พบศพอดีต ผจก.ธนาคาร ยิงขมับตัวเองดับในรถเบนซ์ข้างสุสานบรรพบุรุษในวัดไผ่ล้อม ราชบุรี คาดว่าเสียชีวิต 8 ชม. ญาติเผยไม่ทราบสาเหตุ แต่เชื่อตั้งใจมาฆ่าตัวตาย เพราะโทรบอกลาน้องสาว
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 ม.ค. 65 พ.ต.ท.พรชัย ตรีอุดม สว.สอบสวน สภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุพบศพชายนอนเสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์ บริเวณซอยบางป่า หมู่ที่ 8 ต.บางป่า อ.เมือง จ.ราชบุรี จึงรายงานให้ พ.ต.อ.จุมพล สิกเสน ผกก.สภ.เมืองราชบุรี ได้รับทราบ พร้อมนำกำลัง จนท.ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองราชบุรี รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับ จนท.พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ราชบุรี, แพทย์เวร รพ.ราชบุรี และ จนท.มูลนิธิประชานุกูลราชบุรี
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น E280 สีเทา หมายเลขทะเบียน กต 5650 พิษณุโลก จอดดับเครื่องอยู่บริเวณริมถนนซอยบางป่า หมู่ที่ 8 ต.บางป่า กระจกปิดหมดทุกด้านแต่ไม่ได้ล็อกประตูรถ กระจกด้านซ้ายหลังมีรอยแตกทะลุเป็นรู บริเวณโดยรอบไม่มีกลิ่นเหม็นภายในรถพบศพ นายนรินทร์ นิภากรพันธ์ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/9 หมู่ 2 ต.ดินทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก สวมเสื้อแขนสั้นสีแดง สวมกางเกงสแล็กขายาวสีเทา สวมรองเท้าแตะรัดส้นสีน้ำตาล นอนเสียชีวิตอยู่ที่เบาะคนขับโดยปรับเอนเบาะลักษณะนอนราบ
โดยมีรูที่ขมับด้านซ้ายและขวาเลือดออกบริเวณรูขมับทั้งสองข้างและใบหู มือข้างขวาถือปืนตกอยู่บนหน้าอก มือข้างซ้ายตกลงมาอยู่ข้างลำตัว ส่วนร่างกายไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้าย และมีผ้าขนหนูสีชมพูเปื้อนเลือดปิดบริเวณที่ใบหน้า ภายในรถพบปลอกกระสุนปืน ตกอยู่บนเบาะรถฝั่งคนขับ และบัตรคนพิการของผู้เสียชีวิต และกระเป๋าสะพายข้างสีดำอยู่บริเวณเบาะฝั่งคนนั่ง จากการตรวจสอบอาวุธปืนเป็นปืน ซิก ซาวเออร์ P365 ขนาด 9 มม. โดยมีกระสุนค้างในรังเพลิง 1 นัด และแมกกาซีนอีก 5 นัด รวมเป็น 6 นัด
นายบำรุง หอมจันทร์ อายุ 41 ปี ผู้พบศพเป็นคนแรก เล่าว่า ตนเห็นรถคันเกิดเหตุ มาจอดได้ 3 วันแล้ว จนวันนี้เวลาประมาณ 08.00 น. ขณะที่ตนได้ขับขี่รถ จยย.ออกไปทำธุระข้างนอก ได้ผ่านรถคันเกิดเหตุ รู้สึกเอะใจเห็นมาจอดตั้ง 4 วัน แต่ไม่ขยับไปไหน จึงจอดรถชะโงกหน้าส่องดูที่กระจกด้านฝั่งคนขับ จนพบว่ามีคนนอนถือปืนไว้ที่หน้าอกอยู่ภายในรถ จึงรีบไปเรียกพระที่วัดไผ่ล้อมซึ่งอยู่ข้างๆ ให้มาดูเป็นเพื่อน เพื่อความบริสุทธิ์ใจ จนมั่นใจว่าคนในรถไม่ขยับจึงรีบแจ้งผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ให้แจ้งตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งช่วงระยะเวลาที่พบเห็นรถคันดังกล่าว ตนเองไม่ได้ยินเสียงปืนแต่อย่างไร
ขณะที่ญาติผู้เสียชีวิต เผยว่า ผู้ตายเพิ่งจะปลดเกษียณจาก ผจก.ธนาคารแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทักข้อความเมสเสจไปหาผู้ตายเป็นครั้งสุดท้ายในวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา แต่ผู้ตายไม่มีการตอบกลับมา และตนก็ติดต่อไม่ได้ ซึ่งตนกับครอบครัวก็ยังงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าผู้ตายจะฆ่าตัวตายเพื่ออะไร เพราะผู้ตายเป็นคนที่นิสัยร่าเริงแจ่มใส อัธยาศัยดี เป็นคนที่เก่งมาก ถึงแม้จะพิการเป็นโปลิโอมาตั้งแต่กำเนิด ยังสามารถเรียนและทำงานจนได้เป็นถึง ผจก.ธนาคาร
แต่คาคว่าผู้ตายอาจจะขับรถมาที่ จ.ราชบุรี เพื่อมาไหว้อากง อาม่า ที่สุสานในช่วงปีใหม่ และมาก่อเหตุฆ่าตัวตาย เพราะผู้ตายได้โทรหาน้องสาวที่อยู่กรุงเทพฯ เหมือนลักษณะสั่งลาในวันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้ตนและครอบครัวได้แต่รอผลผ่าพิสูจน์ทาง รพ. และ จนท.ตำรวจสรุปสำนวนคดีถึงสาเหตุของการเสียชีวิต
เบื้องต้นทาง จนท.ตำรวจ ได้ทำบันทึกที่เกิดเหตุ พร้อมให้ทางพิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบเขม่าที่บริเวณมือข้างขวา และบริเวณบาดแผล พร้อมส่งศพผู้ตายไปยังศูนย์นิติเวช รพ.ราชบุรี และจะสอบปากคำพยานที่พบศพและญาติ เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริง ก่อนจะมอบร่างผู้ตายให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป.
