ลุ้น 14 ต.ค.นี้ ศบค.เตรียมประชุมประเมิน สถานการณ์ จะปรับมาตรการอะไรต่อ หลังยอดติดเชื้อยังพุ่งทะลุหมื่นคนต่อวันต่อเนื่อง ล่าสุดติดอันดับ 24 ติดเชื้อสะสมของโลกแซงหน้าญี่ปุ่น 4 จังหวัดชายแดนใต้ยังหนัก ไร้แววจุดพีก ตายรายวันพุ่ง สลดโควิดคร่าทั้งทารก 8 เดือน-หญิงเพิ่งคลอดที่ยะลา นายกฯขีดเส้นต้องคุมระบาดให้ได้ใน 2 เดือน ด้าน สธ.จ่ออัดวัคซีนไฟเซอร์ลงไปอีก 5 แสนโดส ฉีดให้ประชาชนเพิ่มนอกเหนือจากนักเรียน ขณะที่ “กระบี่-เมืองคอน” ติดเชื้อใหม่ไม่แผ่ว แต่ยังดีมี 4 จังหวัด “ยโสธร-นครพนม-น่าน-ลำปาง” ไร้ผู้ติดเชื้อเพิ่ม
สัปดาห์นี้ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในไทย หลังจ่อเข้าสู่ภาวะขาขึ้น เมื่อหลายจังหวัด พบผู้ติดเชื้อเพิ่มต่อเนื่อง ทำให้ภาพรวมทั้งประเทศยังพบผู้ติดเชื้อใหม่เกินหมื่นคนต่อวัน
ติดเชื้อใหม่ยังทะลุหมื่น
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 10 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10,817 คน จำแนกเป็นติดเชื้อในประเทศ 10,704 คน จากเรือนจำ 50 คน และมาจากต่างประเทศ 63 คน คือมาจากสวีเดน 54 คน สหรัฐอเมริกา 2 คน เกาหลีใต้ 1 คน และกัมพูชา 6 คน มีผู้หายป่วยเพิ่ม 9,981 คน ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 รวม 1,710,884 คน หายป่วยสะสม 1,582,313 คน อยู่ระหว่างรักษา 110,880 คน อาการหนัก 2,985 คน ใส่ท่อช่วยหายใจ 689 คน ส่วนผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม 84 คน เป็นชาย 43 คน หญิง 41 คน เป็นผู้มีอายุเกิน 60 ปี มีโรคเรื้อรัง รวมกันถึงร้อยละ 97 ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 รวม 17,691 คน นอกจากนี้ ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค ระบุ ณ วันที่ 10 ต.ค.ผู้ตรวจหาเชื้อด้วยชุด ATK เข้าข่ายติดเชื้อถึง 10,005 คน ซึ่งต้องตรวจแบบ RT-PCR ซ้ำอีกครั้งเพื่อยืนยันผลต่อไป
5 จว.ใต้ยอดพุ่งถ้วนหน้า
สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อโควิดสูงสุด ณ วันที่ 10 ต.ค. คือ กทม.1,185 คน ยะลา 776 คน สงขลา 563 คน ปัตตานี 514 คน นราธิวาส 479 คน สมุทรปราการ 462 คน ชลบุรี 457 คน ระยอง 364 คน นครศรีธรรมราช 345 คน และขอนแก่น 305 คน ใน 5 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ยะลา สงขลา ปัตตานี นราธิวาส และนครศรีธรรมราช ผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นทุกจังหวัด ทำให้ยอดรวมทั้ง 5 จังหวัดอยู่ที่ 2,677 คน ขณะที่ จังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มมี 4 จังหวัด ได้แก่ ยโสธร นครพนม น่าน และลำปาง ส่วนสถานการณ์โลกมียอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 238,351,150 คน เสียชีวิตสะสม 4,862,825 คน ส่งให้อันดับผู้ติดเชื้อสะสมของไทยแค่วันเดียวเขยิบจากอันดับ 25 ไปอยู่อันดับที่ 24 ของโลก แซงหน้าญี่ปุ่นเรียบร้อย ส่วนยอดผู้ได้รับวัคซีนทั้งเข็ม 1, 2, 3 ณ วันที่ 9 ต.ค. 230,852 โดส รวมสะสม 59,539,624 โดส
