ไทยเจอเพิ่ม! ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ “โอมิครอน” 8 คน พบ! เพิ่งกลับจากแสวงบุญฯ “ซาอุดีอาระเบีย” ลงภูเก็ต 1 สุวรรณภูมิ 7

ไทยเจอเพิ่ม ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน พบเป็นคนไทยเพิ่งกลับจากแสวงบุญฯที่ซาอุดีอาระเบีย เดินทางเข้าประเทศที่ภูเก็ต 1 คน ส่วนที่ปรึกษาจุฬา ราชมนตรี ระบุมาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ 7 คน ด้านรอง สสจ.นนทบุรี ยืนยันผลตรวจ 6 คน รอลุ้นอีก 2 พร้อมย้ำยังเป็นการติดเชื้อมาจากนอกประเทศ วอนประชาชนอย่าตระหนก ให้ติดตามสถานการณ์จากภาครัฐ ขณะที่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศลดต่ำกว่า 3 พันคน ตายเพิ่มอีก 22 ศพ กรมควบคุมโรคเตรียมประเมินสถานการณ์การระบาดใหม่ ด้านปลัด สธ.สั่ง สสจ.คุมเข้มการจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม ยกกรณีคอนเสิร์ตงานช้างสุรินทร์ที่พบคนเบียดเสียดชมการแสดงแน่นขนัด ให้อำนาจ คกก.โรคติดต่อจังหวัดสั่งยุติกิจกรรมได้ทันที

แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศลดลงต่อเนื่อง แต่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน จากผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น

ติดเชื้อในประเทศ 2.8 พันคน

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.เผยแพร่ข้อมูลสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,899 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,824 คน จากเรือนจำ 21 คน เป็นผู้เดินทางจากต่างประเทศ 54 คน ได้แก่มาจากประเทศซาอุดีอาระเบีย 14 คน สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ประเทศละ 8 คน จากประเทศเนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย ไอร์แลนด์ โปแลนด์ ไนจีเรีย และเคนยา ประเทศละ 1 คน จากรัสเซีย ฝรั่งเศส สวีเดน เดนมาร์ก แคนาดา และลาว ประเทศละ 2 คน ขณะที่มีมาทางด่านพรมแดนทางบก จากกัมพูชา 2 คน และมาเลเซีย 4 คน

3 จังหวัดไร้ผู้ติดเชื้อ

ขณะที่มีผู้หายป่วยเพิ่มขึ้น 4,389 คน อยู่ระหว่างรักษา 41,793 คน อาการหนัก 928 คน ใส่ท่อช่วยหายใจ 249 คน เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 22 คน เป็นชาย 7 คน หญิง 15 คน โดยผู้เสียชีวิตทั้งหมดมีอายุ 60 ปีขึ้นไป 18 คน คิดเป็นร้อยละ 82 มีโรคเรื้อรัง 3 คน สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดได้แก่ กทม. 395 คน ชลบุรี 197 คน นครศรีธรรมราช 185 คน สมุทรปราการ 133 คน ขอนแก่น 115 คน สงขลา 97 คน กระบี่ 86 คน ราชบุรี 73 คน สุราษฎร์ธานี 72 คน และอยุธยา 65 คน ส่วนจังหวัดที่ไม่มีผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่ม มี 3 จังหวัด ได้แก่ อำนาจเจริญ มุกดาหาร และมหาสารคาม ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,191,628 คน หายป่วยสะสม 2,128,358 คน ผู้เสียชีวิตสะสม 21,377 คน ขณะที่สถานการณ์โลก มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 274,536,717 คน รักษาหายสะสม 246,334,110 คน และเสียชีวิตสะสม 5,366,516 คน ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ลำดับ 24 ของโลก

ฉีดวัคซีนเพิ่มกว่า 3.7 แสนโดส

ส่วนยอดฉีดวัคซีนเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ได้เพิ่มอีก 376,281 โดส รวมสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. 99,761,523 โดส แยกเป็นเข็มแรก 50,527,954 ราย คิดเป็นร้อยละ 70.1 ของประชากร เข็มที่สอง 44,332,226 ราย คิดเป็นร้อยละ 61.5 ของประชากร เข็มที่สาม 4,901,343 ราย คิดเป็นร้อยละ 6.8 ของประชากร

