จับพระนอกรีต! กลางวันห่มเหลือง กลางคืนแปลงโฉมเป็นฆราวาส งัดกุฏิเจ้าอาวาส

จับพระนอกรีต กลางวันห่มเหลือง กลางคืนเปลี่ยนนุ่งกางเกงแปลงโฉมเป็นฆราวาส งัดกุฏิเจ้าอาวาสขโมยพระเครื่อง มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท พบประวัติเคยต้องโทษคดีลักทรัพย์ จำคุก 3 ปี 

เวลา 10.30 น. วันที่ 18 มกราคม 2565 ที่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พ.ต.อ.กานต์ ธรรมเกษม รอง ผบก. พ.ต.อ.ปรัชญา พงศ์อัมพรสกุล ผกก.สภ.บ้านแหลม พ.ต.ท.ชนาวิน สุริยะพรหม รอง ผกก.สส. สภ.บ้านแหลม แถลงข่าวจับกุม พระพิริยะ หรือนายพิริยะ หรือ เหน่ง สาทิบ อายุ 41 ปี พระลูกวัด วัดนาค ต.ช่องสะแก อ.เมือง จ.เพชรบุรี ผู้ต้องหาก่อเหตุลักทรัพย์ พร้อมของกลางเป็นพระเหรียญ พระเครื่องพิมพ์ต่างๆ จำนวน 86 องค์ นาฬิกา 1 เรือน เงินสดประมาณ 6,270 บาท, สมุดบัญชีธนาคารและเอกสารต่างๆ อีกหลายรายการ มูลค่ารวมประมาณ 1,000,000 บาท

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 06.10 น. วันที่ 17 ม.ค. 65 ศูนย์วิทยุ สภ.บ้านแหลม รับแจ้งจากพระครูวัชรธรรมคุณ วิเชียร พูลศักดิ์ เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ศรัทธา ต.บางแก้ว อ.บ้านแหลม ว่าคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ในกุฏิ มีพระเครื่อง และทรัพย์สินอื่น หายไปจำนวนมาก พ.ต.ท.ชนาวิน สุริยะพรหม รอง ผกก.สส.สภ.บ้านแหลม จึงนำกำลังชุดสืบสวนร่วมตรวจสอบ และตรวจกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุพบชายแต่งชุดฆราวาสงัดประตูกุฏิห้องเจ้าอาวาสเข้าไปลักทรัพย์ เจ้าอาวาสยืนยันจดจำได้ว่าคนร้ายรายนี้คือพระพิริยะ หรือ เหน่ง สาทิบ ซึ่งเป็นพระลูกวัดอยู่ที่วัดนาค ในเขตอำเภอเมืองเพชรบุรี ชุดสืบสวนจึงเฝ้าสังเกตที่วัดนาคจนได้พบกับพระพิริยะ ขณะกำลังฉันภัตตาหารเช้า จึงได้เข้าไปพูดคุยสอบถาม พระพิริยะยอมรับกับเจ้าหน้าที่ว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง เบื้องต้นพบพระเครื่องของกลางบางส่วนพระพิริยะพกติดตัวอยู่ เจ้าหน้าที่จึงขยายผล ตรวจค้นภายในกุฏิที่พักอาศัย และพบของกลางทั้งหมด จึงนำพระพิริยะไปทำการสึก และควบคุมตัวดำเนินคดี

สอบสวนเบื้องต้น นายพิริยะให้การว่า เมื่อคืนวันที่ 16 ม.ค. เวลาประมาณ 21.00 น. ตนได้ถอดจีวรพระและเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดฆราวาส ใส่กางเกงเจเจขาสั้น สีน้ำเงินเข้ม เสื้อยืดคอปกสีฟ้า เดินเท้าจากวัดนาคไปหารถจักรยานยนต์รับจ้างที่บริเวณหน้าห้างบิ๊กซี เพื่อว่าจ้างให้ไปส่งที่วัดราษฎร์ศรัทธา ซึ่งเป็นวัดที่ตนเคยบวชมาก่อน ในราคา 120 บาท เมื่อมาถึง ได้ขึ้นไปที่กุฏิของเจ้าอาวาส วัดราษฎร์ศรัทธา ใช้ไขควงถอดนอตบานพับประตูออก แล้วเข้าไปรื้อค้น เอาทรัพย์สินตามรายการของกลางดังกล่าวข้างต้นไป และได้นำเอกสารจำพวกสมุดบัญชีธนาคาร ไปโยนทิ้งในถังขยะหน้าศูนย์เด็กเล็กซึ่งตั้งอยู่ภายในวัด จากนั้นได้เดินเท้ากลับมายังวัดนาค ถึงวัดนาคประมาณ 05.00 น. เปลี่ยนเสื้อผ้ามาใส่จีวรพระที่ทางเข้าวัดนาค และออกบิณฑบาตตามปกติ

ด้าน พล.ต.ต.อุทัย กล่าวว่า ตรวจสอบประวัติ พบนายพิริยะเคยถูกจับกุมคดีลักทรัพย์ที่ สภ.พุทธมณฑล 2 ครั้ง ถูกจำคุก 3 ปี จากนั้นได้มาบวชที่วัดราษฎร์ศรัทธา ตั้งแต่ปี 2562 และต่อมาย้ายมาอยู่ที่วัดนาค และกลับไปก่อเหตุเนื่องจากรู้และคุ้นเคยสถานที่ เบื้องต้นตรวจปัสสาวะพบมีสารเสพติด จึงแจ้งข้อหาความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น และเสพยาเสพติดให้โทษ.