ตั้งเป้าคุมระบาดใน 1 เดือน
ต่อมา นพ.สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 12 ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์โควิด-19 ในภาคใต้ว่า ขณะนี้การระบาดอยู่ในช่วงขาขึ้น ผู้ติดเชื้อใหม่ของ 4 จังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ ยะลา สงขลา นราธิวาส และปัตตานี อยู่ใน 5 อันดับแรกของประเทศ รองจาก กทม. แต่อัตราเสียชีวิตอยู่ที่ร้อยละ 0.8 ยังน้อยกว่าภาพรวมประเทศ อยู่ที่ร้อยละ 1 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เวลา 2 เดือนคุมการระบาด แต่เราจะพยายามทำให้ได้ใน 1 เดือน เป้าหมายลดอัตราติดเชื้อร้อยละ 10 สัปดาห์นี้ ยังทำได้ไม่ถึงเป้า เพราะการระบาดยังอยู่ในขาขึ้น ติดเชื้อทรงตัวที่ 2,000 รายต่อวัน ยังไม่ลดลง ยังไม่เห็นจุดพีก จากการประเมินมาตรการควบคุม เช่น 1.มาตรการสังคมต้องเข้มข้นขึ้นกว่านี้ ตอนนี้เราใช้มาตรการล็อกดาวน์พื้นที่เป้าหมาย (Target Lockdown) คือ ปิดเป็นตำบล หมู่บ้าน หรือพื้นที่ระบาด ตรงนี้ต้องช่วยกัน เพราะเราไม่อยากใช้มาตรการ ล็อกดาวน์ทั้งพื้นที่ 2.ขอความร่วมมือพฤติกรรมส่วนบุคคล ให้เข้มงวดตามมาตรการป้องกันตัวเองสูงสุด (Universal Prevention)
ส่งไฟเซอร์ 5 แสนโดสฉีด ปชช.
3.เข้มมาตรการยกระดับความปลอดภัยสำหรับหน่วยงาน องค์กร กิจการ หรือโควิดฟรีเซตติ้ง (COVID Free setting) เพราะหลังคลายล็อกแล้ว ตลาด ร้านอาหารเริ่มเปิด ในชุมชนก็จัดงานศพ งานเลี้ยงเกษียณ จะไปรวมกับเชื้อที่มีในชุมชนอยู่แล้ว จะแพร่ไปทั่วเหมือนที่เกิดใน กทม.ช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. 4.ภาพรวมการฉีดวัคซีนโควิด-19 แต่ละจังหวัดยังได้น้อยราวร้อยละ 36-40 จะเร่งรณรงค์เป็นสัปดาห์ฉีดวัคซีนสกัดไวรัสโควิด-19 ซึ่งกรมควบคุมโรคจะเร่งส่งวัคซีนไฟเซอร์ลงพื้นที่ เพื่อฉีดให้ประชาชน เพิ่มเติมจากกลุ่มเด็กนักเรียน สัปดาห์นี้ 5 แสนโดสเร่งฉีดเป็นเข็ม 1 ให้เร็วที่สุด โดยฉีด 2 เข็มห่างกัน 3 สัปดาห์
ให้ 4 ผวจ.จัดศูนย์พักคอยตำบล