กทม.ปักเข็ม 2 ครอบคลุมขึ้น

ด้าน พญ.ป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผอ.สำนักอนามัย กทม. เปิดเผยว่า จากข้อมูลผู้ได้รับวัคซีนสะสมใน กทม. จากฐานข้อมูลหมอพร้อม ณ วันที่ 16 ธ.ค. เวลา 16.00 น. ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. มีผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้ว แบ่งเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็ม 1 จำนวน 9,200,433 คน คิดเป็นร้อยละ 119.50 ผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม 8,203,841 คน คิดเป็นร้อยละ 106.55 มีผู้ได้รับวัคซีนเข็ม 3 จำนวน 1,281,413 คน คิดเป็นร้อยละ 16.64 จากจำนวนประชากรใน กทม.7,699,174 คน พบว่ามีความครอบคลุมการได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะเข็มที่ 2

คนไทยติดโอมิครอนเพิ่ม

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นพ.กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ว่า ตรวจพบผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศผ่านสนามบินนานาชาติภูเก็ตติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เบื้องต้นรวม 5 คน โดยคนแรกเป็นคนไทย ชาวจังหวัดปัตตานีที่เดินทางไปอุมเราะห์ ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยเที่ยวบินดังกล่าวมีผู้เดินทางมารวมทั้งสิ้น 137 คน ในจำนวนนี้มี 5 คน ตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่วันแรกที่เดินทางมาถึงสนามบินภูเก็ต และจากการส่งตรวจหาสายพันธุ์มีการแจ้งผลการตรวจเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. พบว่าในจำนวนนี้มี 1 คน เป็นผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน ปัจจุบันผู้ป่วยคนดังกล่าวถูกส่งตัวไปรับการรักษาต่อยังโรงพยาบาลโคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข

ยันอยู่ภายใต้มาตรการเข้มงวด

นพ.กู้ศักดิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้แสวงบุญอุมเราะห์ไทยคณะนี้ได้มีการตรวจ RT-PCR ที่ประเทศซาอุดีอาระเบียก่อนเดินทางกลับมายังประเทศไทย และได้ตรวจหาเชื้อตามมาตรการของจังหวัดภูเก็ตอีกครั้งที่สนามบินภูเก็ต โดยเข้าสู่ประเทศไทยผ่านโครงการ “Test&Go” เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตรวจพบผู้ติดเชื้อ 5 คน กักตัวและเข้ารับการรักษาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต อยู่ในความดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิดตลอดระยะเวลาที่อยู่ภูเก็ต เป็นเวลา 5 วัน และเนื่องจากทั้ง 5 คน เป็นกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว ที่ไม่มีอาการ จึงได้ขอเดินทางกลับไปรักษาในพื้นที่ชายแดนใต้ สสจ.ภูเก็ตประสานกับจังหวัดปลายทาง ให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้ได้กลับไปรักษาภายใต้การดูแลจากทีมแพทย์ตามมาตรการระดับจังหวัดอย่างเข้มงวด ต่อมาในวันที่ 17 ธ.ค.ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ภูเก็ตว่า 1 ใน 5 คน เป็นผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน หลังจากที่ได้เดินทางกลับไปรักษาตัวในพื้นที่แล้ว ส่วนผู้ที่ไม่ใช่ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและมีผลเป็นลบ ได้เดินทางกลับไปยังจังหวัดปลายทางแล้วทั้งหมดเช่นกัน

