ระทึก! โจรใต้ลอบวางระเบิด หวังถล่มทหารพราน รถพังยับ โชคดี! จนท.ไม่ได้รับบาด

โจรใต้วางระเบิด 25 กิโล จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร หวังถล่มทหารพรานที่กำลังเดินทางไปสนับสนุนชุด ทพ.48 เปิดแผนยุทธการกดดันไล่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง 6 คัน ผลแรงระเบิดรถพังยับ ก่อน จนท.จะส่งชุดลงตรวจค้นคนร้าย 2 เป้าหมาย

เมื่อเวลา 09.05 น. วันที่ 15 ธ.ค.64 ร.ต.อ.สมภพ เกษรมาศ รอง สว.สอบสวน สภ.สากอ อ.สุไหงปาดี รับแจ้งมีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าเหน้าที่ทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 1005 กรมทหารพรานที่ 10 บนถนนสายชนบท 4266 ช่วงบริเวณบ้านตือระ ม.1 ต.สากอ ทำให้รถยนต์กระบะได้รับความเสียหาย จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ลัทธวิชย์ แคยิหวา สว.สภ.สากอ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ตชด.447 และจากกองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส รวมทั้งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ


พบที่บริเวณผิวยางมะตอมริมถนน ซึ่งเป็นจุดคนร้ายลอบวางระเบิด ยางมะตอยแตกกระเด็นเป็นรัศมีกว้าง 100 ซม. ลึก 30 ซม. และมีซากเศษชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิกนิก หนัก 25 ก.ก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนนและพงหญ้ารกทึบริมทาง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบซากเศษชิ้นส่วนของกระสอบปุ๋ยสีขาว และรถยนต์กระบะตกกระจายอยู่จำนวนหนึ่ง ส่วนรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียน 3ฒช 3042 กทม. ซึ่งถูกอนุภาพของระเบิดได้รับความเสียหายที่บริเวณกันชนหน้า กระจังหน้า ฝากระโปรงหน้า และกระจกหน้าแตกละเอียด จอดห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 800 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 1005 ซึ่งตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่ อ.สุคิริน จำนวน 24 นาย กระจายกันนั่งโดยสารรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ จำนวน 3 คัน และนั่งรถยนต์กระบะ จำนวน 3 คัน ออกจากฐานฯ เพื่อเดินทางไปสนับสนุนกำลังพลให้กับชุดเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 ในการเปิดแผนยุทธการกดดันไล่ล่ากลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง โดยเจ้าหน้าที่ทหารได้ขับรถยนต์ตามไล่หลังกันมา จำนวน 6 คัน เมื่อถึงที่เกิดเหตุ ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบริมทาง ได้ใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิดที่นำบรรจุไว้ในกระสอบปุ๋ยสีขาว ที่คนร้ายนำไปตั้งไว้แบบเร่งด่วนริมถนน จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ในขณะที่รถยนต์กระบะของเจ้าหน้าที่ทหารที่ขับปิดท้ายขบวนได้รับความเสียหาย พลขับจึงได้รีบขับรถยนต์กระบะออกจากจุดเกิดเหตุไปไกล ประมาณ 800 เมตร จึงได้จอดขบวนรถในการตรวจสอบความเสียหาย และได้แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบเหตุที่เกิดขึ้น ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง เพื่อลอบดักสังหารเจ้าหน้าที่รายวัน

ต่อมาหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วม จ.นราธิวาส พร้อมเจ้าหน้าที่ ฉก.ทพ.48 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บังคับใช้กฎหมายเข้าทำการตรวจค้นบ้านพักต้องสงสัย ที่คาดว่าจะมีส่วนร่วมกับการก่อเหตุกลุ่มคนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กองร้อย.ทพ.1005 โดยมีเป้าหมาย 2 จุดในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เป้าหมายที่ 1 เข้าตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 12 ม.3 ต.ริโก๋ อ.สุไหงปาดี พบนายยูสมีซัน มูฮำหมัด ซึ่งเป็นบุคคลเป้าหมาย ได้แสดงตนเป็นเจ้าของบ้านและเป็นผู้นำเข้าตรวจสอบภายในบ้าน จากการตรวจสอบไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงได้จัดเก็บข้อมูลทางบุคคลในครอบครัว ก่อนเชิญตัว นายยูสมีซัน มูฮำหมัด ไปยัง ฉก.ทพ.48 เพื่อทำประวัติบุคคลและทำการจัดเก็บสารพันธุกรรม DNA ไว้เป็นฐานข้อมูล

เป้าหมายที่ 2 เข้าตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 10/1 ม.3 ต.สากอ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส พบ นายยาวา แมเร๊าะ ซึ่งเป็นบุคคลเป้าหมาย ได้แสดงตนเป็นเจ้าของบ้านและเป็นผู้นำเข้าตรวจสอบภายในบ้าน จากการตรวจสอบไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงได้จัดเก็บข้อมูลทางบุคคลในครอบครัว ก่อนเชิญตัวนายยาวา แมเร๊าะ ไปยัง ฉก.ทพ.48 เพื่อทำประวัติบุคคลและทำการจัดเก็บสารพันธุกรรม DNA ไว้เป็นฐานข้อมูล โดยทั้ง 2 คนถูกส่งตัวเพื่อดำเนินกรรมวิธีซักถาม ที่ศูนย์ซักถาม ฉก.ทพ.46 และหากตรวจสอบแล้วว่าบุคคลทั้ง 2 ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จะได้ปล่อยตัวกลับภูมิลำเนาต่อไป.