นพ.สุเทพกล่าวว่า ด้านความพร้อมของเวชภัณฑ์ และเตียง เขตสุขภาพที่ 12 เราเพิ่มเตียงไอซียูจาก 200 เป็น 360 เตียง เฉพาะยะลาเพิ่ม 70 เตียง ที่สามารถใช้ท่อช่วยหายใจได้ ยกระดับโรงพยาบาลอำเภอให้ดูแลผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองได้ ใช้เครื่องไฮโฟลว์ได้ ส่วนกลุ่มสีเขียว รพ.สนามเริ่มเต็ม ได้ประสานไปยังผู้ว่าราชการทั้ง 4 จังหวัด ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง ให้มาช่วยดูเรื่องศูนย์พักคอยในตำบล (Community Isolation) ในทุกตำบล รองรับ 30-40 ราย เพราะการตรวจด้วยแอนติเจน เทสต์ คิต (ATK) ผลออกไว แต่เพื่อยืนยันผู้ป่วยไม่ให้ปะปนก่อนจะเข้า รพ. ต้องตรวจ RT-PCR ก่อน ซึ่งต้องรอผลอีก 1 วัน ระหว่างนั้นต้องมีพื้นที่รองรับทันที ป้องกันการกลับไปติดเชื้อในบ้าน
ยังไม่ล็อกดาวน์ทั้งจังหวัด
ส่วนหากต้องล็อกดาวน์พื้นที่ใดบ้างนั้น นพ.สุเทพกล่าวว่า ยังอยากขอความร่วมมือประชาชนอยู่ เพราะแม้ล็อกดาวน์แต่คนยังไปมาหาสู่กันอยู่ การติดเชื้อก็แพร่กระจายไปทั่วแล้ว การจำกัดการเดินทางช่วยได้ไม่มาก แต่ยังจำเป็นในชุมชนที่ระบาดหนักมาก มองว่ายังไม่ถึงขั้นล็อกดาวน์ทั้งจังหวัด ส่วนเคอร์ฟิวยังพอช่วยได้อยู่ รวมถึงลดการรวมกลุ่ม และเข้มงวดมาตรการโควิดฟรีเซตติ้งให้มากขึ้น ฉีดวัคซีนให้เร็วขึ้น
เข้ม 4 ข้อหากเปิดรับท่องเที่ยว
ขณะที่ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ภาพรวมขณะนี้แนวโน้มทรงตัว บางพื้นที่พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนจากการรวมกลุ่มทำกิจกรรม อาทิ งานสังสรรค์ งานศพ รวมถึงยังพบการติดเชื้อในโรงงาน สถานประกอบการ แคมป์ก่อสร้าง สถานที่ดูแลกลุ่มเปราะบาง และกลุ่มแรงงานต่างด้าว ขณะที่บางพื้นที่สถานการณ์เริ่มดีขึ้น พบผู้ติดเชื้อประปรายและสามารถควบคุมได้ รัฐบาลมีแนวทางที่จะเปิดกิจการ กิจกรรม และเปิดพื้นที่รับนักท่องเที่ยวเพื่อสร้างรายได้ในชุมชนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศมากขึ้น การดำเนินกิจการ กิจกรรมต่างๆ และการเปิดเมืองให้ปลอดภัยและยั่งยืน ทุกคน ทุกฝ่าย ต้องตระหนักและเคร่งครัดใน 4 มาตรการสำคัญคือ 1.การฉีดวัคซีนให้ได้ตามเป้าหมายและครอบคลุม ซึ่งขณะนี้ได้จัดหาวัคซีนไว้เพียงพอที่จะให้กับประชาชนตั้งแต่อายุ 12 ปีขึ้นไป 2.การป้องกันตนเองขั้นสูงสุด (Universal Prevention) คิดไว้เสมอว่าทุกคนอาจเป็นผู้ติดเชื้อแฝง และป้องกันตนเองอย่างเข้มงวดกับทุกคน 3.การใช้ชุดตรวจแอนติเจน เทสต์ คิต หรือ ATK คัดกรอง เพื่อให้ผลเร็ว เข้าสู่ระบบรักษารวดเร็ว ลดการแพร่เชื้อ และ 4.การดำเนินการตามแนวทาง COVID Free Setting ซึ่งองค์กร สถานประกอบการต่างๆ ต้องปฏิบัติอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง หากดำเนินการได้ครบถ้วนทั้ง 4 มาตรการ มั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์โควิด- 19 ได้ และประชาชนจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติแบบวิถีใหม่
รอประเมินสถานการณ์ 14 ต.ค.
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนัก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฯติดตามสถานการณ์หลังปรับมาตรการกิจการ กิจกรรม ขยายระยะเวลาเคอร์ฟิว พบว่าประชาชนเริ่มผ่อนคลายมาตรการป้องกันส่วนบุคคล มีการรวมกลุ่มสังสรรค์มากขึ้น ฝากย้ำเตือนประชาชนอย่าประมาท การ์ดอย่าตก ดูแลตัวเองแบบครอบจักรวาล รวมทั้งผู้ประกอบการ ชุมชน ตลาด ต้องปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting อย่างเคร่งครัด และมีการตรวจ ATK ตามที่กำหนด ห้ามลักลอบรวมกลุ่มจัดงานสังสรรค์ ตั้งวงเหล้า-เล่นพนัน เพราะนอกจากจะมีความผิดทั้ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว ยังอาจทำให้เกิดคลัสเตอร์ใหม่ขึ้นอีก ดังนั้นการประชุม ศบค.วันที่ 14 ต.ค.นี้ จะประเมินสถานการณ์โควิดทั่วประเทศ ยอดผู้ติดเชื้อ ผลการฉีดวัคซีน เพื่อพิจารณาปรับมาตรการในระยะต่อไป
“อิ้งค์-วรันธร” ติดโควิด
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อิ้งค์-วรันธร เปานิล นักร้องสาวชื่อดังขวัญใจวัยรุ่นประกาศแจ้งว่าติดเชื้อโควิด-19 โดยเจ้าตัวโพสต์ประกาศของต้นสังกัด BOXX MUSIC ระบุว่า เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 9 ต.ค.2564 อิ้งค์-วรันธร ได้มีการ Swab เพื่อตรวจหาเชื้อ COVID-19 ในรูปแบบ RT-PCR (Polymerase chain reaction) ตามมาตรการตรวจคัดกรอง เพื่อเข้าร่วมงานที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นปกติ โดยในระหว่างวันที่ 1-8 ต.ค.2564 มีการตรวจแบบ ATK (Antigen test kit) เพื่อเข้าร่วมงานอื่นๆอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกันแล้วพบว่าไม่พบเชื้อ แต่ผลการตรวจในรูปแบบ RT-PCR ของอิ้งค์-วรันธร ได้ออกมาเมื่อเช้าวันนี้พบว่าติดเชื้อ เพื่อเป็นการยืนยันให้ แน่ชัด อิ้งค์-วรันธร จึงได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ที่โรงพยาบาลอีกครั้งหลังจากทราบข่าวทันที และได้กักตัว รวมถึงงดการแสดงโชว์ เพื่อความมั่นใจและปลอดภัยกับทุกคน ทั้งนี้ทางค่าย BOXX MUSIC ได้แจ้งให้ผู้ที่มีความเกี่ยวข้องหรือใกล้ชิดกับ อิ้งค์-วรันธร ในช่วงเวลาที่มีความเสี่ยง รวมถึงพนักงานและทีมงาน เพื่อให้ตรวจหาเชื้อและกักตัวตามมาตรการความปลอดภัยแล้ว นักร้องสาวได้โพสต์เพิ่มเติมว่า อยากขอโทษทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ขอโทษพี่ๆทีมงาน Tops ที่ทำให้เกิดความวุ่นวายและงานต้องเลื่อนออกไป รวมถึงขอโทษแฟนๆที่รอชมในวันนี้ ก็มีแฟนคลับเข้ามาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก
สลดโควิดคร่า “ทารก-หญิงท้อง”
สำหรับสถานการณ์ใน จ.ยะลา เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ผู้ติดเชื้อเพิ่มติดอันดับ 2 ของประเทศ และอันดับ 1 ของจังหวัดชายแดนใต้ โดยยอดผู้ติดเชื้อวันที่ 10 ต.ค. 776 คน จำนวนนี้พบมากสุดใน อ.เมือง มีจำนวน 269 คน มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 4 ศพ เป็นทารกชายวัย 8 เดือน อยู่ ต.สะเตง อ.เมือง ป่วยเป็นลมชัก สมองพิการ และติดเตียง หญิงอายุ 84 ปี อยู่ ต.หน้าถ้ำ อ.เมือง หญิงอายุ 34 ปี อ.สายบุรี ปัตตานี ตั้งครรภ์ 8 เดือน เสียชีวิตหลังผ่าตัดทำคลอดและหญิง อายุ 69 ปี ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง ป่วยเป็นความดันและโรคหลอดเลือดสมอง
