สัปดาห์เดียว 3 ราย! ไอ้หื่นปีนหอพักข่มขืน “สาวโรงงาน-นักศึกษา” เผยวิธีเลือกห้องเหยื่อ!

ไอ้หื่นปีนหอพักข่มขืนสาวโรงงาน-นักศึกษา สัปดาห์เดียว 3 ราย เผยวิธีเลือกเหยื่อ ห้องที่มีเสื้อผ้าผู้หญิงตากที่ระเบียง

10 มิ.ย.65 ที่่ผ่านมา เมื่อเวลา 15.30 น. พ.ต.อ.จักรพงศ์  นุชผดุง ผกก.สภ.สำโรงใต้ สมุทรปราการ พ.ต.ท.ชยชัย  นาธนกาญจน์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.วงษ์นคร  สว.สส. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ร่วมกันจับกุมตัว นายวิชัยยุทธ หรือ แบงค์ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 322 / 2565 ลงวันที่ 10 มิถุนายน 2565 ฐานความผิด ข่มขืนกระทำชำเราผู้อ่าน โดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ โดยมีและใช้อาวุธมีดปลายแหลม และบุกรุกเข้าไปในเคหสถานในยามวิกาล โดยจับกุมตัวได้ในห้องเช่าแห่งหนึ่ง หมู่ 12 ซอยโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ต.บางหัวเสือ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ  

ทั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงสาวหน้าตาดีจำนวน 3 ราย ได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงใต้ ว่าถูกคนร้ายเป็นชายได้เข้าไปข่มขืนในห้องพัก โดยรายแรกเกิดเหตุเมื่อเวลา 03.00 น. ของวันที่ 28 พฤษภาคม 2565 ที่หญิงสาว ซึ่งทำงานโรงงาน อายุ 30 ปี ที่พักอาศัยอยู่ในอาคารหอพักแห่งหนึ่ง ในย่าน ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง สมุทรปราการ ส่วนรายที่สอง เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นหญิงสาวทำงานเป็นสาวโรงงาน วัย 34 ปี ที่พักอาศัยอยู่ในหอพักแห่งหนึ่งในย่าน ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง สมุทรปราการ และรายที่สาม เวลา 03.00 น.วันที่ 3 มิถุนายน 2565 เป็นหญิงสาวนักศึกษาชั้น ปริญญาตรี อายุ 21 ปี ซึ่งพักอยู่ที่ชั้นสองของคอนโด แห่งหนึ่ง ในย่าน ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งในครั้งนี้กล้องวงจรปิดของคอนโดดังกล่าวสามารถบันทึกพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้อย่างชัดเจน แม้ว่าผู้ก่อเหตุจะพยายามใช้ผ้าใบปิดบังใบหน้าเอาไว้ 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่หาข่าวและรวบรวมหลักฐานภาพกล้องวงจรปิด จนกระทั่งในวันนี้ได้ทราบตัวผู้ก่อเหตุชาย นายวิชัยยุทธ หรือ แบงค์ อายุ 33 ปี จึงรวบรวมหลักฐานเข้าขออนุมัติหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ก่อนนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำหมายจับเข้าทำการจับกุมตัวเอาไว้ได้ก่อนคุมตัวมาทำการสอบปากคำที่โรงพัก สภ.สำโรงใต้ สมุทรปราการ  ซึ่งระหว่างคุมตัวนายแบงค์ มาถึงโรงพัก อยู่ๆ ญาติของผู้เสียหายที่เดินทางมารอดักอยู่ ได้รุมทำร้ายนายแบงค์ ขณะที่เจ้าหน้ากำลังคุมตัวนายแบงค์ เข้าสอบสวนในห้องสืบสวน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างพาหกันกันตัวญาติผู้เสียหายออกไปจากที่เกิดเหตุ  

ด้านหญิงสาวผู้เสียหายรายหนึ่ง ได้เล่าว่า เธอถูกผู้ต้องหารายนี้บุกเข้ามาบังคับข่มขืน คืนวันเกิดเหตุคือวันที่ 28 พ.ค. 65 ที่ผ่านมา เวลาประมาณตีสาม ขณะที่เธอกำลังนอนพักผ่อนอยู่นั้น ได้ยินเสียงคล้ายมีคนเข้ามาในห้อง ตอนแรกก็เข้าใจว่าเป็นแฟนหนุ่ม เนื่องจากแฟนเข้ากะดึก ไม่นานผู้ต้องหารายนี้ก็มานอนข้างๆบนที่นอน พอตนเองเอ่ยปากว่าชายคนดังกล่าว ซึ่งตอนแรกเข้าใจว่าเป็นแฟนหนุ่ม  ว่าไม่ทำงานหรือทำโอทีหรืออย่างไร แต่ผู้ต้องหาตอบกลับมาว่าไม่ทำเพราะเหนื่อย ซึ่งตอนนั้นตนเองเริ่มรู้สึกไม่ดีเพราะเสียงที่ได้ยิน ไม่ใช่เสียงแฟนหนุ่มของตน พอตนเองเอามือไปจับมือผู้ต้องหาในขณะนั้น ก็รู้ทันทีว่าไม่ใช่แฟนหนุ่มแน่เพราะแฟนไม่ใส่เสื้อแขนยาว จึงพยามลุกหาโทรศัพท์เพื่อเปิดแสงไฟมองหน้าชายคนดังกล่าว แต่กลับถูกบังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ โดยคนร้ายอาศัยจังหวะที่ตนเองไปเข้าห้องน้ำได้ปีนหนีกลับออกไปด้านหลังของห้องพักทางท่อระบายน้ำ หลังเกิดเหตุจึงเดินทางมาแจ้งความ จนกระทั่งทราบว่ามีผู้เสียหายอีกหลายรายและตำรวจสามารถตามจับตัวได้ ยอมรับว่าดีใจที่จับตัวผู้ต้องหารายนี้ได้ เพราะถือเป็นภัยสังคมอย่างสูง   

พ.ต.อ.จักรพงศ์  นุชผดุง ผกก.สภ.สำโรงใต้ ได้เปิดเผยว่า ในเคสนี้ผู้ต้องหาถือว่าเป็นภัยต่อสังคม จากการที่ได้สอบถามทางผู้ก่อเหตุ ได้ให้การว่า การเลือกเหยื่อเขาก็จะตระเวนดูตามหอพักจะไปดูลาดเลาก่อนที่จะลงมือก่อเหตุ โดยจะสังเกตวงกล้องจรปิดว่ามีตรงไหนบ้าง และจะดูที่หลังระเบียงว่ามีการตากผ้าของผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้าเห็นว่าเป็นของผู้หญิง ก็จะเล็งเอาไว้และเลือกหอพักที่สามารถปีนระเบียงด้านหลังขึ้นไปได้ และเลือกลงมือก่อเหตุในช่วงเวลากลางคืนในเวลาประมาณตีสาม และในขณะก่อเหตุก็จะใช้ปลอกหมอนหรือผ้าที่อยู่ในห้องของผู้เสียหายเอามาปิดหน้าผู้เสียหายเอาไว้ไม่ให้จำใบหน้าได้ แต่ผู้ก่อเหตุมาจนมุมภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกโฉมหน้าเอาไว้ได้อย่างชัดเจน จนกระทั่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวเอาไว้ได้  

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาว่า ข่มขืนกระทำชำเราผู้อ่าน โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ โดยมีและใช้อาวุธมีดปลายแหลม และบุกรุกเข้าไปในเคหสถานในยามวิกาล ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานาสอบสวน สภ.สำโรงใต้ สมุทรปราการเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป