ตำรวจไซเบอร์ บุกจับหนุ่มวัย 25 ปี สุ่มตัวเลขแฮกเฟซเหยื่อสาว โหลดคลิปลับส่งแชตข่มขู่ เรียกค่าไถ่เป็นเงินสด-กางเกงชั้นในใช้แล้ว

ตำรวจไซเบอร์ บุกจับหนุ่มวัย 25 ปี สุ่มตัวเลขแฮกเฟซบุ๊กเหยื่อสาว โหลดคลิปลับส่งแชตข่มขู่เรียกค่าไถ่เป็นเงินสด-กางเกงชั้นในใช้แล้ว สารภาพจะขอเอามาดูเล่น

วันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผบก.สอท.5 สั่งการให้ พ.ต.อ.ขวัญชาติ วงศ์ขจรไพบูลย์ ผกก.1 บก.สอท.5 เข้าจับกุม นายจักรพงศ์ อายุ 25 ปี ขณะเดินเข้ามาหยิบถุงที่บรรจุสิ่งของที่ใช้เรียกค่าไถ่บริเวณริมถนนสายพังงา-ภูเก็ต ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา

ทั้งนี้ทราบว่า ก่อนหน้ามี น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพังงา หลังถูกชายลึกลับทักมาทางอินบ็อกซ์ในเฟซบุ๊กของตนเอง ว่า ได้แฮกเฟซบุ๊กของ น.ส.เอ และยังได้โหลดคลิปลับที่ผู้เสียหายถ่ายเก็บเอาไว้ พร้อมข่มขู่เรียกค่าไถ่เป็นเงินสดจำนวน 5,000 บาท รวมทั้งกางเกงในตัวที่ผู้เสียหายใส่อยู่ด้วย หากไม่ยอมทำตามก็จะนำคลิปลับดังกล่าวไปเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต ผู้เสียหายกลัวว่าจะเสื่อมเสียชื่อเสียงจากการปล่อยคลิปลับดังกล่าว จึงขอต่อรองกับคนร้ายว่าจะขอจ่ายเป็นเงินสด 1,000 บาท และกางเกงในที่ผู้ต้องหาต้องการ พร้อมนัดเวลาและสถานที่รับของไปวางเอาไว้

ต่อมาทาง สภ.เมืองพังงา จึงประสานมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมวางแผนก่อนและเข้าจับกุม นายจักรพงศ์ ผู้ต้องหา ขณะเดินเข้ามาหยิบถุงค่าไถ่ดังกล่าว สอบสวน นายจักรพงศ์ ให้การรับสารภาพว่า ตนทำงานอยู่ที่โรงอบไม้แห่งหนึ่ง และก็ยอมรับว่าเป็นผู้แฮกเฟซบุ๊กของผู้เสียหายเพื่อเรียกค่าไถ่จริง ส่วนวิธีการเลือกเหยื่อก็ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน แค่ลองใช้ชื่อและพาสเวิร์ดเพื่อเข้าบัญชีเฟซบุ๊ก

โดยการสุ่มชื่อและตัวเลขไปเรื่อยๆ จนสามารถเข้าไปได้ ส่วนเฟซบุ๊กที่ใช้ติดต่อกับผู้เสียหาย ตนก็แฮกมาด้วยเหมือนกัน เพื่อป้องกันถูกตามจับกุม ที่ต้องเรียกค่าไถ่เป็นกางเกงในก็เห็นว่าเหยื่อหน้าตาดี รวมทั้งยังมีคลิปลับก็เลยอยากจะขอเอากางเกงในมาไว้ดูเล่นเท่านั้น

ภายหลังการจับกุมจึงนำตัวผู้ต้องหาส่งให้ สภ.เมืองพังงา ดำเนินคดีในข้อหา “เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตนตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และข่มขืนใจผู้อื่น ให้ยอมให้ ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินโดยขู่เข็ญว่าจะเปิดเผยความลับ ซึ่งการเปิดเผยนั้นจะทำให้ผู้ถูกขู่เข็ญเสียหาย”

พร้อมกันนี้ทางตำรวจไซเบอร์ยังขอฝากเตือนด้วยอีกว่า ปัจจุบันมีความเสียหายที่เกิดจากการกระทำความผิดเกี่ยวกับการแฮก Facebook เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการหลอกให้โอนเงิน การเรียกค่าไถ่ข้อมูลสำคัญที่อยู่ใน Facebook เป็นต้น จึงอยากประชาสัมพันธ์ให้ระมัดระวังในการใช้สื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ หรือการตั้ง username และ password ที่คนร้ายสามารถเดาได้ง่าย จนสามารถแฮกเข้าไปใน Facebook ของเรา ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายได้.