เจ้าของกระเป๋าแอร์เมส พร้อมทนายเดินทางให้ปากคำ ยัน! รับคำขอโทษเป็นเงิน 2 ล้าน เท่านั้น!

เจ้าของกระเป๋าแอร์เมส พร้อมทนายความ เดินทางเข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน เพิ่มเติม ยันรับคำขอโทษเป็นเงิน 2 ล้าน เท่านั้น และต้องการให้บทเรียนคู่กรณี ให้รับผิดชอบคำพูดตัวเอง

กรณี นางสาวจิดาภา ชีนารักษ์ หรือ ชมพู่ อายุ 24 ปี เจ้าของกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อ Hermes ที่นำไปขายให้กับร้านในราคา 395,000 บาท เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา แต่เจ้าของร้านระบุว่ากระเป๋าดังกล่าวเป็นของปลอม พร้อมกับได้ใช้ปากกาเมจิกเขียนลงบนกระเป๋าด้วยข้อความที่ระบุว่า “ปลอม” และไม่ยอมคืนกระเป๋าให้ อีกทั้งยังประกาศด้วยว่าหากตรวจสอบกระเป๋าดังกล่าวแล้ว พบว่าเป็นของจริงจะโอนเงินให้ 2 ล้าน พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น “สรพงษ์” และจะเลิกเป็นสาวประเภทสองในทันที จนเกิดเป็นประเด็นดังกล่าวขึ้น

ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 20 ธันวาคม 2564 ที่ สน.บางขุนเทียน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวจิดาภา ชีนารักษ์ หรือ ชมพู่ อายุ 24 ปี เจ้าของกระเป๋าแอร์เมส พร้อมด้วยทนายเกิดผล แก้วเกิด เดินทางมาที่ สน.บางขุนเทียน ตามที่พนักงานสอบสวนได้นัดหมายให้มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ในคดีที่ นางสาวจิดาภา แจ้งความร้องทุกข์ ใน 2 ข้อหา คือ ยักยอกทรัพย์ และทำให้เสียทรัพย์

โดย ทนายเกิดผล ระบุว่า วันนี้เข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน และนำหลักฐานมายื่นเพิ่มเติม รวมถึงใบรับรองจากสถาบันตรวจสอบกระเป๋า ที่ทางเจ้าของสถาบันนำมายื่นไว้ก่อนหน้านี้ พร้อมกับกระเป๋าแอร์เมส

ส่วนในอนาคต จะมีการพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มเติม คือ หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา แต่ต้องพิจารณาดูว่าเป็นการกระทำความผิดกี่กรรมและครั้ง จากการไลฟ์สดที่กล่าวหาว่ากระเป๋าเป็นของปลอม

ทางด้าน นางสาวจิดาภา ชีนารักษ์ หรือ ชมพู่ ยืนยันว่า จะไม่ยอมความ และดำเนินคดีถึงที่สุด หากคู่กรณีไม่จ่ายเงิน 2 ล้านบาทตามที่ประกาศไว้ เพราะมองว่าคู่กรณีไม่รู้สึกสำนึกว่าทำผิด พูดย้ำแต่ว่าไม่ได้ยักยอก ทั้งที่ที่ผ่านมา พฤติกรรมส่อเจตนาไม่บริสุทธิ์ ทั้งการไม่ยอมคืนกระเป๋า และใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดังนั้นอยากให้การกระทำในครั้งนี้เป็นบทเรียน ว่าต้องรับผิดชอบคำพูดของตนเอง

ส่วนตัวยอมรับว่ามีความกังวลใจอยู่บ้าง แต่ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย ส่วนเรื่องการเปลี่ยนชื่อเป็น “สรพงษ์” ไม่รู้สึกอะไร เพราะถือเป็นเรื่องที่เจ้าตัวพูดมาเอง

ทั้งนี้ยืนยันว่า ให้ทุกอย่างจบที่กระบวนการชั้นศาล แม้จะขอโทษก็ไม่ยอมรับ แต่จะยอมก็ต่อเมื่อจ่ายเงินสด 2 ล้านบาทเท่านั้น

ส่วนสาเหตุที่เลือกขายกับเจ้านี้ เพราะเป็นผู้ที่ให้ราคาดีที่สุด คือ 3.95 แสนบาท และสำหรับคนเล่นแบรนด์เนม เมื่อเห็นคนมาเขียนบนกระเป๋ารู้สึกปวดใจ จนร้องไห้ และที่สำคัญการทำให้กระเป๋ามีร่องรอย ทำให้ราคายิ่งตกลงไป

ผู้สื่อข่าวรายงานอีก่า จากนั้น นางสาวจิดาภา ชีนารักษ์ หรือ ชมพู่ จึงขึ้นไปให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่ชั้น 2 ของ สน.บางขุนเทียน