“โจ ไบเดน” เล่นใหญ่! เยือนเบลเยียม ถกG7 บินเข้าโปแลนด์ ขอแรงหนุนยูเครน

ทัพรัสเซียรุกหนักระดมจรวด-ขีปนาวุธจากกองเรือทะเลดำถล่ม ศูนย์ฝึกนักรบอาสา-ย่านการค้า ห้าง “เรโทรวิลล์” กลางกรุงเคียฟไม่เหลือสภาพ ทหารยูเครนยืนกรานไม่ยอมจำนนทิ้งเมืองท่า “มาริอูโปล” ยังไร้วี่แววชะตากรรม 400 ชีวิตใต้ซากโรงเรียนหลบภัย “เซเลนสกี” ครวญไม่เลิกอยากได้ความชัดเจน ตัดพ้อนาโตอ้าแขนรับแต่แรกสงครามคงไม่เกิด ตุรกีตัวกลางเจรจาเผย 2 ฝ่ายใกล้บรรลุข้อตกลง ลุ้นผู้นำจับเข่าคุยหยุดยิงหย่าศึกถาวร อียูจ่อคว่ำบาตรเพิ่มงดนำเข้าน้ำมันรัสเซีย “โจ ไบเดน” เล่นใหญ่เยือนเบลเยียมถกจี 7 บินเข้าโปแลนด์ขอแรงหนุนยูเครน

วันที่ 26 สำหรับโศกนาฏกรรมสงครามยูเครน-รัสเซีย ที่ยังมิอาจสรุปผล กองทัพรัสเซียยังเดินหน้ารุกคืบพร้อมยกระดับการยิงถล่มด้วยจรวดและขีปนาวุธ กองทัพยูเครนประกาศไม่วางอาวุธขอสู้ตายในเมืองที่ถูกปิดล้อม ขณะที่สหภาพยุโรปหารือยกระดับคว่ำบาตรรัสเซีย มองความเป็นไปได้ที่จะตัดใจ ระงับการนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย ปูทางก่อนหารือประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้า เมื่อวันที่ 21 มี.ค. กองทัพรัสเซียเปิดวันใหม่ด้วยการระดมยิงจรวดร่อนและขีปนาวุธอานุภาพแรงสูง โจมตีพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศยูเครน มีรายงานว่าพื้นที่เมืองริฟเน ทางภาคตะวันตก ห่างจากกรุงเคียฟไปประมาณ 300 กิโลเมตร ถูกโจมตีด้วยจรวดร่อนจากกองเรือทะเลดำ โฆษกกองทัพรัสเซียยืนยันการโจมตีดังกล่าว มีเป้าหมายคือศูนย์ฝึกทหารอาสาต่างชาติ พร้อมอ้างว่า การโจมตีศูนย์รวมพลทหารอาสาต่างชาติในพื้นที่กรุงเคียฟวันก่อน มีผู้เสียชีวิตกว่า 100 คน

ขณะที่ในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน มีรายงานถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธอานุภาพรุนแรง จากภาพกล้องวงจรปิดที่ถูกนำมาเผยแพร่พบว่า ขีปนาวุธได้ตกลงในย่านธุรกิจการค้า แรงระเบิดส่งผลให้ฟ้าสว่างวาบชั่วขณะ ก่อนตามมาด้วยแรงอัดกระแทกจนกล้องวงจรปิดบิดเบี้ยว ต่อมาหน่วยกู้ภัยระบุว่า แรงระเบิดได้ทำให้ห้างสรรพสินค้าเรโทรวิลล์ไฟไหม้เสียหายหนัก พื้นที่ช็อปปิ้งเซ็นเตอร์พังถล่ม ตัวอาคาร 10 ชั้นที่เช่าเป็นสำนักงานเสียหาย กระจกแตกกระจุยจนสภาพเหมือนยังก่อสร้างไม่เสร็จ เช่นเดียวกับลานจอดรถที่ไม่เหลือสภาพ รถยนต์ในพื้นที่พังยับทุกคัน เบื้องต้นค้นพบผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ศพ และอาจเพิ่มขึ้น

ด้านสถานการณ์ในเมืองท่ามาริอูโปล จุดยุทธ ศาสตร์ทางภาคใต้ของยูเครน ที่รัสเซียปิดล้อมค่อยๆ คืบคลานยึดครองย่านต่างๆในตัวเมืองไปทีละนิดมาตั้งแต่ช่วงสงครามนั้น กองทัพรัสเซียประกาศเตือนหน่วยรบของยูเครนที่ยังคงปักหลักต่อสู้ ให้วางอาวุธถึงจะได้รับอนุญาตให้อพยพออกจากตัวเมืองไปพร้อมๆกับชาวบ้าน หากปฏิเสธไม่รับฟังคำเตือนจะดำเนินการต่อไป และหน่วยงานเทศบาลท้องถิ่นจะต้องเผชิญกับศาลทหาร แต่หลังคำประกาศไม่ถึงชั่วโมง นางอีรีนา เวเรชุค รองนายกรัฐมนตรียูเครน แถลงตอบโต้ว่า ยูเครนไม่เจรจาเรื่องการยอมจำนน เรื่องการวางอาวุธ และได้แจ้งให้ฝ่ายรัสเซียทราบแล้ว ขอมองว่ารัสเซียควรเปิดช่องทางด้านมนุษยธรรมดีกว่ามาประกาศกร้าวเช่นนี้

