
ด้าน ภรรยาผู้ตาย เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุตนอยู่ในห้องนอนรวมกับสามีและลูกชายอยู่ภายในห้องนอนด้วย และได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด และคนร้ายก็ถามว่า “ทองอยู่ไหน” จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนอีก 1 นัด แต่ตนเองสายตาสั้นมองไม่เห็น พอหาแว่นเจอและหันมาดูก็พบสามีถูกยิงเสียชีวิตแล้ว
ด้าน นายกุศ รักสนิท ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 กล่าวว่า ได้รับแจ้งประมาณ 20.30 น. ผู้ตายเป็นคนมีเพื่อนเยอะ ชอบเลี้ยงไก่ชน แม่คนตายโทรมาแจ้ง ร้องไห้บอกให้มาที่ร้านเร็วๆ ลูกตายแล้ว เมื่อมาถึงพบว่ามีของหายเป็นสร้อยทองคำ 2 เส้น รวม 7 บาท ผู้ตายเป็นคนดีกับเพื่อนฝูงและคนในหมู่บ้าน จะคุยดี
จากที่เห็นกล้องวงจรปิดคนร้ายมาด้วยกัน 2 คน เป็นผู้ชายทั้งคู่ ขี่รถจักรยานยนต์มา คนที่มายิงเป็นคนตัวใหญ่ท้วม พอมาถึงก็ยืนคร่อมผู้ตายแล้วเอาปืนจ่อ พอผู้ตายตื่นมาก็พูดว่า “วันนี้กูไม่เล่นกับมึง วันนี้ไม่สบายจะนอน” จากนั้นคนร้ายก็ยิงแล้วก็ถามว่า “ทองอยู่ไหน ให้เอามา” จากนั้นก็หยิบทองไป และยิงซ้ำอีกหนึ่งที อันนี้คือที่ภรรยาเขาเล่าให้ฟัง
ซึ่งภรรยาเขาสายตาสั้น 400 กว่า จึงมองไม่ค่อยเห็นกว่าจะหาแว่นเจอ และคนร้ายทำท่าว่าจะหันปืนมายิงภรรยาเขาด้วยแต่ไม่ได้ยิง ก็ไม่มั่นใจว่าผู้ก่อเหตุเป็นพวกเพื่อนๆ เขาหรือเปล่า เพราะตอนมาถึงเดินเข้าไปตรงดิ่งไปที่ห้องเลยแล้วยิง และในบ้านนี้มีอยู่หลายห้อง น่าจะเป็นคนที่เคยเข้ามา คิดว่าเจตนาที่เอาทองไปเอาไปแค่บังหน้า ทำเหมือนมาปล้นทองซึ่งก็ต้องรอให้ทางตำรวจสืบอีกที
ด้าน นางทองฮวด อายุ 70 ปี แม่ของนายวันเฉลิม กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุเข้าไปที่ครัวกำลังจะทำไก่นึ่ง ทีแรกได้ยินเสียงดังเหมือนอะไรหล่น จากนั้นได้ยินครั้งที่สองก็คิดว่าลูกชายคนโตจุดประทัด เพราะหลานร้องก็ยังเอ็ดว่าจะจุดทำไม จากนั้นก็เดินออกมาจากครัวก็เห็นลูกสะใภ้วิ่งออกมาจากห้อง เข้ามากอดแล้วพูดว่าแม่พี่หารโดนยิง
เราก็ไม่คิดว่าใครจะเข้ามายิง นึกว่าลูกยิงตัวเองเพราะไม่เห็น ซึ่งก่อนจะเดินเข้าไปในครัวก็ยังไปเรียกลูกว่าให้ไปปิดบ้านให้แม่ด้วย แม่จะเข้าไปนึ่งไก่จากนั้นไม่ถึง 10 นาทีลูกก็ถูกยิง ซึ่งเมื่อช่วงเย็นลูกก็ออกไปซื้อของและไปเอาของไหว้ที่บ้านแม่ยาย
ซึ่งตอนเช้าลูกบอกว่าวันนี้ไม่สบายให้แม่ไปซื้อของมาไว้เจ้าด้วยนะ แต่ไปซื้อแล้วในตอนเช้าได้ของไม่ครบ ตอนเย็นเขาก็ไปด้วยกัน 3 คนพ่อแม่ลูกไปซื้อของมาเพิ่ม จากนั้นเขาก็กินยาแล้วก็นอนอยู่ในห้องกับลูกเมียก็อยู่ด้วยในห้อง ซึ่งปกติถ้าคนอื่นมาหาก็จะมาบอกให้เรียกให้ ถ้าว่างจากขายของเขาก็จะเลี้ยงไก่ชนขาย
ก่อนหน้านี้ เขาก็ไม่เคยเล่าให้ฟังว่ามีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใคร พี่น้องน้องชาวบ้านแถวนี้เขาก็รักกันดี ซึ่งก็ไม่คิดว่าลูกจะมีอะไรกับใคร ที่มันจะร้ายแรงถึงขนาดนี้ เพราะลูกมีแต่คนรัก ไม่สันนิษฐานอะไรเลยเพราะไม่คิดว่าจะมีคนคิดร้ายกับลูกขนาดนี้
อยากให้ตำรวจรีบจับคนร้ายให้ได้ เพราะอยากรู้ว่าที่ทำไปเพื่ออะไร อยากได้อะไรก็เอาไปเลย ขอแค่เรื่องอย่าเอาชีวิต ถ้าจับคนร้ายได้จะไม่เอาโหสิกรรมให้ ใครทั้งสิ้น อยากถามว่าทำเพื่ออะไรอยากได้อะไรก็เอาไป ไม่เสียดายเลย
คนที่ยิงถามลูกสะใภ้ว่าทองอยู่ไหน ถ้าเอาของนอกกายไปจะไม่เสียใจเลย อยากได้เอาไปเลย มาขอดีดีก็ให้เลย อย่ามาทำร้ายมาฆ่า มาแกง กันแบบนี้ เปิดร้านมา 20 ปีไม่เคยเกิดเหตุร้ายอะไรเลย
ด้าน ตำรวจ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆในหมู่บ้านที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไปพร้อมกันนี้ก็ได้ให้กู้ภัยส่งร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวช
ส่วนสาเหตุเบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นความขัดแย้งส่วนตัว เพราะผู้ตายเป็นคนกว้างขวางในพื้นที่ และเป็นที่รักใคร่ของคนในพื้นที่ ซึ่งต้องรอผลการสืบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง
