สตช.เทหมดหน้าตัก ปิดเทือกเขาบรรทัด ระดมล่า! “เสือฉุย” พร้อมสมุน มือปืนฆ่าตำรวจ

นับตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม ที่ผ่านมา ตำรวจกองปราบปราม นำโดย พ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6 บก.ป. เข้าจับกุมตัวนายจำรัส หรือ ฉุย รักจันทร์ หรือฉุย รัตภูมิ หรือฉุย ป่าบอน อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่น มือปืนรับจ้างรายสำคัญชาว อ.รัตภูมิ จ.สงขลา หลังสืบทราบว่ามือปืนรายนี้กับสมุนคู่ใจ กบดานอยู่ในพื้นที่บ้านท่าควาย ตำบลโคกม่วง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง

มีการยิงกันแบบดุเดือดเลือดพล่าน ราวกับฉากในภาพยนตร์บู๊แอ็กชันบริเวณแยกไฟแดงบ้านท่านางพรหม หมู่ 6 ต.โคกม่วง อ.เขาชัยสน ตำรวจขับรถประกบรถเก๋งของคนร้าย แต่ถูกอาวุธปืนสงครามยิงสวนออกมาขณะที่รถตำรวจพยายามแซงซ้าย กระสุนถูก ด.ต.อนันต์ มีแสง ที่ศีรษะ และถูกด.ต.ชัชชัย ศัญโย ที่แขนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่ด.ต.อนันต์ จะเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลเขาชัยสน เป็นการเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่จับกุมคนร้าย ซึ่งเป็นเรื่องที่ “ตำรวจยอมไม่ได้”

เหตุการณ์ที่สี่แยกบ้านท่านางพรหมวันนั้น ยังคงติดตาและค้างคาใจ โดยเฉพาะเพื่อนร่วมงานของดาบอนันต์

นับจากนั้น มหกรรมไล่ล่ามือปืนรายนี้จึงได้เริ่มขึ้น ชื่อของ ฉุย รักจันทร์ กลายเป็นหนามยอกอก ที่ตำรวจต้องล่าตัวมาให้ได้

วันที่ 11 มีนาคม พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. บินด่วนไปประชุมตำรวจที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ร่วมกับพล.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง ติดตามความคืบหน้าคดีเหตุยิงปะทะปิดล้อมจับกุมคนร้ายที่แยกไฟแดงเขาชัยสน โดยระบุว่า

ผบ.ตร.เดินทางมาเรียกประชุมชุดทำงานด้วยตัวเอง ตั้งแต่วันหลังเกิดเหตุ

“ผู้ต้องหาที่หลบหนีเป็นบุคคลอันตราย และก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยตั้งใจจะยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจเลย ส่วนอาวุธที่ใช้มีอาวุธปืนซีเอ็มเอ็มจี ขนาด 9 มม. อาวุธปืนโคลต์ 1 กระบอก อาวุธปืนเอชเค 2 กระบอก กระสุนปืนอาวุธสงคราม”

วันที่ 14 มี.ค. ตำรวจสืบสวน ภ.จว.พัทลุง พร้อมตำรวจชุดปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตชด.434 ได้ระดมออกไล่ล่า หลังมีเบาะแส “เสือฉุย” พร้อมสมุนอีก 2 คน หลบหนีอยู่ในพื้นที่ป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด รอยต่อ จ.พัทลุง สงขลา สตูล

ชุดไล่ล่าเดินเท้าเข้าเป้าหมายบนเทือกเขาบรรทัด จ.พัทลุง

ตำรวจต้องเดินเท้า เพื่ออ้อมทางเข้าบ้านนายฉุยกลางป่าบ้านเขาคาว เทือกเขาบรรทัด เกรงว่าเพื่อนบ้าน ญาติ สายของคนร้ายจะแจ้งข่าวกับนายฉุย จนคนร้ายไหวตัว ทำให้การทำงานยากมากขึ้นต้องเดินลัดเลาะขึ้นเนินเขา เพื่อไปยังเป้าหมายขนำกลางป่าเทือกเขาบรรทัด ใช้เวลาเดินเท้ากว่า 6 ชั่วโมง ตามเส้นทางลาดชัน ระยะทางกว่า 11 กิโลเมตร

จากการตรวจค้นขนำกลางป่า พบร่องรอยการพักอาศัย มีการก่อไฟ ต้มอาหารสำเร็จรูป ชงกาแฟ ยังพบอุปกรณ์เสพยาบ้า 1 ชุด จากนั้นกำลังส่วนหนึ่งได้เดินกลับลงมาจากเทือกเขาบรรทัดในตอนใกล้ค่ำของวันเดียวกัน แต่ยังตรึงกำลังไว้ส่วนหนึ่ง เพื่อติดตามความเคลื่อนไหว

ขณะที่การไล่ล่า “ฉุย รักจันทร์กับพวก” ยังคงดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น มีการแบ่งพื้นที่และหน้าที่เป็น 2 ชุด โดยพื้นที่ จ.สงขลา มี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิรเดช ภูมิเดช ผบช.ก. พร้อมกำลัง ตำรวจสืบสวน ภาค 9 ตำรวจกองปราบ และชุดปฏิบัติการพิเศษแดนไทย 54 ร่วมกันรับผิดชอบ

บิ๊กใหม่ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบ.ตร. รับหน้าที่นำทีมติดตามล่าตัวคนร้ายในพื้นที่จ.พัทลุง

ในส่วนของจ.พัทลุง มี “บิ๊กใหม่” พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. เป็นผู้รับผิดชอบ โดยใช้กำลังตำรวจสืบสวน ภ.จว.พัทลุง กำลังตำรวจชุดปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตชด.434 เป็นหลัก

ปฏิบัติการครั้งนี้ จึงเป็นการเดิมพันแบบหมดหน้าตักของ สตช.อีกครั้ง ระดมสรรพกำลังไล่ล่าแบบ “จับเป็นไม่ได้ก็จับตาย” ซึ่งคงต้องติดตามด้วยใจระทึก ตำรวจจะปิดเกมได้ในเร็ววัน หรือเสือร้ายเจ้าถิ่น จะหลุดรอดเงื้อมมือกฎหมายไปได้อีกครั้ง..