รัฐบาลยูเครนยังเปิดเผยด้วยว่า เมื่อ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา มีชาวเมืองมาริอูโปลอพยพออกจากพื้นที่ได้ประมาณ 4,000 คน แต่ไม่ได้รายงานถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือชาวบ้านที่อาจติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของโรงละครและโรงเรียนในเมืองมาริอูโปลที่ถูกกองทัพรัสเซียทิ้งระเบิดใส่ หลังเทศบาลเมืองมาริอูโปลอ้างว่า โรงละครมีชาวบ้านหลบภัยอยู่กว่า 130 คน ขณะที่โรงเรียนมีชาวบ้านหลบภัยอยู่กว่า 400 คน ต่อมารองนายกฯยูเครนยังเผยด้วยว่า มีการตกลงกับกองทัพรัสเซียเรื่องการเปิดช่องทางด้านมนุษยธรรมให้ชาวบ้านหลบหนีออกจากพื้นที่สงครามตามเมืองต่างๆ เป็นจำนวน 8 ช่องทาง แต่การเปิดช่องทางเมืองมาริอูโปล ไม่ได้รับอนุญาต ส่วนนายดมิโทร กูริน ส.ส.จากเมืองมาริอูโปล มองว่า กองทัพรัสเซียกำลังพยายามให้เมืองอดตาย

ขณะที่นายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น สหรัฐฯว่า หากยูเครนได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) หรือนาโต ตั้งแต่แรกสงครามก็คงไม่เกิด ตอนนี้ยูเครนอยากได้ความชัดเจนจากนาโตว่าจะรับหรือไม่รับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก ไม่เอาแบบตอนนี้ที่มากล่าวว่าไม่มีทางที่ยูเครนจะได้เข้าร่วมนาโตหรอก แต่วันข้างหน้าก็ไม่แน่

ส่วนนายเมฟลุต คาวูโซกลู รมว.ต่างประเทศตุรกี เผยว่า ทั้งรัฐบาลรัสเซียและยูเครน ใกล้ที่จะตกลงกันได้แล้ว ในประเด็นที่มีความสำคัญ ยกเว้นแต่จะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งดันตัดสินใจก้าวถอยหลัง และต่อมานายอิบราฮิม คาลิน ที่ปรึกษาประธานาธิบดีตุรกี ยังกล่าวด้วยว่า ประเด็นที่ดูมีความเป็นไปได้คือ การคุ้มครองภาษารัสเซียในยูเครน การลดกำลังทหารยูเครน การสาบานว่าจะไม่เข้าร่วมองค์การนาโต แต่ในประเด็นข้อตกลงหยุดยิงถาวร ต้องมาจากการที่นายเซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้เข้าหารือกับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เท่านั้น

วันเดียวกัน ชาติสมาชิกสหภาพยุโรปจัดประชุมหารือเรื่องหนทางคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม อาจรวมถึงการเล่นงานอุตสาหกรรมด้านพลังงานของรัสเซีย โดยเฉพาะน้ำมันที่เป็นรายได้สำคัญของรัสเซีย แหล่งข่าวในสหภาพยุโรปเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ท่าทีจากชาติคาบสมุทรบอลติกอย่างลิทัวเนีย รวมถึงไอร์แลนด์ต้องการให้ยุโรประงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย แต่เยอรมนีพึ่งพาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติส่วนใหญ่จากรัสเซีย อยากให้คิดให้ถี่ถ้วน เนื่องจากราคาน้ำมันในยุโรปขณะนี้สูงเกินไปแล้ว

การประชุมดังกล่าวมีขึ้นก่อนชาติยุโรปจะให้การต้อนรับนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะเดินทางมาร่วมการประชุมกลุ่มชาติอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศหรือจี 7 รวมถึงประชุมกับชาติสมาชิกนาโต ที่กรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม วันที่ 24 มี.ค. ขณะที่นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวสหรัฐฯ เผยด้วยว่า นายไบเดนยังมีกำหนดการเยือนโปแลนด์ ประเทศเพื่อนบ้านของยูเครน ในวันที่ 25 มี.ค. เพื่อขอแรงสนับสนุนเพิ่มเติมในการช่วยเหลือยูเครน แต่ยืนยันว่านายไบเดนจะไม่เดินทางไปยูเครน ทั้งนี้ สื่อเอเอฟพีรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้รัฐบาลสหรัฐฯมีความไม่พอใจชาติสมาชิกนาโตและโปแลนด์ ที่เสนอแผนแบบไม่ทันตั้งตัวว่าจะมอบเครื่องบินขับไล่มิค-29 ของโปแลนด์ให้กองทัพสหรัฐฯเพื่อให้สหรัฐฯเอาไปส่งต่อให้กองทัพยูเครนอีกทอดหนึ่ง