ฆ่าโหด! “พ่อ” ผู้ช่วย ส.ส.ระนอง นำศพทิ้งบ่อในสวนยาง

พม่าฆ่าโหด “พ่อ” ผู้ช่วย ส.ส.ระนอง นำศพทิ้งในบ่อข้างบ้านพักในสวนยาง อ.กระบุรี หลังสร้างเรื่องถ่วงเวลาจับตัวเรียกค่าไถ่เงิน 1 ล้านบาท ลูกชายพบพิรุธคุมแรงงาน 15 คน ส่งตำรวจสอบปากคำ พบหายไป 2 ราย

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 ก.ค.65 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งพบร่างผู้เสียชีวิตในบ่อข้างบ้านพักในสวนยาง หมู่ที่ 8 บ้านหาดตุ๋น ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง จึงลงพื้นที่พบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากจั่น เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลกระบุรี นำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากบ่อและทำการชันสูตรพลิกศพ จากการตรวจสอบทราบชื่อ นายทนุ ใจดี อายุ 81 ปี ชาวตำบลปากจั่น ซึ่งเป็นบิดาของ นายธวัช ใจดี ผู้ช่วย ส.ส.ระนอง และนางนฤมล บุญช่วย นายก อบต.ปากจั่น สภาพศพมีรอยบาดแผลบริเวณศีรษะด้านหลัง 1 จุด ศีรษะด้านหน้า 2 จุด บริเวณกกหูขวา 1 จุด และที่แข้งขาด้านขวา 1 จุด

นายธวัช ใจดี ผู้ช่วย ส.ส.ระนอง และเป็นบุตรชาย เผยว่า ปกติพ่อของตนจะอยู่ที่บ้านพักในสวนมาตลอด ซึ่งจะกลับไปที่บ้านบ้างเป็นครั้งคราว โดยอยู่กับแรงงานชาวเมียนมาทั้งชายและหญิงหลายคน ซึ่งอยู่มานานหลายสิบปี โดยก่อนพบศพ 2 วัน คือวันที่ 8 ก.ค.ในช่วงบ่าย ตนได้นำเอาอาหารมาแขวนไว้ที่เสาบ้านชั้นล่างเป็นปกติทุกวัน จนกระทั่งวันที่ 9 ก.ค. ได้โทรศัพท์หาพ่อแต่ติดต่อไม่ได้ จึงได้เข้ามาซักถามสาวชาวเมียนมาบริเวณใกล้เคียง บอกว่า พ่อของตนออกไปข้างนอก โดยมีคนขับมอเตอร์ไซค์มารับออกไปตั้งแต่เช้า หลังจากนั้นในช่วงบ่ายได้มีข้อความจากโทรศัพท์ของชาวเมียนมา หมายเลข +668-0734-0656 ส่งมาหาหลานชาย ระบุว่าได้จับตัวนายทนุเอาไว้ แล้วเรียกค่าไถ่เป็นเงินจำนวน 8 แสนบาท

จากนั้นจึงได้ให้คนงานชาวเมียนมาโทรกลับไป ซึ่งมีการกดรับโทรศัพท์แต่ไม่มีการสนทนา หลังจากนั้นได้รับข้อความจากหมายเลขดังกล่าวเป็นภาษาเมียนมา โดยเรียกค่าไถ่ขึ้นเป็นจำนวน 1 ล้านบาท และให้นำเงินมาตั้งไว้ที่ในตลาดนัด ท่าตายิ้ม ม.8 ต.ปากจั่น ซึ่งตรงข้ามกับบ้านหลุมพอยี ต.เขม่าจี อ.เขม่าจี จ.เกาะสอง ประเทศเมียนมา แต่จากการตรวจสอบที่บ้านพักของพ่อพบปืนลูกซองหายไป 1 กระบอก มีรอยเลือดบริเวณผนังข้างบ้านจุดที่พ่อใช้ก่อไฟ และมีจอบวางอยู่อีก 1 อัน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นอาวุธที่ใช้ทำร้ายพ่อของตน อีกทั้งรองเท้าบูตและไม้เท้าของพ่อก็ยังอยู่ รวมถึงถุงอาหารที่ตนนำไปแขวนไว้ก็ยังอยู่ที่เดิม จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดเรื่องตั้งแต่เย็นวันที่ 8 และการให้ข้อมูลว่าพ่อตนออกจากบ้านไปน่าจะไม่เป็นความจริง อีกทั้งเรื่องการเรียกค่าไถ่น่าจะเป็นการสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อดึงเวลา ตนรวมถึงผู้นำชุมชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวแรงงานชาวเมียนมาที่สวนและบริเวณข้างเคียงราว 15 คน ไปทำการสอบปากคำที่ สภ.ปากจั่น และทราบว่ามีชาวเมียนมาที่สวนที่ติดกันได้หายตัวไป 2 คน ซึ่งสาเหตุตนเองยังไม่มั่นใจ คงต้องรอการสอบสวนจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป

ทางด้าน นายมานะ เต็มภาชนะ กำนันตำบลปากจั่น เปิดเผยว่า เมื่อเที่ยงวานนี้ได้รับแจ้งจากคนงานในสวนว่านายทนุได้หายออกไปจากบ้าน โดยให้ข้อมูลว่านายทนุได้นั่งรถมอเตอร์ไซค์ออกไปหาหมอ แต่จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของเครือข่ายไม่พบรถมอเตอร์ตามที่ได้กล่าวอ้าง และจากการสอบถามแรงงานหญิงชาวเมียนมาอีกคนหนึ่งก็ให้ข้อมูลเท็จว่านายทนุนั่งรถมอเตอร์ไซค์ออกไปบ้าง หรือเห็นคนเข้ามาหานายทนุบ้าง ซึ่งจากการตรวจสอบที่บ้านพักได้พบคราบเลือดบริเวณผนังข้างบ้าน จึงได้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ 3 คน หลังจากนั้นเย็นวานนี้และตลอดทั้งคืน กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้ระดมกันออกค้นหาจนถึงเช้าวันนี้ก็ไม่พบตัว จนกระทั่งช่วงเวลาประมาณ 09.40 น. ก็พบร่างของนายทนุเสียชีวิตอยู่ในบ่อน้ำข้างสวน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงร่วมกับฝ่ายปกครองได้เข้าควบคุมตัวแรงงานชาวเมียนมาในบริเวณใกล้เคียงรวม 15 คนไปทำการสอบสวน เพื่อหาตัวผู้ต้องสงสัยและแยกตัวผู้ที่เป็นพยานออกมา

นายมานะ เต็มภาชนะ กล่าวต่อว่า จากนี้คงต้องระมัดระวังในการใช้แรงงานต่างด้าวมากขึ้น ทั้งเรื่องการทำทะเบียนยืนยันตัวตนให้เป็นปัจจุบัน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็จะทำให้คนในพื้นที่ระมัดระวังมากขึ้น เพราะการทำทะเบียนและถ่ายภาพทุกคนจะสามารถติดตามและหาตัวผู้กระทำความผิดได้ง่ายขึ้นเมื่อเกิดเหตุขึ้น