ผบช.ภ.7 นำทีมแถลงการจับกุม “แก๊งค้ายาบ้า” ยิงปืนขึ้นฟ้าข่มขู่ชาวบ้านในยามวิกาลที่นครปฐม

ผบช.ภ.7 นำทีมแถลงการจับกุมแก๊งค้ายาบ้า ที่ยิงปืนข่มขู่ชาวบ้านในยามวิกาล ได้ผู้ต้องหา 4 ราย ค้นบ้านยังเจอปืนเพียบ ผู้ต้องหาอ้างได้มาถูกต้อง โดยจะนำของกลางไปตรวจสอบว่าเคยให้ก่อเหตุหรือไม่

เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 65 ที่ สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม, พ.ต.อ.ณฐพงศ์ มุกดาหาญ ผกก.สภ.นครชัยศรี พร้อมชุดสืบสวน สภ.นครชัยศรี เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าข่มขู่ชาวบ้านในที่ชุมชนเวลากลางคืน ที่ ต.แหลมบัว อ.นครชัยศรี ได้ผู้ต้องหา 4 ราย คือ 1.นายศรัญย์ อ่อนพันธ์ อายุ 36 ปี ชาวบ้าน หมู่ 1 ต.ท่าพระยา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม 2.นายทัศไนย จันทร์สนธิ อายุ 34 ปี ชาวบ้าน ต.บางเลน อ.บางเลน จ.นครปฐม 3.นายพัชรพงษ์ เปรมวัฒนะสิริ อายุ 33 ปี ชาวบ้าน หมู่ 6 ต.แหลมบัว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม 4.น.ส.จุฑารัตน์ อุนาท อายุ 26 ปี ชาวบ้าน ซอยริมคลองชักพระ แขวงคลองชักพระ เขตตลิ่งชัน กทม.

พร้อมด้วยของกลางจากการตรวจค้นภายในบ้านและในตัว พบยาบ้า 114 เม็ด ยาไอซ์ น้ำหนัก 0.15 กรัม กัญชาอัดแท่ง 18 แท่ง น้ำหนักรวม 17.5 กิโลกรัม อาวุธปืนลูกซองยาว ยี่ห้อคอมมานโด สีดำ จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนลูกซองยาว ยี่ห้อ DERYA สีดำ จำนวน 1 กระบอก แม็กกาซีนขนาด .22 จำนวน 2 แม็ก อาวุธปืนลูกซองยาว ยี่ห้อ MARLIN จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนอัดลมยาวแบบไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก ชิ้นส่วนอาวุธปืน AK-47 จำนวน 7 ชิ้น ห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์อีกชั้นหนึ่ง เครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 20 นัด เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 40 นัด ใส่ไว้ในกล่องกระดาษยี่ห้อ NRA จำนวน 1 กล่อง เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 สเปเชียล จำนวน 8 นัด เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 ซุปเปอร์ จำนวน 19 นัด เครื่องกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 3 นัด ใส่ไว้ในกล่องพลาสติกใส เครื่องกระสุนปืน AK-47 จำนวน 5 นัด กระเป๋าผ้าใสปืนลูกซองยาวจำนวน 2 ใบ โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง

พนักงานสอบสวนตั้งข้อกล่าวหา ผู้ต้องหาที่ 1 มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำหน่ายโดยการมีไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายยาบ้า ยาไอซ์ โดยผิดกฎหมาย, ครอบครองกัญชาโดยผิดกฎหมายและมีวัตถุประสงค์เพื่อการจำหน่ายโดยเป็นความผิดร้ายแรง นอกจากนี้ยังนำปัสสาวะของผู้ต้องหาไปตรวจสอบที่ รพ.นครปฐม พบว่าฉี่เป็นสีม่วง จึงเพิ่มข้อหาเสพยาเสพติดเพิ่มอีก 1 ข้อหา