เจอ 4 ต่างชาติติดโอมิครอน

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตกล่าวอีกว่า นอกจากนี้เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ยังมีรายงานผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาระหว่างวันที่ 13-14 ธ.ค.ที่ผ่านมา จาก 4 สายการบิน พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน สายการบินละ 1 คน รวมทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วยชายอายุ 31 ปี สัญชาติอเมริกัน ต้นทางอังกฤษ-ภูเก็ต (Test&Go) ชายอายุ 36 ปี สัญชาติสวีเดน ต้นทางสวีเดน-ภูเก็ต (Test&Go) ชายอายุ 32 ปี สัญชาติตูนิเซีย ต้นทางฝรั่งเศส-ภูเก็ต (Test&Go) และหญิงอายุ 24 ปี สัญชาติเยอรมัน ต้นทางอังกฤษ-ภูเก็ต ขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษาตัวในโรงพยาบาลของภูเก็ต ส่วนกลุ่มเสี่ยงประมาณ 20 คน มีการกักตัวและติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ การตรวจพบผู้ติดเชื้อดังกล่าวเป็นการตรวจพบตั้งแต่วันแรกที่เดินทางมาถึงสนามบินภูเก็ต ดังนั้น ทั้งหมดจึงเข้าสู่กระบวนการรักษาตั้งแต่วันแรกที่มาถึง ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก

ย้ำไม่ใช่ติดเชื้อภายในจังหวัด

ด้านนายแพทย์อนุรักษ์ สารภาพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี ยืนยันเช่นกันว่าพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอน 1 คน เป็นคณะอุมเราะห์ กลับจากประเทศซาอุดีอาระเบีย ลงเครื่องที่ จ.ภูเก็ต และเข้าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ พบผู้ติดเชื้อ 5 คน โดย 1 คนติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ส่วนอีก 4 คนติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา ผู้ติดเชื้อทุกคนอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิดตลอดเวลาที่อยู่จังหวัดภูเก็ต รวมทั้งไม่มีอาการ แต่ได้กักตัว 5 วัน และเดินทางกลับมาในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ภายใต้การดูแลจากทีมแพทย์ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่วางมาตรการในการรักษาและป้องกันอย่างเข้มงวดรัดกุม ในกรณีนี้ไม่ถือเป็นการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในจังหวัดปัตตานี แต่เป็นการพบเชื้อจากการเดินทางเข้าประเทศ จากจุดคัดกรองด่านเข้าประเทศ จึงไม่อยากให้คนปัตตานีตื่นตระหนกกับกระแสข่าวนี้ และขอให้ประชาชนมาฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 เพื่อป้องกันอาการป่วยรุนแรงจากโอมิครอน

กลุ่มแสวงบุญติดเพิ่มอีก 7

จากนั้นนายปรีดา เชื้อผู้ดี ที่ปรึกษาจุฬาราช มนตรี อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้พบผู้ที่เดินทางกลับจากการแสวงบุญที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนแล้ว 7 คนและกลุ่มเสี่ยงสูงอีก 6 คน ทั้งหมดเป็นผู้ที่เดินทางไปแสวงบุญที่นครเมกกะ ลงเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ วันที่ 15 ธ.ค.จากนั้นคณะทั้งหมดเข้ากักตัวที่โรงแรมย่านรามคำแหง ต่อมาแพทย์จาก รพ.วิภาราม มาตรวจหาเชื้อให้กับคณะทั้งหมดที่โรงแรม ผลตรวจออกมาเวลา 21.00 น. ของวันที่ 15 ธ.ค.พบติดเชื้อโควิด 6 คน ต่อมาพบเพิ่มอีก 1 คน รวมเป็น 7 คน และมีกลุ่มผู้เสี่ยงสูงอีก 6 คน และยังพบว่ามีบางคนติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาด้วย

หลานที่ปรึกษาจุฬาฯไม่รอด

นายปรีดากล่าวอีกว่า ทั้งหมดที่บินมาเที่ยวนี้มี 30 กว่าคน เดินทางไปแสวงบุญเล็กที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย จากนั้นแวะที่กาตาร์ และเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ประมาณเวลา 12.00 น. วันที่ 15 ธ.ค.เข้ากักตัวที่โรงแรมทันที หลายคนเริ่มมีอาการตั้งแต่อยู่ซาอุดีอาระเบียแล้ว มีตัวร้อนและไข้ขึ้น โดยมาจากหลายพื้นที่ทั้ง จ.นนทบุรี จ.พระนครศรี อยุธยา และอีกหลายที่ ผลตรวจพบว่าติดเชื้อโควิค-19 สายพันธุ์โอมิครอนชัวร์ๆแล้ว 7 คน และพบผู้สัมผัสใกล้ชิดอีก 6 คน นอกจากนี้ ในกลุ่มที่ติดเชื้อมีหลานสาว อายุ 22 ปีรวมอยู่ด้วย ขณะนี้ทั้งหมดรักษาตัวอยู่ที่โรงแรมที่มีคอนเนกชันกับโรงพยาบาลในการรักษา โดยถูกสั่งห้ามออกจากห้องพักภายในโรงแรมโดยเด็ดขาดเพราะเชื้อตัวนี้ติดเร็วมาก

รอง สสจ.นนท์เตือนอย่าตระหนก

ต่อมาช่วงค่ำผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.สฤษดิ์เดช เจริญไชย รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นนทบุรี ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวรายงานการสอบสวนโรคเบื้องต้น กรณีพบชาวนนทบุรีติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ โอมิครอนว่า วันพุธที่ 15 ธ.ค. เวลา 12.45 น.คณะ ผู้แสวงบุญที่ซาอุดีอาระเบียของ ต.ท่าอิฐ ประมาณ 21 คนมาถึงสนามบิน ทั้งคณะเข้าพักที่ Zayn Hotel Bangkok ศรีนครินทร์ 1 คืน พบเชื้อ 14 คน เป็นเชื้อ Omicron 6 คน เป็นเชื้ออื่น (Delta 8 คน) รักษาที่ Hospitel รพ.วิภาราม รามคำแหง จากการสอบสวนโรค โดยการติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงใน ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จำนวน 7 คน พบว่ามี ATK+ 2 คน ส่งเข้ารักษาตัว รพ.สหวิทยามะลิ เครือข่าย รพ.วิภาราม ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 5 คน ส่งเข้ากักตัวที่ LQ วทก.ไทรน้อย และผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 2 คนของผู้ป่วยที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกลุ่มแรกที่กลับมาในจังหวัด ส่งเข้ากักตัวที่ LQ วทก.ไทรน้อย รวมคงเหลือผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่อยู่ในพื้นที่ 7 คน สิ่งที่ขอความร่วมมือ จากประชาชน 1.อย่าตระหนก แต่ขอให้ติดตามสถานการณ์จากทางภาครัฐ และ จ.นนทบุรี ขณะนี้ยังเป็นการติดเชื้อจากภายนอกประเทศ และนำผู้สัมผัสเสี่ยงสูงไปกักตัวที่ LQ 2.ประชาชนในพื้นที่ท่าอิฐ ขอให้เฝ้าระวังอาการ หากมีอาการติดเชื้อทางเดินหายใจ ขอให้ไปตรวจ ATK และเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง หากพบผู้มีความเสี่ยงดังกล่าว ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทราบ 3.ประชาชนทั่วไป ขอให้ป้องกันตัวตามมาตรการแบบครอบจักรวาล (Universal Protection) รีบไปฉีดวัคซีน เข็ม 3 ตามที่มีการจัดฉีด ทั้ง รพ.และศูนย์ฉีด หรือเข็ม 1 หากยังไม่ได้รับ