เตียง รพ.สนามเหลือไม่ถึงพัน
ขณะที่ จ.ปัตตานี สถานการณ์ยังเป็นช่วงขาขึ้นจนน่าเป็นห่วง มีจำนวนผู้ติดเชื้อวันเดียวถึง 547 คน ทำลายสถิตการติดเชื้อสูงที่สุดของจังหวัดอีกครั้ง เสียชีวิตอีก 5 ศพ ทำให้ล่าสุดจำนวนเตียงที่ว่างของโรงพยาบาลสนามทั้งหมดในจังหวัดปัตตานีเหลืออยู่ 883 เตียงเท่านั้น จากจำนวน 2,630 ของจำนวนเตียงทั้งหมด
“กระบี่-เมืองคอน” จ่ออ่วม
ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ที่ จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 10 ต.ค.พบผู้ติดเชื้อสูงขึ้นมากที่สุดเท่าที่เคยระบาดในพื้นที่ โดย สสจ.กระบี่ สรุปตัวเลขผู้ติดเชื้อประจำวันที่ 9 ต.ค.พบผู้ติดเชื้อสูงถึง 271 คน โดยมีผู้ติดเชื้อในเขต อ.เมือง มากที่สุด จำนวน 140 คน เช่นเดียวกับ จ.นครศรีธรรมราช พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 477 คน ถือว่าเป็นจำนวนผู้ป่วยที่สูงขึ้นมากอีกครั้ง โดยพบใน อ.เมือง มากสุด 150 คน สำหรับคลัสเตอร์สำคัญจากโรงงานบ้านส้องพาราวู้ด สาขาทานพอ 42 คน ตลาดสดเทศบาลตำบลหัวไทร 30 คน ตลาดสดเทศบาลเมืองทุ่งสง 10 คน เรือนจำอำเภอทุ่งสง 3 คน ต.ในเมือง อ.เมือง 42 คน มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ศพ เป็นหญิงวัย 66 ปี มีโรคประจำตัวและความดันโลหิตสูง ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 118 ศพ
ลุงวินฯนั่งคร่อมรถ จยย.ตาย
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 09.00 น. ร.ต.อ.หญิง จิตตินันทน์ สุวรรณชาตรี รอง (สอบสวน) สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตนั่งคร่อมบนรถจักรยานยนต์ ริมถนนเลียบทางรถไฟ ด้านข้างวัดชัยชุมพล ต.ปากแพรก อ.ทุ่งสง จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมตำรวจสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลทุ่งสง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจ ที่เกิดเหตุห่างจากต้นมะพร้าวประมาณ 3 เมตร พบผู้เสียชีวิตชื่อนายไข่ ไม่ทราบนามสกุล อายุ 69 ปี เป็นชาวพัทลุง สภาพศพนั่งคร่อมเบาะรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 110 ไอ สีน้ำเงิน-ดำ ทะเบียนป้ายเหลือง กกง 522 นครศรีธรรมราช ศพสวมเสื้อยืดคอกลม นุ่งกางเกงขาสั้น สวมรองเท้าแตะ เจ้าหน้าที่ใช้ชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผู้เสียชีวิต เบื้องต้นพบผลเป็นบวก ทำให้ชาวบ้านที่มุงดูเหตุการณ์ถึงกับวงแตก รีบออกจากที่เกิดเหตุทันที จากการสอบสวนเบื้องต้น นายสุธรรม อายุ 63 ปี เพื่อนผู้ตาย เล่าว่าผู้ตายเป็นคนพัทลุงมาเช่าบ้านทำงานขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างใน อ.ทุ่งสง ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนและผู้ตายนั่งดื่มน้ำชาที่ร้าน ก่อนแยกย้ายกันไปทำงาน กระทั่งได้รับแจ้งว่าเพื่อนนั่งคร่อมรถจักรยานยนต์เสียชีวิต ส่วนสาเหตุไม่ทราบ
หัวหินปิดตลาดฉัตร์ไชย
