นายกอบจ.กาฬสินธุ์ สั่งสอบข้อเท็จจริงปมครูพละหื่น ย้ำมีมูลไล่ออก สมาคมกีฬาฯปัดเอี่ยวจัดเข้าค่ายฝึกซ้อมวิ่ง

นายกอบจ.กาฬสินธุ์ “ไข่มุก” สั่งสอบข้อเท็จจริง ย้ำมีมูลไล่ออก รับเป็นเรื่องสะเทือนขวัญวงการศึกษา ขณะที่ “ประยงค์” นายกสมาคมกีฬาจังหวัดกาฬสินธุ์ ยอมรับครูหื่นเป็นสมาชิกสมาคมฯ ปัดเอี่ยวจัดนักเรียนเข้าค่ายฝึกซ้อมนักวิ่งจังหวัด

จากกรณีครูพละโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ ก่อเหตุวางยาในน้ำดื่มข่มขืนลูกศิษย์ตนเอง ซึ่งเป็นนักเรียนหญิงชั้น ม.1 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ ในระหว่างเข้าค่ายชมรมกีฬานักวิ่ง โดยเหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค. กระทั่งได้เข้ามอบตัวแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 ต.ค. ขณะที่ อบจ.กาฬสินธุ์ นางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายก อบจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า โรงเรียนดังกล่าว เป็นโรงเรียนในสังกัด อบจ.กาฬสินธุ์ ส่วนครูพละชายคนดังกล่าว เป็นครูตำแหน่งพนักงานจ้างเฉพาะกิจ เข้าทำงานเมื่อประมาณปี 61 สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนได้ทราบเรื่องแล้วจากสื่อต่างๆ แต่ยังไม่ได้รับรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางโรงเรียน และวันนี้ตนและเจ้าหน้าที่กองการศึกษาจะลงพื้นที่โรงเรียน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง หากมีมูลความผิด จะตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงครูชายคนนี้ทันที รวมทั้งประสานไปยังผลการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจในทางคดีด้วย

นางเฉลิมขวัญ กล่าวต่อว่า เรื่องที่เกิดขึ้นจะเร่งดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เนื่องจากเป็นเรื่องที่สะเทือนใจ และประชาชนให้ความสนใจ ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย แต่เบื้องต้นหากสอบข้อเท็จจริงเสร็จ คาดว่าภายใน 2 วัน ทาง อบจ.กาฬสินธุ์ จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการกลางข้าราชการส่วนท้องถิ่น (ก.อบจ.) เพื่อขอให้ที่ประชุมพิจารณาให้ครูคนดังกล่าวออกจากราชการไว้ก่อน และหากผลการตรวจสอบพบว่ามีความผิดจริง ทาง อบจ. ก็จะดำเนินการลงโทษอย่างเด็ดขาดและเลิกจ้าง เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ในบ่ายวันเดียวกันก็จะเข้าเยี่ยมนักเรียนหญิงเพื่อร่วมเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจนักเรียนหญิงต่อไป ส่วนในเรื่องของคดี ก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อสอบถามไปยังนายประยงค์ โมคภา นายกสมาคมกีฬา จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งวันนี้เดินทางไปอบรมที่ จ.ขอนแก่น โดยนายประยงค์ กล่าวว่า ครูพละชายคนดังกล่าว เป็นสมาชิกของสมาคมกีฬา จ.กาฬสินธุ์ จริง แต่ยืนยันว่า การจัดกิจกรรมเข้าค่ายหรือนำนักเรียนมาฝึกซ้อมกีฬานั้น ทางสมาคมไม่ทราบเรื่อง และไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ทราบว่าการทำกิจกรรมดังกล่าว เป็นการทำในนามส่วนตัว และเป็นการจัดซ้อมกีฬาในนามชมรมกีฬาของเขาเอง