เตรียมแบบจำลองการระบาดใหม่

ส่วนที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์ กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทยว่า ถือว่าสถานการณ์ดี แต่ขณะนี้ใกล้ถึงเทศกาลปีใหม่ คนจะออกมาทำกิจกรรมกันมากขึ้น ดังนั้น ความเสี่ยงและตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้น ส่วนการประเมินสถานการณ์ ไม่ได้ดูที่ตัวเลขผู้ติดเชื้ออย่างเดียว แต่จะพิจารณาถึงศักยภาพของโรงพยาบาลในการรองรับผู้ป่วยอาการ หนัก ระบบสาธารณสุขในการรองรับผู้ป่วยอาการไม่หนัก และอัตราการเสียชีวิตที่ไม่สูงมาก หากเห็นภาพเตียงเต็ม ไอซียูเต็ม คงรับไม่ได้ เรื่องนี้กรมควบคุมโรคกำลังทำแบบสอบถามอยู่ รวมทั้งกำลัง รวบรวมตัวแปรต่างๆ เพื่อคำนวณการระบาดรอบใหม่หลังปีใหม่ และคาดการณ์แบบจำลองการระบาดใหม่ เพื่อให้ประชาชนเห็นภาพจะได้ระวังตัว คาดว่า สัปดาห์หน้าจะเสร็จ

ห่วงคนไข้ล้น รพ.

สถานการณ์การติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนในประเทศไทยนั้น นพ.โอภาสกล่าวว่า ขณะนี้สายพันธุ์โอมิครอนกระจายไปทั่วโลก ดังนั้น โอกาสจะเจอในไทยเป็นไปได้มากขึ้น เพราะมีคนเดินทางเข้าไทยมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เราตรวจจับได้ เป็นการพบเชื้อจากการนำเข้าจากต่างประเทศ และเราควบคุมไม่ให้เกิดระบาดวงกว้าง ส่วนมาตรการหากพบโอมิครอนก็เหมือนสายพันธุ์อื่น ถ้าไม่รุนแรงมาก คนไข้ไม่ล้นโรงพยาบาล ยอมรับได้ แต่ที่เรากังวลคือเรื่องคนไข้ล้นโรงพยาบาล และไอซียูรักษาไม่ไหว ส่วนกิจการต่างๆเป็นที่น่าสังเกตได้ว่า หลายประเทศไม่ได้ปิดประเทศแล้ว ส่วนประเทศที่เคยปิดก็กลับมาเปิดแล้ว เพราะเชื่อว่ามาตรการปิดประเทศไม่ส่งผลดี จะปิดประเทศร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ได้ แต่เปิดหมดก็ไม่ได้เช่นกัน ดังนั้น มาตรการสำคัญคือการฉีดวัคซีนป้องกัน รวมถึงเข็ม 3 และมาตรการโควิดฟรีเซตติ้ง

เสนอตรวจ ATK คนขึ้นรถสาธารณะ

นพ.โอภาสกล่าวด้วยว่า การเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของประชาชน กระทรวงสาธารณสุขมีคำแนะนำมาตรการความปลอดภัย เช่น การตรวจ ATK ก่อนเข้าพื้นที่ หรือกรณีขนส่งสาธารณะที่ใช้เวลาเดินทางนานมากกว่า 4 ชั่วโมงขึ้นไป กระทรวงสาธารณสุขกำลังประสานกับกระทรวงคมนาคมว่า ควรมีการตรวจ ATK ผู้โดยสารก่อนขึ้นรถทุกคน และตรวจใบรับรองการฉีดวัคซีน ส่วนพนักงานมีข้อกำหนดอยู่แล้วว่าต้องตรวจทุกคน แต่คงไม่สามารถกำหนดว่าให้จำกัดเฉพาะผู้รับวัคซีนเท่านั้น เพราะหากภาครัฐกำหนดจะทำให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติ แต่หากภาคเอกชนดำเนินการเอง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าคนอื่นๆ ขณะที่ภาครัฐให้การสนับสนุน เช่น ชุดตรวจ ATK จะดำเนินการได้ง่ายกว่า และขณะนี้ทั้งการฉีดวัคซีนและการตรวจ ATK ก่อนเข้ารับบริการ ได้รับการยอมรับจากประชาชนมากขึ้นแล้ว

