จับแล้ว! ร.ต.อ. หนีคดีข่มขืน 2 เด็กหญิงเมืองตรัง พบเป็น “โรคใคร่เด็ก” ด้าน “บิ๊กโจ๊ก” เล็ง!สอบผู้บังคับบัญชาไม่ดูแลลูกน้อง

ภาพจากแฟ้มข่าว ปวีณา ตามคดี ร.ต.อ.ข่มขืนเด็กหญิง 2 พี่น้อง

จับแล้ว ร.ต.อ.พร้อมภรรยาพาหลบหนีหลังก่อเหตุข่มขืน 2 เด็กหญิงที่เมืองตรังนับปี ให้การปฏิเสธประกันตัวแล้วหนี ก่อนตามจับตัวได้ พบเป็นโรคใคร่เด็ก ด้านบิ๊กโจ๊กเล็ง สอบผู้บังคับบัญชาไม่ดูแลลูกน้อง

เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ความคืบหน้ากรณี ร.ต.อ.วิศาล ขวัญนิมิตร สังกัด ภ.จว.ตรัง ก่อเหตุข่มขืนเด็กหญิงสองพี่น้อง อายุ 12 ปี และ 15 ปี นานนับปี โดยผู้เป็นยายพาร้องมูลนิธิปวีณาให้ช่วยเหลือ ล่าสุด ตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ได้ออกหมายจับร้อยตำรวจเอกวิศาล พร้อมกับภรรยา แล้ว หลังได้รับการประกันตัวแต่หลบหนี โดยนำตัวมาควบคุมไว้ ที่ สภ.เมืองตรัง ตำรวจได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดตรัง เข้าค้นบ้านพัก โดยตรวจยึดโทรศัพท์มือถือจำนวน 3 เครื่อง อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม.จำนวน 3 นัด เพื่อทำการตรวจสอบชั้นสอบสวน แต่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ขณะที่ เด็กหญิงผู้เสียหายทั้ง 2 คน ถูกส่งตัวให้ไปอยู่ในความดูแลของ พม.จังหวัดตรัง และมีการสอบถามขยายผลโดยทีมสหวิชาชีพ ร่วมกับตำรวจ ซึ่งเหยื่อ ให้การว่า ถูกข่มขืนกระทำชำเราหลายครั้ง ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2563 ต่อเนื่องถึงวันที่ 8 เดือนมกราคม 2565 ที่ บ้านพักข้าราชการตำรวจ สภ.วังวิเศษ ต.วังมะปรางเหนือ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านพักของผู้ต้องหา

มีรายงานว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า พร้อมให้ตั้งกรรมการสอบสวน ผู้บังคับบัญชาของผู้ก่อเหตุ ฐานไม่ควบคุมดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา จนก่อเหตุให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

จากการสืบสวนเชิงลึก ยังพบพฤติกรรมของผู้ต้องหาว่า มีพฤติกรรมโรคใคร่เด็ก และเคยมีภรรยาเป็นเด็กมัธยมและมีบุตรด้วยกัน 3 คนก่อเลิกรากัน ส่วนโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหาที่ตรวจยึดมาได้ ถูกส่งให้ พฐ. ตรวจเพื่อขยายผล หลังเหยื่อให้การว่าผู้ต้องหาได้ถ่ายรูปขณะที่ข่มขืนกระทำชำเราไว้ด้วย ส่วนผู้ต้องหาขณะนี้ ทางตำรวจภูธรจังหวัดตรัง มีคำสั่งให้ออกจากราชการแล้ว

สำหรับสถิติการกระทำอนาจารต่อเด็ก ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวบรวมไว้ เฉพาะปี 2564 พบว่า มีเด็กและเยาวชน ถูกกระทำรุนแรง 1316 ราย แบ่งเป็น ความรุนแรงในครอบครัวจำนวน 873 ราย ซึ่งจำนวน 348 ราย ถูกกระทำโดยพ่อแม่ ขณะที่ 419 ราย หรือ 31.8 เปอร์เซ็นต์ถูกล่วงละเมิดทางเพศ และอนาจาร.