ผู้ต้องหาที่ 2 นายทัศไนย จันทร์สนธิ ตั้งข้อกล่าวหายาเลติดยาบ้าไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ยาบ้า 12 เม็ด เครื่องกระสุนปืน 9 มม. 25 นัด โดยตั้งข้อหามียาบ้าไว้ในความครอบครอบโดยผิดกฎหมายและเสพ มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ผู้ต้องหาที่ 3 นายพัชรพงษ์ เปรมวัฒนะสิริ มีอาวุธปืนพกสั้นบราวนิ่ง สีขาว พร้อมแม็กกาซีน 1 กระบอก กระสุปืนขนาด 9 มม. จำนวน 15 นัด ซองพกในผ้าสีดำ 1 ซอง โดยตั้งข้อหามีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ส่วนผู้ต้องหาที่ 4 น.ส.จุฑารัตน์ อุนาท ตั้งข้อหาเสพยาโดยผิดกฎหมาย โดยสารภาพว่าเป็นแฟนกับนายทัศไนย จันทร์สนธิ ผู้ต้องหาที่ 2 ซึ่งชวนมาเที่ยวหาเพื่อนที่บ้านหลังนี้ ไม่รู้เห็นกับการซื้อขายยาเสพติด และอาวุธปืนภายในบ้านที่ตำรวจค้นพบ

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 กล่าวว่า ชุดสืบสวน ภ.จว.นครปฐม และชุดสืบสวน สภ.นครชัยศรี ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหามีพฤติกรรมอันธพาล ชอบชักอาวุธปืนยิงข่มขู่พี่น้องประชาชน และยิงปืนขึ้นฟ้าในช่วงเวลากลางคืน โดยมีชาวบ้านได้เข้าร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมายาวนานต่อเนื่อง จึงได้สั่งการให้ตำรวจทำการปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ และสามารถจับกุมทั้งอาวุธปืนและยาเสพติดจำนวนมาก จากบ้านของผู้ต้องหาเพียงหลังเดียว ที่ประชาชนได้ร้องเรียนแจ้งเบาะแสมา โดยจะนำอาวุธปืนทั้งหมดไปทำการตรวจเปรียบเทียบว่าเคยก่อเหตุที่ไหนอย่างไรหรือไม่ ตร.ภ.7 มีการระดมกำลังอย่างต่อเนื่องในทุกระยะ เพื่อลดความหวาดระแวงภัยของพี่น้องประชาชน และเพื่อเป็นการป้องปราม สิ่งสำคัญที่สุดเพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในชีวิตและทรัพย์สิน

ผบช.ภ.7 กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบในระบบพบว่า ผู้ต้องหารายแรกเคยก่อเหตุมา ไม่ว่าจะเป็นลักทรัพย์ จำหน่ายยาเสพติด ทั้งยังเคยก่อคดีฆ่าผู้อื่น จำคุกมากกว่า 10 ปี และยังมีคดีร่วมกันโทรมหญิง ในการจับกุมครั้งนี้ยังมียาเสพติด ยาไอซ์ ยาบ้า อาวุธปืน ซึ่งอาวุธปืนทั้งหมดจะทำการขยายผลว่าซื้อมาจากแหล่งใด รวมถึงยาเสพติดด้วย โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดทีมชุดสืบสวนตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทั้งหมดว่าเคยก่อเหตุที่ใดบ้าง และเป็นแก๊งค้ายาเสพติดหรือไม่ เพื่อสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม

ส่วน พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม เปิดเผยว่า จากการซักถามเบื้องต้น ผู้ต้องหาอ้างว่า อาวุธปืนที่จับกุมทั้งหมดนี้ได้มาอย่างถูกต้อง แต่ยังอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวน เนื่องจากอาวุธปืนบางกระบอก ยังไม่พบร่องรอยของทะเบียนที่ถูกลบ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบยังมีบางชิ้นส่วนนั้นพบว่าเป็นของอาวุธปืนอาก้า ซึ่งเป็นอาวุธปืนสงครามที่นายทะเบียนไม่สามารถออกได้ ในส่วนนี้จะขยายผลว่าใครเป็นเจ้าของ ตรวจสอบถึงเจ้าของในแต่ละกระบอก รวมถึงกัญชาแท่งที่พบเจอครั้งนี้ว่ามีการรับมาจากแหล่งใด สำหรับลูกกระสุนปืนที่ค้นพบในครั้งนี้ตามปกติแล้วหากมีไว้ในครอบครองไม่ควรเกิน 12 นัด และหากนายทะเบียนสามารถออกใบอนุญาตได้ ก็ครอบครองไม่เกิน 12 นัด ทางตำรวจจะมีการตรวจสอบในเชิงลึก ทั้งนี้จะตรวจสอบในระบบว่าพื้นที่ใดที่เคยเข้าไปก่อเหตุ โดยจะให้กองพิสูจน์หลักฐานเปรียบเทียบหัวกระสุน และปลอกกระสุนปืนทั้งหมดว่ามีการเกี่ยวข้องกับคดีที่เกิดขึ้นแล้วหรือไม่.