เตรียมแถลงพบโอมิครอนเพิ่ม

ขณะที่ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยา ศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 20 ธ.ค. กรมวิทยาศาสตร์ฯจะแถลงข่าวชี้แจงกรณีการพบเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนจากคณะแสวงบุญที่เดินทางกลับจากประเทศซาอุดีอาระเบีย ในพื้นที่ อบต.ท่าอิฐ จ.นนทบุรี และที่ตรวจพบจากระบบแซนด์บ็อกซ์ใน จ.ภูเก็ต โดยก่อนหน้านี้ไทยพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนแล้ว 14 คน ยืนยันยังไม่พบการติดเชื้อในประเทศ แต่คาดว่าอีกไม่นานก็จะติดเชื้อในประเทศได้

สั่ง สสจ.เข้มกิจกรรมรวมกลุ่ม

สำหรับกรณีการจัดคอนเสิร์ตในงานช้างแฟร์ จ.สุรินทร์ ประจำปี 2564 ที่พบว่ามีผู้เข้าร่วมงานจำนวนมาก และเบียดเสียดกันในงาน เสี่ยงต่อการระบาดของโรคโควิด-19 นั้น นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุรินทร์ สั่งงดการจัดงานเป็นเวลา 2 วัน เพื่อให้ผู้จัดงานปรับปรุงการเข้าร่วมงานให้เป็นไปตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข และกำชับให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สุรินทร์ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ให้ผู้จัดงานปฏิบัติตามมาตรการโควิดฟรีเซตติ้งอย่างเคร่งครัด หากไม่สามารถปฏิบัติได้ก็ให้ยุติการจัดงาน นอกจากนี้ ยังได้กำชับหน่วยงานสาธารณสุขทุกจังหวัดให้ใช้กรณีจังหวัดสุรินทร์เป็นตัวอย่าง หากพบกิจกรรมใดไม่เป็นไปตามมาตรการสาธารณสุข และทำให้เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้เสนอความเห็นต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เพื่อพิจารณาสั่งปรับปรุงหรือยุติกิจกรรมนั้นทันที

ผู้ค้าโอดคำสั่งงดคอนเสิร์ต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 19 ธ.ค. สสจ.สุรินทร์ และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ เดินทางมาตรวจสอบการปรับปรุงแก้ไขตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ในลานเวทีคอนเสิร์ตช้างแฟร์ ที่สนามแสดงช้าง สนามกีฬาศรีณรงค์ อ.เมือง โดยให้ผู้จัดงานช้างแฟร์ปรับปรุงตามแนวทางโควิดฟรีเซตติ้งอย่างเคร่งครัด กำหนดให้มีผู้เข้า 1 คนต่อ 4 ตารางเมตร ทั้งนี้ สสจ.สุรินทร์และคณะฯ จะประเมินเพื่อเสนอต่อ ผวจ.สุรินทร์อีกครั้งในวันรุ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลจากที่คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อฯ มีคำสั่งให้งดจัดคอนเสิร์ตเป็นเวลา 2 วันคือคืนวันที่ 18-19 ธ.ค. ทำให้ที่บริเวณลานเวทีคอนเสิร์ต เมื่อค่ำวันที่ 18 ธ.ค. แม้ผู้จัดได้จัดเก้าอี้ให้นั่งเว้นระยะห่าง จัดโซนนิ่ง และแผงเหล็กกั้นเป็นช่อง แต่ก็ต้องงดจัดงานกะทันหัน ทำให้พ่อค้าแม่ค้าที่ขายของอยู่ภายในงานลานเวทีคอนเสิร์ต ต้องปิดร้าน บางรายที่สั่งของมาขายต้องนำมาวางขายข้างนอกประตูทางเข้า และต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าเพิ่งรู้ว่างดการแสดงคอนเสิร์ตในช่วงเย็น จึงเตรียมตัวไม่ทัน ต้องปิดร้านค้าทั้งที่เสียค่าเช่าล็อกไปแล้ว 6 พัน-1 หมื่นบาท ยังไม่รู้จะกลับมาเปิดได้อีกเมื่อใด จึงอยากให้ผู้เข้ามาชมคอนเสิร์ตช่วยทำตามที่เขาบอก มิเช่นนั้นจะกระทบถึงการมาเที่ยวอีก

