ผบช.ภ.7 โชว์ผลงานกวาดล้างอาชญากรรม รวบ 13,736 คดี ผู้ต้องหา 14,124 คน จ่อฟันซุ้มมือปืนหากเคลื่อนไหวช่วงเลือกตั้ง อบต.

ผบช.ภ.7 โชว์ผลงานกวาดล้างอาชญากรรม 10 วัน ในภาค 7 รวบ 13,736 คดี ได้ผู้ต้องหา 14,124 คน ของกลางอาวุธปืน ยาเสพติดเพียบ จึงหวังสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนช่วงเปิดประเทศ พร้อมประกาศถึงซุ้มมือปืนต่างๆ ที่คิดจะก่อเหตุช่วงเลือกตั้ง อบต. ให้หยุด เพราะจะใช้มาตรการเด็ดขาด

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 1 พ.ย. 64 ที่ห้องประชุม ตร.ภ.7 พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย รอง ผบช.ภ.7 ผบก.ภ.จว. 8 จังหวัด และ ผกก.สภ. 114 สถานี ในความรับผิดชอบของ ภาค 7 ได้ร่วมเปิดแถลงข่าว ผลการระดมกวาดล้าง อาชญากรรม และภัยคุกคามประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยจับกุมผู้กระทำผิด พร้อมของกลางจำนวนมาก จากผลการกวาดล้างในช่วง 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 21-31 ต.ค. 64

ในการระดมกวาดล้างในครั้งนี้สามารถจับกุมอาชญากรรมทั่วไป จับกุมได้ 10,699 ราย ผู้ต้องหา 11,214 คน แบ่งเป็นคดี ความผิดเกี่ยวกับการพนัน จับกุม 2,089 ราย ได้ผู้ต้องหา 2,622 คน ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จับกุม 5,104 ราย ได้ผู้ต้องหา 5,079 คน ความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง จับกุมได้ 2,713 ราย ผู้ต้องหา 2,718 คน ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน จับกุม 792 ราย ผู้ต้องหา 794 คน

ความผิดเกี่ยวกับสถานบริการ จับกุม 1 ราย ผู้ต้องหา 1 คน อาชญากรรมทางเทคโนโลยี จับกุม 471 ราย ได้ผู้ต้องหา 614 คน แยกเป็น การหลองลวงทางออนไลน์ ด้านการเงิน จับกุม 20 ราย ได้ผู้ต้องหา 6 คน หลอกลวงจำหน่ายสินค้าทางออนไลน์และสินค้าผิดกฎหมาย จับกุม 21 ราย ได้ผู้ต้องหา 21 คน การเผยแพร่ข่าวปลอมและคดีความผิด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จับกุม 59 ราย ได้ผู้ต้องหา 23 คน การพนันออนไลน์ อาชญากรรมข้ามชาติและอื่นๆ จับกุม 641 ราย ได้ผู้ต้องหา 564 คน จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับทั้งใหม่ และค้างเก่าได้ผู้ต้องหา 2,296 ราย

สรุปผลการจับกุมได้ทั้งสิ้น 13,736 ราย ได้ผู้ต้องหา 14,124 คน และของกลางที่ยึดประกอบคดี อาวุธปืน ชนิดต่างๆ ทั้งปืนยาวและปืนสั้น รวมถึงปืนไทยประดิษฐ์ 1,030 กระบอก ยาบ้า 169,937 เม็ด กัญชา 97,372 กรัม 517 ต้น เครื่องคอมพิวเตอร์ 7 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง

พล.ต.ท.ธนายุตม์ เผยว่า จากนโยบายของรัฐบาลและ สตช. มีความห่วงใยในความปลอดภัยและทรัพย์สินของประชาชนในช่วงเกิดวิกฤตการณ์โควิด-19 ทำให้ประชาชนใช้สื่อสังคมออนไลน์มากขึ้น มิจฉาชีพจึงใช้โอกาส หลอกลวงประชาชนผ่านสื่อสังคมออนไลน์โดยใช้ Social Media เป็นจำนวนมาก ประกอบกับนโยบายเปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 64 เป็นต้นไป เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยว ว่าจะได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รัฐบาลจึงให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งรัดดำเนินการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทุกรูปแบบที่เป็นภัยคุกคามพี่น้องประชาชน ทั้งการกระทำความผิดที่เป็นอาชญากรรม ที่ปรากฏโดยทั่วไป และการกระทำความผิดที่เป็นอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

พล.ต.ท.ธนายุตม์ ยังฝากถึงซุ้มมือปืนต่างๆ ที่อยู่ในภาค 7 ว่า หากคิดจะก่อเหตุในการเลือกตั้ง อบต.ครั้งนี้ ว่าต้องหยุดหากจะก่อเหตุอย่างเด็ดขาด และตำรวจจะใช้มาตรการเด็ดขาดในการปราบปรามอย่างเต็มที่ 100 เปอร์เซ็นต์ กับทุกราย โดยไม่ไว้หน้า ไม่ต้องมีการขอ ตำรวจในยุคนี้จะต้องทำงานเชิงรุก เป็นตำรวจมืออาชีพ เพื่อความผาสุกของประชาชน ในส่วนของตำรวจหากทำผิดก็ไม่ไว้หน้าเช่นกัน.