วันเดียวกัน นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน เปิดเผยว่าได้นำเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุกด้วยชุด ATK ในกลุ่มผู้ค้าในตลาดฉัตร์ไชย เขตเทศบาลเมืองหัวหิน ภายหลังพบผู้ค้าภายในตลาดติดเชื้อโควิด-19 นับสิบราย พร้อมทั้งสาธารณสุขอำเภอหัวหิน เข้ามาให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลตนเองจากโรคโควิด-19 โดยเน้นการใช้มาตรฐานเมืองอนามัยสิ่งแวดล้อมภายใต้แนวคิด HDC ของเทศบาลเมืองหัวหิน เพื่อป้องกันการแพร่และรับเชื้อโรค ขณะที่ นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน ระบุว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 คลัสเตอร์ตลาดฉัตร์ไชย สะสมล่าสุด 30 คน เทศบาลเมืองหัวหินได้แจ้งเตือนให้ผู้ประกอบการกว่า 300 รายภายในตลาดฉัตร์ไชยและเทศบาลจะปิดตลาดชั่วคราว 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 11-13 ต.ค.นี้ เพื่อล้างทำความสะอาดตลาดพร้อมทั้งประเมินสถานการณ์ หากยังมีผู้ติดเชื้อสะสม จะพิจารณาปิดต่อเนื่องจนกว่าจะควบคุมการระบาดได้ก่อนถึงวันเปิดเมืองตามโครงการหัวหินรีชาร์จในวันที่ 1 พ.ย.นี้
ลามเข้าศาล จ.สระแก้ว
ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ของจังหวัดสระแก้ว ล่าสุดได้ลามเข้าไปถึงศาลจังหวัดสระแก้ว โดยผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสระแก้ว ออกประกาศเลื่อนนัดพิจารณาคดี ระหว่างวันที่ 11-15 ต.ค.64 เป็นเวลา 5 วัน โดยในประกาศระบุว่าเมื่อวันที่ 8 ต.ค.64 มีบุคลากรศาลจังหวัดสระแก้วที่ปฏิบัติงานประจำอยู่ที่ศาลจังหวัดสระแก้ว ได้รับผลการตรวจยืนยันว่าพบเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและบุคลากรอื่นของศาลจึงให้ยกเลิกและเลื่อนวันนัดพิจารณาคดีในทุกประเภทของศาลที่มีวันนัดในช่วงวันที่ 11-15 ต.ค.64 ทั้งนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว รายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ณ วันที่ 10 ต.ค. มีจำนวน 87 คน แยกเป็นติดเชื้อในจังหวัด 75 คน ติดเชื้อจากจังหวัดอื่น 6 คน คนไทยติดเชื้อมาจากกัมพูชา 6 คน รักษาหาย 43 คน กำลังรักษา 1,767 คน ในจำนวนนี้อาการหนัก 16 คน ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อในจังหวัดมีพนักงานโรงงาน 6 บริษัท ยังคงนำเชื้อมาสู่ครอบครัว 16 คน ใน 4 อำเภอ ส่วนคลัสเตอร์งานศพบ้านลุงพลู ต.โคกปี่ฆ้อง อ.เมืองสระแก้ว พบผู้ร่วมงานติดเชื้ออีก 1 คน รวมสะสม 13 คน นอกจากนี้ต้องเฝ้าระวังกรณีพบบุคลากรศาลจังหวัดสระแก้วติดเชื้อ 3 คน เชื่อมโยงจากพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ไปร่วมงานทำบุญแจกข้าวที่วัดแล้วสัมผัสเชื้อมา หลังจากนั้นมีข้าราชการคนหนึ่งไปพูดคุยก่อนจะสัมผัสเชื้อมาสู่เพื่อนร่วมงาน 2 คนและพนักงานขับรถ 1 คน
ผู้ป่วยเมืองโอ่งตายพุ่ง 6 ศพ
นอกจากนี้ ตลอดวันมีรายงานจากหลายจังหวัด นอกจากพบผู้ติดเชื้อใหม่ไม่ลดแล้ว ยังมีผู้ป่วยเสียชีวิตต่อเนื่อง อาทิ จ.ราชบุรี พบผู้ป่วยรายใหม่ 253 คน ติดอันดับ 1 ของโซนภาคตะวันตก เสียชีวิตพุ่งถึง 6 ศพ รวมเสียชีวิตสะสม 305 ศพ ขณะที่ จ.ระยอง ติดเชื้อเพิ่มอีก 366 คน พบสูงสุดใน อ.เมืองระยอง ถึง 146 คน ตายเพิ่มอีก 2 ศพ รวมตายสะสม 203 คน เช่นเดียวกับ จ.สุพรรณบุรี ที่ติดเชื้อเพิ่มอีก 64 คน เสียชีวิตอีก 1 ศพ รวมเสียชีวิตสะสม 225 ศพ