นายกฯสั่งเร่งเข็ม 3 เร็วกว่านี้

อีกด้านหนึ่งที่อินดอร์สเตเดียม (ชาติชายฮอลล์) จ.นครราชสีมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวกับสมาชิกพรรคภูมิใจไทยระหว่างการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคภูมิใจไทยตอนหนึ่งว่าเข้ามาบริหารกระทรวงสาธารณสุขเจอสถานการณ์โควิด-19 ก็ใช้สถานการณ์นี้ขอความร่วมมือจากประชาชน และบุคลากรทางการแพทย์ ทำให้ผู้ติดเชื้อในประเทศอยู่ภายใต้การควบคุมได้ มีอัตราการเสียชีวิตน้อยกว่าอัตราค่าเฉลี่ยของโลกถึง 1 เท่าตัว ลดการสูญเสีย เพราะมีระบบสาธารณสุขดี ประเทศจะก้าวหน้าไม่ได้ ถ้าประชาชนสุขภาพไม่ดี เราทำทุกทางจัดหาสิ่งที่เป็นประโยชน์ ทั้งวัคซีน ยารักษาโรค และการบริการต่างๆ เพื่อยุติวิกฤติโควิด วันนี้ประชาชนรับวัคซีนแล้ว 100 ล้านโดส นี่คือคำว่าวัคซีนเต็มแขน ส่วนปีหน้าประชาชนจะได้รับวัคซีนบูสเตอร์จนกว่าโควิด-19 จะหายไป วันนี้ประชาชน 6 ล้านคน ได้เข็ม 3 แล้ว ต่อไปต้องทำให้ทั้ง 70 ล้านคนต้องได้รับเข็ม 3 ขณะที่หลายประเทศยังฉีดเข็ม 2 อยู่ โดยนายกฯสั่งการมาทางไลน์ของตนให้เร่งฉีดวัคซีนเข็ม 3 เร็วกว่านี้

โควิดเชียงใหม่ดุ 7 วันดับ 19 ศพ

ด้าน จ.เชียงใหม่ พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 78 คน เป็นตัวเลขต่ำกว่า 100 ราย ติดต่อกันเป็นวันที่ 11 แต่ยังสวนทางกับตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ยังน่าเป็นห่วง โดยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตรวม 19 ศพ เฉลี่ยวันละ 2-4 ศพ เกือบทั้งหมดเป็นผู้สูงอายุ ติดเชื้อจากคนในครอบครัว และไม่ได้ฉีดวัคซีน และในวันที่ 19 ธ.ค.พบเสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ศพ รวมเสียชีวิตสะสมแล้ว 169 ศพ ผู้ติดเชื้อใหม่ที่พบส่วนใหญ่ติดเชื้อจากคลัสเตอร์ที่ยังคงมีการระบาดต่อเนื่องและคลัสเตอร์เดิมที่อยู่ระหว่างการควบคุมโรคที่กระจายอยู่ในหลายอำเภอ ขณะที่คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดประกาศพื้นที่เสี่ยงเพิ่ม 3 พื้นที่ ได้แก่ รถขนส่งมวลชน สาย 4 (เบอร์ 29) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ห้องเย็นปรมีเชียงใหม่ ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมืองเชียงใหม่ และ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เชียงใหม่จรรยา ต.ช้างม่อย อ.เมืองเชียงใหม่ ขอให้ผู้ที่มีประวัติเดินทางไปใช้บริการหรือสัมผัสกับพนักงานระหว่างวันที่ 10-18 ธ.ค.2564 สังเกตอาการ 14 วัน นับจากวันที่สัมผัสเสี่ยงวันสุดท้าย

อ่างทองเตรียมเปิดตลาดเทศบาล

ส่วนการพบคลัสเตอร์ในตลาดสดเทศบาล 2 บริเวณถนนสมบุญ-เกตุวัลห์ ต.ตลาดหลวง อ.เมือง จ.อ่างทอง ที่พบผู้ติดเชื้อสะสม 38 คน ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแม่ค้าในบริเวณดังกล่าว เทศบาลเมืองอ่างทองสั่งปิดพื้นที่บริเวณดังกล่าว วันที่ 15-20 ธ.ค.2564 ต่อมาเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.เทศบาลเมืองอ่างทองร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดนำชุดตรวจ ATK ตรวจพ่อค้าแม่ค้าในบริเวณดังกล่าวจำนวน 500 คน ไม่พบผู้ติดเชื้อแม้แต่รายเดียว ดังนั้น เทศบาลเตรียมเปิดตลาดให้ค้าขายตามปกติในวันที่ 20 ธ.ค.โดยมีเหล่าผู้ค้าและเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองฯ ร่วมกันบิ๊กคลีนนิ่ง ล้างตลาด สร้างความมั่นใจให้ผู้มาจับจ่ายซื้อของ รวมถึงให้ผู้ค้าโชว์ผลตรวจว่าปลอดเชื้อโควิด-19 ทุกคนทุกร้านด้วย

พ่อเฒ่าดับขณะเดินทางพบติดโควิด

ช่วงเย็นวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตร.สภ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตระหว่างเดินทาง อยู่ที่วัดโบถสามัคคีธรรม หมู่ที่ 1 ต.บางแก้ว อ.บรรพตพิสัย พ.ต.อ.อาชวิน สิงหะผลิน ผกก.สภ.บรรพตพิสัย พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปภาวิน ห้องพ่วง รอง ผกก.ป.สภ.บรรพตพิสัย พ.ต.ท.อำนาจ เกษมณีย์ สวป.สภ.บรรพตพิสัย และสายตรวจ บางแก้ว แพทย์เวรโรงพยาบาลบรรพตพิสัย ไปร่วมตรวจสอบเหตุทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนายหวิด เกาะน้อย อายุ 92 ปี เบื้องต้นญาติผู้เสียชีวิตแจ้งว่านายหวิดเสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับมาจากจังหวัดตากและ แพทย์ได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้ว พบติดเชื้อโควิด-19 ญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต จึงได้ประสานรถกู้ชีพ หนองตางู นำศพไปฌาปนกิจที่วัดเจริญผล และให้ผู้สัมผัสใกล้ชิดกักตัวตามมาตรการด้านสาธารณสุข

อังกฤษหวั่นตายวันละ 6 พัน

สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อังกฤษ ที่มีการระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอน นายซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน ประกาศให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อยู่ในขั้นรุนแรง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประสานงานระหว่างโรงพยาบาลกับหน่วยงานรัฐ ในการเตรียมการรองรับผู้ป่วยที่จะเพิ่มขึ้น พร้อมเปิดเผยว่า เชื้อกลายพันธุ์ “โอมิครอน” ได้ครองสัดส่วนผู้ติดเชื้อในกรุงลอนดอนแล้วกว่าร้อยละ 80 ขณะที่ “เซจ” กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่ปรึกษาหลักของรัฐบาลอังกฤษ เตือนว่าหากรัฐบาลไม่เร่งออกมาตรการควบคุม จะทำให้สิ้นเดือน ธ.ค.นี้ มีผู้ติดเชื้อสูงถึง 600,000 ถึง 2 ล้านคนต่อวัน และอาจมีผู้เสียชีวิตมากถึง 6,000 คนต่อวัน คำประเมินดังกล่าวมีขึ้นหลังสื่อท้องถิ่นรายงานว่า รัฐบาลยังไม่มีท่าทีจะพิจารณามาตรการป้องกันไวรัสเพิ่มเติมจนกว่าจะผ่านพ้นการฉลองเทศกาลคริสต์มาสไปแล้ว ส่วนองค์การอนามัยโลก (WHO) ปรับยอดประเทศตรวจพบเชื้อโอมิครอนเพิ่มเป็น 89 ประเทศ พร้อมระบุว่าอัตราผู้ติดเชื้อโอมิครอนในประเทศต่างๆเพิ่มขึ้นเท่าตัวทุกๆ 1-3 วัน